“ลูกศิษย์หอยอดอัมพรของข้าจะตายเปล่าไม่ได้ ต่อให้เป็นลูกศิษย์ของเจ้าจีเสวียนคง ก็จะต้องชดใช้เช่นเดียวกัน!” เจ้าหอยอดอัมพรมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้นมา เพราะนี่มันได้มีส่วนเกี่ยวข้องถึงศักดิ์ศรีของสำนักจักรพรรดิยอดอัมพร
ถ้าหากลูกศิษย์ถูกสังหารกลับไม่ติดตามเอาความ ศักดิ์ศรีของสำนักจักรพรรดิยอดอัมพรจะต้องไม่เหลืออยู่แน่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าหอยอดอัมพรต้องการเห็นอย่างแน่นอน
สีหน้าของจีเสวียนคงก็เคร่งขรึมลงเช่นเดียวกัน ความแข็งแกร่งของเจ้าหอยอดอัมพร ต่อให้เป็นมหาปรมาจารย์ยาเซียนอย่างเขาก็ไม่อาจดูถูกได้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียหอยอดอัมพรก็เป็นสำนักจักรพรรดิเพียงหนึ่งเดียวในมหาโลกาแห่งนี้ อาศัยรากฐานของสำนักจักรพรรดิ ไม่ใช่สิ่งที่คนคนหนึ่งจะสามารถต่อต้านได้
แม้ว่าเขาจีเสวียนคงจะสามารถไม่เห็นภัยคุกคามจากหอยอดอัมพรอยู่ในสายตา แต่หลานสาวและลูกศิษย์ของเขากลับทำไม่ได้
แม้ว่าภายในใจจะไม่เต็มใจถึงเพียงใด สุดท้ายแล้วจีเสวียนคงก็เลือกที่จะถอยหนึ่งก้าว ใช้การกลั่นโอสถเซียนแดนเจ้ายุทธจักรสองเตาเป็นเงื่อนไข เพื่อแลกกับการที่หอยอดอัมพรไม่ติดตามเอาความเรื่องที่หลัวซิวฆ่าคน
นี่ก็คือความอบอุ่นเย็นชาและโหดร้ายของมนุษย์ในโลกยุทธ์ ชีวิตของศิษย์ใจกลางคนหนึ่ง ก็มีค่าเพียงโอสถเซียนแดนเจ้ายุทธจักรสองเตาท่านั้นเอง
แน่นอน จีเสวียนคงต้องการประนีประนอม และก็เพื่อให้ได้รายชื่อเข้าแดนเทวนิรันกาลมาอย่าง ราบรื่น เพราะความพิเศษของแดนเทวนิรันกาล มีเพียงผู้แข็งแกร่งแดนมกุฎเทพเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปได้ จากผลการฝึกตนของหลัวซิวหลังจากที่เข้าไปแล้ว ต้องสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายแน่นอน และจะต้องได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในแดนเทวนิรันกาลเป็นแน่
ดังนั้นต่อให้ต้องยอมอ่อนข้อให้ ไม่ว่าจีเสวียนคงจะพูดอย่างไรจีเสวียนคงก็จะต้องเอารายชื่อนี้มาให้ได้
เพียงแต่ว่าสำหรับเรื่องราวพวกนี้ จีเสวียนคงไม่ได้บอกกับหลัวซิว สำหรับเขาแล้ว เขาเป็นอาจารย์ของเขา หลัวซิวเป็นลูกศิษย์ มีบางครั้งอาจารย์ทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อลูกศิษย์ ก็เป็นเรื่องที่สมควรเหมือนกัน
แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่ภายในใจของทั้งสองล้วนสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจนั่น
ไม่ว่าจะเป็นจีเสวียนคงก็ดี หรือหลัวซิวก็ช่าง ความจริงแล้วนิสัยของพวกเขาทั้งสองคนก็มีส่วนที่เหมือนกันอยู่บ้าง นั่นก็คือเมื่อภายในใจยอมรับคนใดคนหนึ่งแล้ว ก็จะต้องเห็นอีกฝ่ายเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดอย่างแน่นอน
และก็เพราะนิสัยแบบนี้ ทำให้อาจารย์และลูกศิษย์อย่างพวกเขาสองคนไม่ค่อยมีเพื่อนนัก แต่ทุกคนที่อยู่รอบข้าง ล้วนจะต้องเป็นคนที่สามารถเชื่อใจและฝากฝังได้
แดนเทวนิรันกาล ในสายตาของสำนักจักรพรรดิและแดนศักดิ์สิทธิ์มากมาย มันเป็นดินแดนซ่อนสมบัติที่ยากจะจินตนาการอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงสมบัติระดับสุดยอดทั้งสามชนิดที่อยู่ด้านใน ลูกศิษย์ที่ส่งเข้าในทุกครั้งที่ปรากฏขึ้น ล้วนจะต้องนำเหล็กเซียนสมบัติเงินทองออกมาด้วยจำนวนมากมาย และยังมียาเซียนหญ้าเซียนที่ล้ำค่านานาชนิด
แดนเทวนิรันกาลกว้างใหญ่เพียงใดกันแน่ ไม่มีใครรู้ เพราะมีพลังอันลึกลับปิดผนึกเอาไว้ แม้ว่าสำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ต้องการส่งศิษย์ในสำนักเข้าไป ก็จะต้องแลกกับอะไรไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ในสถานการณ์ปกติ ส่งเข้าไปสิบคนนับว่าถึงขีดจำกัดแล้ว และต้องมีผลการฝึกตนที่ไม่สูงไปกว่ามกุฎเทพ ถ้าหากต้องการส่งมกุฎเทพผู้หนึ่งเข้าไปละก็ สิ่งที่ต้องสูญเสียนั้นก็จะสูงยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วมันไม่คุ้มค่าเลย
“แม้ว่าความสามารถของเจ้าจะไม่ได้ด้อย แต่เข้าไปในแดนเทวนิรันกาลในครั้งจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายนั้น อาจารย์เองก็ไม่อาจมั่นใจได้”
หลังจากที่กลับมา จีเสวียนคงก็ได้มาที่ห้องพักของหลัวซิว กล่าว: “อาจารย์พบว่าเจ้ายังไม่มีอาวุธเหมาะมือสักอันเลย ก่อนที่แดนเทวจะเปิดออก อาจารย์สามารถหล่อหลอมให้เจ้าเองกับมือได้”
“หลอมอาวุธ?”
หลัวซิวได้ยินดังนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา ถ้าหากมีอาวุธที่เหมาะมือชิ้นหนึ่งได้ เช่นนั้นความสามารถของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปในระดับหนึ่งได้
จีเสวียนคงเป็นอาจารย์ของเขา หลัวซิวจึงไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรสำหรับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงได้รีบล้วงเอาหอกยุทธ์มังกรดำออกมา “อาจารย์ ศิษย์อยากได้หอกเล่มหนึ่ง โดยใช้หอกยุทธ์มังกรดำเล่มนี้เป็นร่างหลัก”