จะผ่านขั้นนี้นั้นมันไม่ยาก แต่กลับทำให้เขาหาจุดพลิกแพลงของการสัมผัสรู้เจอ เขารู้สึกว่าอยู่ที่นี่ การสัมผัสรู้ที่ตนมีต่อกฎปริภูมิ สามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีกขั้น
การบรรลุของสี่กฎสูงสุด กฎการเวียนว่ายตายเกิดมีพลังจุติมรณะ กฎเวลามีชิ้นส่วนศุภร และมีเพียงกฎปริภูมิ ที่หลัวซิวเรียนรู้ด้วยตนเองมาโดยตลอด สำนักเต๋าเสวียนเทียนไร้ซึ่งประโยชน์ไปนานแล้ว ดังนั้นเขาถึงได้มอบให้จีเสี่ยวจื่อใช้เพื่อศึกษาทำความเข้าใจกฎปริภูมิ
จากการสัมผัสรู้กฎปริภูมิ หลัวซิวรู้สึกว่าห้วงดาราที่แปลงมาจากตัวหยั่งรู้ของเขาก็ได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าปริภูมิได้ถูกทำให้ขยายใหญ่ขึ้น เหมือนดั่งการขยายตัวของดาราจักรวาล
ตัวหยั่งรู้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ตัวสำนึกก็จะแข็งแกร่งตาม นี่เป็นนี้คือความรู้ที่เป็นพื้นฐานที่สุด เพียงแต่ว่าตอนนี้หลัวซิวถึงได้เข้าใจว่า แท้ที่จริงแล้วกฎปริภูมิสามารถขยายตัวหยั่งรู้ ได้เพิ่มระดับตัวสำนึกได้!
ในเมื่อกฎปริภูมิสามารถให้ประโยชน์เช่นนี้ได้ แล้วกฎอื่น ๆ เล่า?
จากการทดสอบ หลัวซิวพบเห็นด้วยความยินดีว่า กฎชีวิตสามารถทำให้ตัวสำนึกของเขามีชีวิตเจริญเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด นั่นหมายความว่าตัวสำนึกของเขาได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ยากที่จะทำลายได้
กฎความตายสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการโจมตีของตัวสำนึกได้ กฎเวลาได้ผสมผสานอยู่ในการโจมตีของตัวสำนึก แม้กระทั่งว่าทำให้ความคิดของผู้คนเชื่องช้าลงได้
ในช่วงเวลาปกติ กฎลดเวลาทำได้เพียงทำให้การเคลื่อนไหวของผู้คนเชื่องช้าลง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความคิดของคน แต่ถ้าหากนำไปใช้โดยการโจมตีตัวสำนึก ก็จะสามารถส่งผลกระทบต่อความคิดจิตใจได้ หากความคิดของคนบางคนเชื่องช้าลง รับรองได้ว่าจะต้องเป็นอันตรายยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวเชื่องช้าอย่างแน่นอน!
ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด ถ้าหากการเคลื่อนไหวเชื่องช้าลง ขอเพียงแดนฝึกตนของอีกฝ่ายอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็สามารถอาศัยแดนกฎของตัวเองเพื่อหลุดพ้นจากอิทธิพลของกฎลดเวลาได้
แต่ถ้าหากความรู้สึกนึกคิดเชื่องช้าลง เมื่อตอนที่เขารู้สึกตัวขึ้นมา การโจมตีของตนก็ได้ประชิดตัวเขาแล้ว และนี่จะเป็นการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิต!
“ท่านอาจารย์บอกว่า วรยุทธ์ที่อยู่ในคัมภีร์โอสถ มีชื่อว่าเคล็ดเทวกลั่นวิญญาณ กฎเป็นตายเวลาและปริภูมิทั้งสี่กฎใหญ่ได้ผสานเข้าสู่ตัวสำนึก หากใช้วรยุทธ์กลั่นวิญญาณควบคู่เข้าไปด้วย ความสามารถของข้าก็จะเพิ่มระดับขึ้นอีกด้วย!”
หลัวซิวหัวใจเต้นแรงด้วยความกระตือรือร้น จะต้องรู้ว่าการเพิ่มระดับเช่นนี้ เป็นการเพิ่มระดับความสามารถโดยที่แดนผลการฝึกตนของตนไม่มีการเปลี่ยนแปลง และนั่นก็หมายความว่าศักยภาพการเติบโตของเขา ก็จะพัฒนาสูงขึ้น!
เทพฟ้าขั้นหก ก็สามารถทัดเทียมกับมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิได้แล้ว ถ้าหากแข็งแกร่งยิ่งขึ้น……
“แบบนี้นี่เอง!”
ด่านที่สามสิบเจ็ด หลัวซิวอาศัยวรยุทธ์ของเทวกลั่นวิญญาณเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพลังตัวสำนึกของเขา เขาพบว่าตัวสำนึกของตนเองยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เช่นนั้นการสัมผัสรู้ที่มีต่อความมหัศจรรย์ของกฎ มันก็ค่อนข้างที่จะง่ายยิ่งกว่า
เช่นนี้ก็หมายความว่า ตัวสำนึกยิ่งแข็งแกร่ง ก็จะสามารถช่วยเหลือเพิ่มระดับการตระหนักรู้กฎได้
และเพราะเขาได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากวรยุทธ์เทวกลั่นวิญญาณ ถึงได้ตระหนักรู้กฎปริภูมิถึงแดนขั้นห้าบริบูรณ์
แดนขั้นห้าบริบูรณ์ หากสามารถก้าวหน้าไปอีกขั้นได้ ก็จะเข้าสู่แดนมกุฎขั้นหก
กึ่งมกุฎเทพมากมายที่กล่าวกันธรรมดาแล้วล้วนมีผลการฝึกตนอยู่ในระดับเกินกว่าราชาเทพขั้นเก้า แต่ส่วนใหญ่แล้วระดับของแดนกฎ ความจริงล้วนมิได้บรรลุถึงแดนขั้นห้าบริบูรณ์
ความมหัศจรรย์ของวรยุทธ์เทวกลั่นวิญญาณ อยู่เหนือกว่าเคล็ดวิชาแปรจิตเทพอีกไกลนักอย่างแน่นอน กระทั่งที่ว่าทั้งสองอย่างนั้นไม่ใช่วรยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกัน
กฎปริภูมิบรรลุถึงแดนขั้นห้าบริบูรณ์ หลัวซิวหยุดอยู่ที่ด่านที่สามสิบเจ็ดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว เขาทราบเป็นอย่างดีว่าอยู่ที่นี่ตนไม่สามารถฝึกฝนกฎปริภูมิให้บรรลุถึงขั้นหกได้
“หือ? มีคนผ่านเข้าสู่ร้อยอันดับแรกของอันดับราชาเทพอีกแล้วเหรอ!”
ทางด้านนั้นหลัวซิวก็ได้เริ่มเร่งความเร็วในการทะลวงด่านขึ้น ข้าง ๆ อันดับราชาเทพที่อยู่ด้านนอก มีจอมยุทธ์จำนวนมากที่คอยดูป้ายจัดอันดับมาโดยตลอด ต่างก็ต้องตกตะลึงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้