“เราไปกันเถอะ”
หลัวซิวแค่ยิ้มโดยไม่ได้อธิบายอะไรมาก โบกมือเรียกเรือรบสีทองแดงออกมาหนึ่งลำ แล้วบินตรงไปยังทิศทางของภูเขาคุนหลุน
ยอดฝีมือที่เขาสังหารนั้นมีเยอะมาก ๆ ซึ่งเรือรบลำนี้ก็คือหนึ่งในอาวุธยุทธภัณฑ์ที่ยึดมาได้จากข้าศึก
การช่วยชีวิตหนิงหานยู่ออกมาในเมืองคุนซานกินเวลาไปไม่นานมากเท่าไหร่นัก ทุกอย่างราบรื่นมาก ๆ เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือของหลัวซิวนั้นก็พอเพียงมากเช่นกัน
ระหว่างทางที่บินตรงไปยังภูเขาคุนหลุน หลัวซิวนำวรยุทธ์หนึ่งสลักไว้ในม้วนหยกแล้วมอบให้หนิงหานยู่
สิ่งที่สลักอยู่ในม้วนหยกชิ้นนี้ไม่ใช่พลังจุติมรณะ แต่เป็นวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเทพที่ใช้สำหรับฝึกกฎชีวิต คัมภีร์วิหารเทวนิรันดร์
มหาจักรพรรดิยุทธ์เฉินหยู คือจักรพรรดิเทพท่านหนึ่งที่เป็นผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ในยุคสมัยหนึ่งครั้นเมื่อกาลเวลาที่ผ่านมายาวนานอย่างไม่รู้จบ โลกาวิหารเทวที่เขาบุกเบิกก็เป็นหนึ่งในมหาโลกาชั้นสุดยอดในมหาโลกาพันสาม ณ ปัจจุบันเช่นกัน
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพท่านนี้ก็บรรลุมรรคผลโดยกฎชีวิต อีกทั้งฝึกกฎชีวิตจนบรรลุถึงแดนดั้งเดิมขั้น 10 ในคัมภีร์วิหารเทวนิรันดร์ที่เขาริเริ่มบุกเบิกขึ้นมานั้น มีความเร้นลับในการค่อย ๆ พัฒนากฎชีวิตไปตามลำดับแฝงซ่อนอยู่
แน่นอนว่าหลัวซิวได้รับวรยุทธ์ดังกล่าวมาจากเงาสะท้อนวัฏสงสาร แม้วัฏสงสารโบราณจะทลายสูญสิ้นไปแล้ว แต่วัฏสงสารก็ยังคงอยู่ในจักรวาลฟ้าดินเช่นเคย ทว่าจากที่มีรูปแต่เดิมกลายเป็นไร้รูป
ตำหนักวัฏสงสารและลูกแก้วความเป็นตายล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวัฏสงสารโบราณ แบกรับเงาสะท้อนของวัฏสงสารไว้ภายใน ซึ่งมีข้อมูลและความเร้นลับของวัฏสงสารแฝงซ่อน
จากมีรูปกลายเป็นไร้รูป กลายเป็นส่วนหนึ่งของกฎฟ้าดิน เพราะฉะนั้นข้อมูลที่หลัวซิวได้รับมาจากวัฏสงสาร ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามปณิธานของกฎฟ้าดินดั้งเดิมเช่นกัน ได้รับเพียงข้อมูลบางอย่างที่เหมาะสมกับผลการฝึกตนของตน
ซึ่งใช่ว่าจะมีทุกอย่างในข้อมูลเหล่านี้ มีเพียงวรยุทธ์ เคล็ดวิชารวมไปถึงพลังอมตะต่าง ๆ ในส่วนของความทรงจำและความลับของผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหล่านั้นนั้น หลัวซิวไม่อาจได้รับเลย
แม้คัมภีร์วิหารเทวนิรันดร์ที่หลัวซิวเอาออกมาจะไม่บรรลุเป็นวรยุทธ์ระดับราชาเทพ ทว่าหากหนิงหานยู่สามารถตระหนักรู้ได้โดยสิ้นเชิงละก็ ก็เพียงพอที่จะสามารถทำให้ศักยภาพของนางเพิ่มขึ้นได้หลายระดับเช่นกัน
