และในระหว่างที่เขาฝึกตนปิดขังอยู่นั้น หลังจากหนิงหานยู่แปลงโฉมแล้วนางก็แฝงกายปิดบังโฉมหน้าอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง สืบเสาะข่าวคราวทั่วทุกสารทิศ รวบรวมข่าวกรองที่มีประโยชน์
สำหรับเรื่องการสืบเสาะข่าวคราวข้อมูลนั้น หนิงหานยู่มีพรสวรรค์สูงมาก ๆ อีกทั้งเพลิดเพลินกับความรู้สึกสงสัยเช่นนั้นมาก ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยเพราะได้ทำเรื่องที่ชอบ
ของที่อยู่ภายในแหวนเก็บของถูกหลัวซิวนำออกมาจัดระเบียบโดยคร่าว ๆ ลำดับแรกคือยาเซียนแต่ละชนิดและระดับต่าง ๆ ถูกเขาจัดเก็บให้อยู่กันเป็นระเบียบ
สำหรับยาเซียนระดับ 7 จำนวนมากนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อหลัวซิวแล้ว แต่เมื่อคิดได้ว่าต้องบ่มเพาะผลการฝึกตนและศักยภาพของหนิงหานยู่ เขาจึงนำยาเซียนทั้งหมดกลั่นเป็นเม็ดยาเซียน
จากระดับ 7 กระทั่งถึงระดับ 9 ความสามารถในการกลั่นยาของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน รอหลังจากที่เขากลั่นยาเซียนทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว อัตราการกลั่นเม็ดยาเซียนระดับ 9 สำเร็จของเขาก็สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว มีเพียงส่วนน้อยมาก ๆ ที่จะเกิดความผิดพลาดเกิดแล้วส่งผลให้กลั่นยาล้มเหลว
อัตราสำเร็จ 90 เปอร์เซ็นต์ สามารถเรียกได้ว่าอยู่ในแดนขั้นสุดยอดของนักยาเซียนระดับ 9 แล้ว
ต้นเทวหยกโลหิตคือหินหยกกายสิทธิ์ สามารถใช้ลายเส้นพรสวรรค์ที่อยู่บนใบไม้มาตระหนักในวิถียุทธ์ ลำต้นของต้นเทวยิ่งอัดแน่นไปด้วยสารพลังชีวิตที่เข้มข้น ต่อให้ตัวหยั่งรู้เสียหายสาหัสจนแตกสลาย ก็สามารถอาศัยต้นเทวหยกโลหิตมาฟื้นฟู ซึ่งประสิทธิผลของมันไม่ด้อยไปกว่าแร่ชีวิตชั้นยอดเลย
นอกเหนือจากนี้แล้วยังสามารถนำลำต้นของต้นเทวหยกโลหิตมากลั่นเป็นของขลังได้ด้วย หากให้ปรมาจารย์หลอมอาวุธระดับเจ้ายุทธจักรคนหนึ่งมากลั่นละก็ สามารถกลั่นของขลังจ้าวมหาเทพชั้นยอดออกมาได้เลย
บัดนี้หลัวซิวยังไม่ขาดแคลนด้านของขลังอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะเป็นหอกยุทธ์มังกรดำที่ใช้สำหรับการโจมตี หรือของขลังด้านความเร็วอย่างปีกเทพไร้มลทิ หรือของขลังคุ้มกันอย่างสำนักเต๋าเสวียนเทียน ล้วนสามารถใช้วัตถุดิบพิเศษมายกระดับวิวัฒนาการมันได้ อีกทั้งยังมีพื้นที่ในการวิวัฒนาการเยอะมาก ๆ ด้วย
