ตอนที่5พระชายาในหัวใจของเขา
นี่ทำให้เสี่ยวจีกับแม่นมตกใจมากรีบเรียกสาวใช้มาช่วยพยุงชูเซี่ย ขึ้นบนเตียงนอนสาวใช้ที่รู้เรื่องรีบไปเชิญหมอที่นอกตำหนักเพราะ ทราบว่าหมอหลวงกำลังช่วยรักษาแผลให้กับท่านอ่องและองครักษ์
อยู่
หมอเทพจูเก๋อไม่กล้าแตะต้องและตรวจเช็คร่างกายชูเซี่ยเมื่อ ได้ยินว่าซูเซี่ยเคยมีอาการหวาดกลัวเลือดจึงออกยาสงบจิตใจให้ เท่านั้น
แต่ชูเซี่ยกินยาไปสองสามวันแล้วยังรู้สึกมึนหัวตื่นมาไม่ได้และ ปวดเอวมากยิ่งขึ้น
ภายในสามวันที่เธอไม่ฟื้นเธอได้ยินเสียงที่ขึงขังดังก้องอยู่ในหู ของเธออีกครั้ง
“ชูเซี่ยถึงเวลาตื่นแล้ว”
เธอลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันและลุกขึ้นนั่งบนเตียงมือกดเอวตอนนี้ เหลือเพียงความเจ็บปวดเล็กน้อย
เสียงพูดนั้นของใครกันทันใดนั้นเธอนึกถึงเสียงที่ได้ยินในวันที่ โดนแทงเสียงนั้นบอกว่าจะให้โอกาสให้เธอเกิดใหม่อีกครั้งพร้อม มอบบางสิ่งบางอย่างให้ด้วยเป็นคนนั้นเอง
เสี่ยวจีเฝ้าอยู่ข้างๆเตียงนอนของเธอตลอดเมื่อเห็นเธอตื่นมาก็พูด อย่างร่าเริงว่า “ท่านหญิงตื่นขึ้นแล้วหรือยังเจ็บตรงไหนหรือไม่หิวน้ำ หรือไม่หม่อมฉันไปเอาน้ำมาให้เจ้าค่ะ” พูดจบก็หันตัวไปที่โต๊ะเอาน้ำ อุ่นแก้วหนึ่งมาให้เธอและบอกว่า “ท่านหญิงดื่มซ้าๆเจ้าค่ะ”
เธอดื่มน้ำเสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นเห็นเสี่ยวจี่จ้องมองเธอด้วยสีหน้า ทั้งดีใจทั้งเศร้าโศกน้ำตาคลอและพูดว่า”ท่านหญิงท่านสลบไปไม่ ฟื้นมาสามวันแล้วเสี่ยวจี่กลัวมาก”
ชูเซี่ยยิ้มและบอกว่า”ข้าไม่เป็นไร”จากนั้นเอาผ้าห่มออกลุกจาก เตียงนอนที่แรกเธอคิดว่าขาสองข้างน่าจะเหนื่อยไร้เรี่ยวแรงแต่เมื่อ เธอยกขาขึ้นเล็กน้อยกลับรู้สึกว่าทั้งร่างกายเต็มไปด้วยพลังทำท่า ทางต่างๆก็เบาง่ายจนทำให้เธอแปลกใจเธอนั่งอยู่ขอบเตียงเสี่ยว จี้ก้มตัวลงเพื่อช่วยเธอสวมรองเท้าเธอรีบบอกว่า”ไม่ต้องข้าทำเอง ได้”
เสี่ยวจี่เงยหน้าขึ้นมองดูเธออย่างประหลาดใจว่า “ท่านหญิงไม่ พอใจกับการดูแลของหม่อมฉันหรือเจ้าค่ะ”
ชูเซียก้มตัวลงสวมรองเท้าเรียบร้อยลุกขึ้นเดินไปเดินมาสองสาม
ก้าว
ความไม่สบายตัวล้วนหายไปหมดเธอหันมายิ้มว่า”เสี่ยวจี๋ข้าจะไม่ พอใจกับเจ้าได้อย่างไรกันข้าแค่นอนไปหลายวันเมื่อยมากอยากจะ ลุกขึ้นมาออกกำลังกายหน่อย”
เธอนั่งบนเก้าอี้นึกถึงองครักษ์คนนั้นขึ้นมาไม่ทราบว่าตอนนี้เขาเป็นไงบ้างแล้วแม้ว่าจะรอดชีวิตมาได้แต่ก็ได้รับบาดแผลสาหัสมาก เธอ อดถอนหายใจเล็กน้อยไม่ได้
เสี่ยวจีได้ยินเสียงถอนหายใจของนางก็รู้สึกกังวลและบอก ว่า “ตอนนี้แม่หญิงมีเหอก็ได้แต่งงานกับท่านอ๋องแล้วแต่ท่านหญิง กับแม่หญิงมี่เหอเข้ากันไม่ได้มาตั้งแต่เด็กตอนนี้เธอเป็นคนรักของ ท่านอ๋องหม่อมฉันกลัวว่าชีวิตวันข้างหน้าของท่านหญิงจะอึดอัด มากขึ้น”
ซูเซี่ยยังไม่ได้พูดอะไรก็เห็นแม่นมเดินเข้ามาด้วยความดีใจเมื่อ เห็นเธอนั่งบนเก้าอี้นางพูดด้วยความเบาใจ”ท่านหญิงตื่นมาแล้วดี มากเลยเจ้าค่ะ”
ซูเซี่ยเงยหน้าขึ้นวันนี้แม่นมใส่ชุดสีเทาเข้มใบหน้าดูนุ่มนวลและ เมตตาแสดงว่าเป็นคนที่เอ็นดูนางจริงๆนางยิ้มและตอบว่า”ใช่ตื่นมา แล้ว”
แม่นมก้าวไปข้างหน้าว่า”ท่านหญิงพระชายารองมาแล้วเจ้าค่ะ”
ชูเซี่ยยังไม่ทันตั้งสติ “พระชายารอง?”
