นี่คือชายบุคลิกลักษณะชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เมื่อหลัวซิวเห็นฝ่ายตรงข้าม คนดังกล่าวก็เห็นเขาเช่นกัน แววตาปะทะกันครั้งหนึ่ง ทั้งสองก็เดินเฉียดไหล่ไปเหมือนคนแปลกหน้า
แฝงกายปิดบังโฉมหน้าอยู่ในโลกของนักยุทธ์ ทุกคนล้วนระมัดระวังมาก ๆ จะไม่คบค้าสมาคมกับผู้อื่นง่าย ๆ เนื่องจากเจ้าคาดเดาไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าอุปนิสัยและอารมณ์ของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างไรกันแน่ หากเกิดความผิดพลาดแม้แต่น้อย ไม่แน่ก็อาจจะเป็นการรุกรานผู้ที่ตนรุกรานไม่ได้
เดินขึ้นไปบนชั้นสอง ผู้ที่ต้อนรับหลัวซิวคือผู้อาวุโสที่หลังค่อมเล็กน้อย แม้จะดูสูงอายุมาก ๆ ทว่ากลับมีผลการฝึกตนราชาเทพขั้น 8 ซ่อนอยู่ลึก ๆ
บนชั้นสองของอาคารพาณิชย์มีห้องเดี่ยวหลายห้อง ภายในทุก ๆ ห้องก็มีค่ายกลปิดกั้นตัวสำนึกและเสียงจัดวางอยู่
เดินตามอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสหลังค่อม หลัวซิวก็ไปถึงห้องเดี่ยวห้องหนึ่งเช่นกัน พื้นที่ภายในห้องไม่กว้าง มีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวกับเกาอี้อีกสองตัว
“เจ้าจะถามอะไร”หลังจากมาถึงห้องแล้ว ผู้อาวุโสหลังค่อมก็พูดอย่างเย็นชา ลักษณะท่าทีดูไม่ค่อยเกรงใจเท่าไหร่นัก
เนื่องจากหลัวซิวไม่ได้ปิดบังผลการฝึกตนของตัวเอง ในมุมมองของผู้อาวุโสหลังค่อม ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ก็มีผลการฝึกตนเพียงเทพฟ้าขั้น 6 เท่านั้น
นักยุทธ์เทพฟ้าคนหนึ่งจะมีปัญญาซื้อข่าวคราวมูลค่าเท่าไหร่ได้เล่า? เกรงว่าหลังจากซื้อวัตถุดิบระดับ 7 หนึ่งชิ้นที่ชิ้นล่างแล้ว คงใช้เงิมออมทั้งหมดที่มีอยู่ของเขาหมดเกลี้ยงแล้วกระมัง?
“ข้าต้องการทราบข่าวคราวของสำนักเซียนเทียนหยุน”หลัวซิวไม่สนใจลักษณะท่าทีของฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด เขาใส่ใจแค่เพียงตัวเองสามารถได้รับสิ่งที่ต้องการ ณ ที่แห่งนี้หรือไม่
“ระดับใด?”ผู้อาวุโสหลังค่อมถามอีกคำหนึ่ง
“ระดับ?”หลัวซิวแสดงสีหน้าสงสัย
เมื่อเห็นความไม่เข้าใจบนใบหน้าหลัวซิว ผู้อาวุโสหลังค่อมก็ทราบแล้วว่าเจ้าหมอนี่ต้องเป็นมือใหม่แน่นอน ดังนั้นจึงอธิบายว่า: “ข่าวกรองที่ทางอาคารพาณิชย์ของเราขายมีการแบ่งแยกเป็นระดับ เมื่อระดับต่างกัน มูลค่าก็ต้องต่างกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
ภายใต้การอธิบายของผู้อาวุโสหลังค่อม ในที่สุดหลัวซิวก็เข้าใจสักที อีกทั้งไม่ใช่แค่อาคารพาณิชย์แห่งนี้แห่งเดียวเท่านั้น กองกำลังอื่น ๆ ที่ขายข่าวกรองก็มีการแบ่งระดับมูลค่าของข่าวกรองเช่นกัน ระดับที่ต่ำที่สุดคือสีเขียว ตามมาด้วยสีแดง สีดำ สีม่วงและสีทอง
ราคาข่าวกรองสีเขียวถูกที่สุด ข่าวกรองเรื่องหนึ่งใช้แก้วเทวหนึ่งแสนชิ้นก็สามารถซื้อได้แล้ว ในส่วนของข่าวกรองสีทองที่แพงที่สุดนั้น มูลค่าของมันก็ประมาณการไม่ง่ายแล้วล่ะ ยิ่งกว่านั้นคือมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้แก้วเทวมาประมาณค่าได้แล้ว
“สำหรับสำนักเซียนเทียนหยุนนั้น อาคารพาณิชย์ของเรายึดกุมข่าวกรองสีแดงเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่เหลือล้วนเป็นข่าวกรองสีเขียว”
ผู้อาวุโสหลังค่อมค่อย ๆ พูด “มูลค่าของข่าวกรองสีแดงนี้คือแก้วเทวชั้นกลางสิบล้านชิ้น ทว่าก็ต้องดูอีกทีว่าเจ้าต้องการรายละเอียดข่าวกรองเกี่ยวกับด้านใด”
“ข้าต้องการข่าวกรองทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสำนักเซียนเทียนหยุน รวมไปถึงข่าวกรองพื้นฐาน นอกเหนือจากนี้ข้ายังต้องการสืบหาร่องรอยของคนคนหนึ่ง ซึ่งคนดังกล่าวก็เป็นคนในสำนักเซียนเทียนหยุนเช่นกัน มีนามว่าหลิวเซี่ยหาน เป็นสตรีนางหนึ่ง”หลัวซิวเอ่ยปากพูด
“เจ้ายืนยันหรือไม่ว่าต้องการซื้อข่าวกรองเหล่านี้?”ผู้อาวุโสหลังค่อมขมวดคิ้ว “ข่าวกรองทั้งหมดที่เจ้ากล่าวมารวมกันแล้วอย่างน้อยก็ต้องใช้แก้วเทวนับร้อยล้านชิ้นแล้ว”
ตึก!
คำพูดของผู้อาวุโสหลังค่อมยังไม่ทันพูดจบ แหวนเก็บของวงหนึ่งก็ถูกหลัวซิววางลงบนโต๊ะ
ผู้อาวุโสหลังค่อมไม่ได้ยื่นมือไปหยิบ ใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจ คิ้วที่กำลังขมวดอยู่จึงคลายออกทันที
……
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ขณะที่หลัวซิวเดินออกมาจากอาคารพาณิชย์แห่งนี้ สีหน้าของเขาก็ดูหม่นหมองลง
สำหรับเขา ณ ปัจจุบันแล้ว แก้วเทวนับร้อยล้านชิ้นมันไม่ยิ่งใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำ แค่นำสมบัติวัตถุจำนวนมากที่มีติดตัวออกไปขายอย่างสบาย ๆ ก็สามารถขายได้แก้วเทวหลายร้อยล้านชิ้นแล้ว