หนังตาของหลัวซิวก็กระตุกเช่นกัน จากลักษณะท่าทางของสวี่เสวียนอาน สามารถดูออกอยู่ว่าเหมือนหนวดของอสูรกลืนดารานั่นจะไม่ธรรมดา มิเช่นนั้นก็คงไม่ถึงขั้นที่สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพสนใจเช่นนี้ ยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่รู้สึกเสียดายที่ต้องแตกหักกับจ้าวมหาเทพอีกคนด้วย
“โกวจิ่งเหอ เจ้าอย่าบีบบังคับให้ข้าต้องลงมือ”
“ข้าบอกว่าไม่มีก็คือไม่มี อย่าคิดว่าที่นี่คือมหาโลกายอดอัมพรเป็นอาณาบริเวณของเจ้า แล้วข้าจะกลัวเจ้า”
จ้าวมหาเทพทั้งสองคนประจันหน้ากันอยู่กลางนภาสูง บรรยากาศดูตึงเครียดเล็กน้อย มีแนวโน้มที่จะเกิดการลงไม้ลงมือกันได้ตลอดเวลาสูงมาก
นักยุทธ์จำนวนมากที่ลงมาจากยอดอัมพรหมายเลข 3 ต่างไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ ทุกคนต่างพากันถอยหลัง หวังแค่เพียงสามารถออกจากที่นี่ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
หลัวซิวก็รีบดึงตัวหนิงหานยู่และฉียู่หรงหญิงสาวทั้งสองคนที่ปะปนอยู่ในกลุ่มคนจากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากเขากังวลว่าทันทีที่สวี่เสวียนอานหันเหความสนใจมา ถึงครานั้นหากเขาอยากจากไปจากที่นี่ก็คงทำได้ยากแล้ว
หลังจากออกมาจากสนามจัตุรัสแล้ว หลัวซิวทั้งสามคนก็มาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งของดาวเคราะห์ดวงนี้ ขอบเขตของคูเมืองแห่งนี้กว้างใหญ่มาก ๆ ผู้คนที่เดินไปมาบนถนนล้วนเป็นนักยุทธ์
มาตรแม้นว่าอยู่ในมหาโลกาพันสาม ก็ใช่ว่าทุกคนล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งเสมอไป แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโลกาอื่น ๆ จำนวนและคุณภาพของผู้แข็งแกร่งจะมากกว่าและสูงกว่า
บนถนนใหญ่ก็มีคนจำนวนมากที่ผลการฝึกตนต่ำ ทว่าผู้ที่ผลการฝึกตนสูงนั้นก็มีไม่น้อยเช่นกัน แค่เดินดูอย่างเรื่อยเปื่อย หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงออร่าของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพหลายคนแล้ว
ที่นี่แก้วเทวก็ยังคงเป็นเงินตราแข็ง หลัวซิวไม่ได้รีบออกจากดาวเคราะห์ดวงนี้แต่อย่างใด มิเช่นนั้นละก็จะถูกผู้อื่นสงสัยได้ง่าย
ฉะนั้นหลังจากเขาหาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองได้แล้ว จากนั้นทั้งสามก็แยกย้ายกันออกไปสืบเสาะข่าวคราว เพื่อให้สะดวกแก่การทำความเข้าใจกับมหาโลกายอดอัมพรอย่างแท้จริงมากขึ้น
เดินเล่นอยู่บนถนนของคูเมืองแห่งนี้ หลัวซิวจะหรี่ตามองห้วงดาราที่อยู่ห่างออกไปไกลเป็นระยะ ๆ
เนื่องจากที่นั่นมีออร่าที่มากมายมหาศาลของผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพสองคนปะทะกันอย่างรุนแรงและดุเดือดแล้ว
ถูกต้อง จ้าวมหาเทพทั้งสองอย่างสวี่เสวียนอานและโกวจิ่งเหอลงไม้ลงมือกันอย่างยิ่งใหญ่นอกดาวเคราะห์ดวงนี้โดยตรง
พวกเขาไม่ได้ลงมือกันบนดาวเคราะห์ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขาก็ไม่อยากทำให้คนอื่น ๆ บนดาวเคราะห์ประสบหายนะเพราะการประมือของทั้งสอง
ดาวเคราะห์ดวงนี้มีนามว่าจินเฮ่าซิง เป็นหนึ่งในดวงดาวต้อนรับในเขตนอกของมหาโลกายอดอัมพร เนื่องจากทุก ๆ ระยะเวลาช่วงหนึ่ง ก็จะมีนักยุทธ์โลกามนุษย์หรือนักยุทธ์จากมหาโลกาอื่น ๆ มาถึงที่นี่ เพราะฉะนั้นธุรกิจการขายข้อมูลข่าวสารบนจินเฮ่าซิงจึงค่อนข้างโด่งดังเลย
สำหรับข่าวคราวพื้นฐานทั่วไป หลัวซิวเชื่อว่าจากศักยภาพของหนิงหานยู่ นางต้องรวบรวมมาได้ค่อนข้างรอบด้านแน่นอน เพราะฉะนั้นปัญหาในด้านนี้จึงถูกหลัวซิวมองข้ามโดยตรง สิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือสืบเสาะข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับสำนักเซียนเทียนหยุน
ที่นี่คืออาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ชั้นแรกจะขายพวกวัตถุดิบธรรมดาทั่วไป ส่วนชั้นสองนั้นเป็นสถานที่ที่ซื้อขายข่าวคราวข้อมูล
หลัวซิวยังคงใช้ตัวตนของเย่ห้าวหรานอีกเช่นเคย ดูจากข่าวคราวที่เขาสืบเสาะมาได้ การที่อยากจะขึ้นไปบนชั้นสองนั้น ลำดับแรกจำเป็นต้องซื้อวัตถุดิบในชั้นแรกอย่างน้อยหนึ่งอย่าง
“ผู้อาวุโส นี่คือเหล็กจันทราเสวียนที่ท่านซื้อไว้ขอรับ”
จ่ายด้วยแก้วเทว พนักงานขายในชั้นแรกจึงหยิบเหล็กจันทราเสวียนออกมาหนึ่งชิ้นอย่างเคารพนอบน้อม
เหล็กจันทราเสวียนเป็นวัตถุดิบภัณฑ์กลั่นระดับ 7 ที่ค่อนข้างพบเห็นได้บ่อย แต่ทว่ามูลค่าที่อาคารพาณิชย์แห่งนี้ขายกลับสูงกว่าปกติสองเท่า
หลัวซิวโบกมือเก็บวัตถุดิบมาอย่างสบาย ๆ แล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง: “ไปชั้นสอง”
“ผู้อาวุโสเชิญขอรับ”พนักงานขายคนดังกล่าวก้มคำนับด้วยความเคารพ พลางทำท่าเชิญขึ้นอาคารอย่างเคารพนอบน้อม
และในเวลานี้เอง ก็มีคนเดินเข้ามาในอาคารพาณิชย์อีก ทำการซื้อวัตถุดิบอย่างหนึ่งอย่างเคยชิน จากนั้นมุ่งหน้าตรงไปยังบันไดที่มุ่งไปสู่ชั้นสอง