มีผลการฝึกตนระดับเจ้านภาขั้นสุดยอดเหมือนกัน ความต่างระหว่างการมีวรยุทธ์ถ่ายทอดและไม่มีวรยุทธ์ถ่ายทอดนั้น ก็แตกต่างกันมาก ๆ อยู่
หนิงหานยู่มีพรสวรรค์ด้านการฝึกตนและการตระหนักรู้กฎชีวิตที่ดีเป็นพิเศษจริง ๆ บวกกับการชี้แนะของหลัวซิว ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวันเท่านั้น ความเข้าใจในกฎชีวิตของนางก็บรรลุถึงระดับที่ใหม่เอี่ยม
แม้ผลการฝึกตนของนางจะยังคงเป็นเจ้านภาขั้นสุดยอดเหมือนเคย ทว่าศักยภาพของนางกลับสามารถเทียบทัดราชาเทพช่วงกลางได้แล้ว
และข้อได้เปรียบที่ดีที่สุดของกฎชีวิตก็คือการคุ้มกันและเกราะป้องกัน มาตรแม้นว่าฉียู่หรงที่มีผลการฝึกตนราชาเทพช่วงกลางลงมือโจมตีสุดกำลังสามารถ หนิงหานยู่ก็สามารถต้านทานได้เป็นเวลานานและไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
“ภูเขาคุนหลุน……”
วันนี้ หลัวซิวยืนอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเรือรบ ชุดคลุมยาวขาวดำโบกสะบัดจนเสียงดังฟึดฟัดไปพร้อมกับสายลม มือทั้งสองข้างของเขาไขว้ไว้ด้านหลัง แล้วเหม่อมองภูเขาสูงใหญ่ลูกนั้นที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ไกล ๆ
นั่นคือแนวเทือกเขาที่เชื่อมต่อกันยาวอย่างไม่ขาดสาย แนวเทือกเขาทั้งหลายเหมือนดั่งมังกรเทพที่เลื้อยอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่ มีอำนาจฟ้าดินที่มากมายมหาศาลอย่างหาที่สุดไม่ได้แฝงซ่อนอยู่
ภูเขาคุนหลุนก็คือยอดเขาที่สูงที่สุดในแนวเทือกเขาแห่งนี้นั่นเอง ทุกส่วนของภูเขาขาวดุจหิมะ หิมะที่ขาวโพลนสูงเทียมฟ้า
ไม่นานนัก หลัวซิวทั้งสามคนก็มาถึงยอดเขาของภูเขาคุนหลุน ที่นี่คือสนามจัตุรัสที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง มีตัวเรือที่ใหญ่โตมโหฬารหลายลำลอยเทียบท่าอยู่กลางอากาศ
“นี่คือเรืออนัตตาหรือ? ใหญ่จังเลย”หนิงหานยู่พูดด้วยความรู้สึกช็อกเล็กน้อย
กลุ่มตัวเรือที่ใหญ่โตมโหฬารนั่น เรือส่วนมากล้วนใหญ่จมหายเข้าไปในชั้นเมฆ เผยให้เห็นส่วนเล็ก ๆ ของตัวเรือเท่านั้น ความใหญ่นี้ก็เหมือนแผ่นดินที่ลอยอยู่เหลือนภาแล้ว
มูลค่าของเรืออนัตตาประเภทนี้สูงมาก ๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่กองกำลังใหญ่สามารถรับภาระได้ วัตถุดิบของตัวเรือล้วนเป็นสมบัติที่สามารถฝึกเซ่นราชาแห่งศัสตราวุธได้ การที่จะสร้างและขึ้นรูปตัวเรือที่ใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้หนึ่งลำได้นั้น วัตถุดิบที่ต้องใช้นั้นมีมากจนยากที่จะจินตนาการได้