“คือแม่หญิงมีเหอเจ้าค่ะ”เสี่ยวจี๋เตือนและตอบว่า “ท่านหญิงเป็นพี่ สาวแท้ๆของนางและเป็นพระชายาเอกด้วยฐานะสูงกว่าท่านไม่ต้อง กลัวเจ้าค่ะถ้าหากนางกล้ารังแกท่านหญิงพวกข้าก็ฟ้องกับฮองเฮา เจ้าค่ะ”
ชูเซี่ยรู้อยู่ในใจจึงบอกกับแม่นมว่า”งั้นให้นางเข้ามาเถิด”
แม่นมตอบรับและออกไปไม่นานก็เห็นแม่นมพาผู้หญิงที่ใส่ชุด หรูหราพร้อมกับสาวใช้หลายคนตามอยู่ข้างหลังเข้ามา มีสาวใช้คนนึงถือถาดรองถ้วยยาที่ยังร้อนอยู่ไว้หนึ่งถ้วย
ผู้หญิงที่ใส่ชุดหรูหรามาถึงข้างๆชูเชี่ยไหว้กับเธอและบอกว่า “ท่าน พี่”
ชูเซี่ยจ้องมองเธอแม้ว่ามี่เหอก้มหัวอยู่แต่ใบหน้ากลับเงยขึ้นเล็ก น้อยถึงแม้ใบหน้าแสดงออกความเจียมตัวแต่ความภูมิใจในใจก็ ซ่อนไว้ไม่อยู่นางผิวขาวเหมือนหิมะใบหน้าสวยงามแต่เครื่องเพชร พลอยเต็มบนหัวทำให้เธอดูประหลาดไปนิดและแต่งชุดผ้าซาติน สีแดงเสื้อผ้าปักดอกโบตั๋นด้วยดิ้นทองซึ่งมีความละเอียดประณีต มาก
“ไม่ทราบว่าท่านพี่ถือหรือไม่เรื่องที่น้องสวมชุดพระชายาเอกของ ท่านพี่ที่จริงน้องก็บอกกับท่านอ๋องแล้วว่านี่ไม่เหมาะกับฐานะทำ อย่างนี้ไม่ได้แต่ท่านอ่องยืนยันให้น้องสวมชุดนี้ท่านอ๋องบอกว่าใน ใจท่านน้องสมเป็นพระชายาเอกของท่านเท่านั้น”มี่เหอเห็นชูเซี่ย จ้องดูแต่ชุดของเธอจึงคิดว่าเธอน่าจะไม่พอใจเรื่องนี้จึงอธิบายแต่ คำพูดเหล่านั้นเป็นการยั่วยุทั้งหมด
แม่นมกับเสี่ยวจี้เปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้นเสียดายที่ นางเป็นท่านหญิงพวกเธอเป็นคนใช้เท่านั้นแม้ว่าจะไม่พอใจอยู่มาก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้
ชูเซี่ยยิ้มและตอบว่า”พี่แค่สนใจการเย็บปักชุดนี้เท่านั้นฝีมือช่างยอดเยี่ยมจริงๆไม่ทราบว่าเป็นวิธีเย็บปักถักร้อยสองด้านหรือไม่พี่ ขอดูหน่อย”พูดจบก็ก้าวไปเปิดแขนเสื้อของนางเห็นว่ามีลวดลายที่ สวยงามอยู่ข้างในจึงยกย่องว่า”พระเจ้าฝีมือเยี่ยมสุดๆเลย”