เพราะฉะนั้นหลัวซิวจึงขายวัตถุดิบภัณฑ์กลั่นทั้งหมดที่อยู่ในแหวนเก็บของในตัวเมืองเป็นแก้วเทวจำนวนมาก แต่ทว่าเนื่องจากไม่มีวัตถุดิบล้ำค่าที่อยู่เหนือระดับ 9 ดังนั้นสิ่งที่แลกมาจึงมีเพียงแก้วเทวชั้นกลาง
ภายในเมืองก็มีสถานที่ที่แลกเปลี่ยนแก้วเทวโดยเฉพาะเช่นกัน แม้ตามหลักทฤษฎีแล้วชั้นกลางหนึ่งพันชิ้นสามารถแลกชั้นสูงได้หนึ่งชิ้น แต่เนื่องจากทรัพยากรแก้วเทวชั้นสูงมีน้อย ดังนั้นอัตราการแลกเปลี่ยนจึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ มาโดยตลอด
สุดท้ายหลัวซิวแลกด้วยอัตราแลกเปลี่ยนหนึ่งพันห้าร้อยชิ้นต่อหนึ่งชิ้น นำแก้วเทวชั้นกลางทั้งหมดแลกเปลี่ยนเป็นแก้วเทวชั้นสูง
เขาเก็บแก้วเทวชั้นสูงทั้งหมดนี้ไว้ส่วนหนึ่ง แล้วนำส่วนหนึ่งไปซื้อบ้านในเมืองแห่งนี้หนึ่งหลัง ส่วนที่เหลือนั้นล้วนยกให้หนิงหานยู่และฉียู่หรง
และจากนั้นหลัวซิวก็ทิ้งยาเอาไว้ส่วนหนึ่ง และกลั่นราชาแห่งศัสตราวุธชั้นยอดสี่ห้าชิ้นให้พวกนาง
เมื่อมีของเหล่านี้แล้ว หญิงสาวทั้งสองก็มีพื้นฐานความสามารถในการเอาตัวรอดแล้ว บวกกับทรัพยากรเหล่านั้น เพียงพอที่จะทำให้พวกนางฝึกตนได้สิบกว่าปีแล้ว
สาเหตุที่เลือกที่จะไปแดนเทวนิรันกาลให้ได้นั้น เป็นเพราะหลัวซิวมีแผนการของตัวเอง
ทุกครั้งที่แดนเทวนิรันกาลปรากฏล้วนจะทำให้กองกำลังจำนวนมากในมหาโลกาพันสามเคลื่อนไหว แม้แต่ตัวมรณายังบอกว่าสมบัติสามชิ้นนั้นในแดนเทวนิรันกาลไม่ใช่เล่น ๆ เลย เช่นนั้นหลัวซิวจึงมั่นใจว่าสำนักเซียนเทียนหยุนก็ต้องปรากฏอย่างแน่นอน
ปัจจุบันหลิวเซี่ยหานคือเจ้าสำนักน้อยของสำนักเซียนเทียนหยุน จากตัวตนของนาง จักไม่มีทางไม่ปรากฏได้อย่างไรเล่า?
หลัวซิวขึ้นค่ายวาร์ปดาราจากจินเฮ่าซิงไปถึงดารายอดอัมพร
ดารายอดอัมพรคือดวงดาวที่ใหญ่ที่สุดในมหาโลกายอดอัมพร และเป็นสถานที่ตั้งของหอยอดอัมพรเช่นกัน ในส่วนความเป็นมาของหอยอดอัมพรนั้น ต้องหวนย้อนกลับไปถึงยุคสมัยของจักรพรรดิเทพยอดอัมพร ซึ่งหอยอดอัมพรเป็นการถ่ายทอดสืบสานที่จักรพรรดิเทพทิ้งไว้ เป็นสำนักระดับมหาจักรพรรดิ
ดูจากข่าวคราวที่หลัวซิวสืบเสาะมาได้ แดนเทวนิรันกาลไม่ใช่สถานที่ที่ผู้ใดก็สามารถเข้าไปได้ กองกำลังใหญ่ทั้งหลายจะส่งลูกศิษย์และยอดฝีมือที่โดดเด่นที่สุดไป หากอยากได้รับโควต้าในการมุ่งหน้าไปยังแดนเทวนิรันกาลนั้น เงื่อนไขแรกที่สำคัญที่สุดก็คือจำเป็นต้องมีหนึ่งตัวตน