ตอนที่19ความหวังของผู้คนทั้งหมด
หมอหลวงสองคนนั้นพร้อมกับหมอหลวงหลันคุกเข่า พร้อมกันตอบว่า”พวกข้าความสามารถไม่พอ”
นี่หมายถึงว่าพวกเขาไม่มีวิธีอื่นแล้ว
ไทเฮารู้ว่าต้องรีบลงมือทำจึงเงยหน้าถามอ๋องเจิ้งหยวน ว่า”เจ้าคิดยังไงผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเจ้าเจ้าตัดสิน ใจเถอะ”
เมื่อก่อนที่อ๋องเจิ้งหยวนได้ยินว่าไม่หายใจแล้วในใจ รู้สึกสิ้นหวังแล้วแต่ตอนนี้เห็นชูเซี่ยช่วยให้นางฟื้นได้ จึงตรึงความหวังทั้งหมดไว้ที่ชูเซี่ยและพยักหน้าอย่าง ระมัดระวังว่า“หลานอยากให้น้องสะใภ้ลองทำดู”
ชูเซี่ยถอนหายใจและรีบสั่งให้สาวใช้เตรียมของที่นี่ ไม่มีมีดผ่าตัดแต่หามีดที่แหลมคมไม่ยากไม่นานเข็มด้าย เหล้าขาวการฆ่าเชื้อโรคในถาดร้อนพร้อมกรรไกรส่งมา ครบถ้วน
สิ่งที่ยากที่สุดในเวลานี้คือไม่มียาชาชุเซี่ยมองอ๋องเจิ้ง หยวนและถามว่า “การปิดจุดฝังเข็มที่พูดเมื่อกี้สามารถ ทำให้พระชายาเจิ้งหยวนเสียความรู้สึกได้ไหม”
อ๋องเจิ้งหยวนตอบว่า “ได้”
“ดีเลยงั้นรบกวนท่านอ๋องช่วยปิดจุดฝังเข็มให้พระชายา เจิ้งหยวนเถอะ”นางสั่งให้สาวใช้เอายาโสมให้พระชายา เจิ้งหยวนกินแล้วจึงเริ่มลงมือทำ
โหร่วเฟยออกไปพร้อมกับไทเฮาสาวใช้ยกเก้าอี้หลาย ตัวมาให้ทุกท่านนั่งรอ
แต่ไทเฮาร้อนใจเดินไปเดินมาที่หน้าประตู
เวลาค่อยๆผ่านไปแต่ห้องคลอดยังเงียบสงบเหมือน เดิมที่จริงทุกคนสิ้นหวังไปหมดแล้วเพราะการถูกวางยา พิษทารกในครรภ์ยังอยู่แนวนอนการคลอดก่อนกำหนด เลือดไหลพร้อมกับนางหยุดหายใจไปครั้งนึงแล้วอย่างนี้ คงจะไม่สามารถช่วยชีวิตกลับมาได้แล้ว
หลี่เฉินเย่นยืนตรงๆขมวดคิ้วจ้องประตูห้องคลอดในใจ เขามีความรู้สึกแปลกๆมีความตื่นเต้นและความหวังอย่าง ประหลาดเขาหวังว่าจะได้เห็นชูเซียเดินออกมาและบอก กับทุกคนว่าพระชายาเจิ้งหยวนรอดแล้ว
ฮ่องเต้ประคองไทเฮาและปลอบท่านว่า”ท่านแม่ไม่ต้อง ห่วงมากนั่งพักผ่อนเถอะเย่เอ๋อเป็นคนที่โชคดีมีพระช่วย”
ไทเฮาหมดแรงจึงนั่งลงท่านหน้าซีดและหายใจยากขึ้น ท่านมีโรคหอบหึบมาตลอดเมื่อกี้เนื่องจากความเครียด จึงเป็นลมไปอีกครั้งที่จริงร่ายกายท่านทนจะไม่ไหวอยู่ แล้วแต่เนื่องจากติดเรื่องพระชายาเจิ้งหยวนจึงพยายาม อดทนอยู่
ไทเฮาพูดอย่างหมดความหวังว่า”หมอหลวงบอกว่า ไม่สามารถช่วยชีวิตทารกได้แล้วตอนนี้ขอแค่เย่เอ๋อ ปลอดภัยอย่างเดียว”
ฮ่องเต้ก็ไม่สบายใจเหมือนกันไหนๆก็เป็นหลานคนแรก ของท่านท่านหวังมานานตั้งแต่ทราบข่าวเกี่ยวกับการตั้ง ครรภ์พร้อมตั้งชื่อให้เรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชาย หรือเด็กผู้หญิงล้วนเรียกว่าหลี่อันหรัน(อันหรันในภาษาจีนหมายความว่าปลอดภัย)
แต่ตอนนี้ทารกคลอดออกมาไม่ได้มีแต่ขอให้เย่เอ๋อ
ปลอดภัยไว้ก่อน
ทุกคนตั้งความหวังทั้งหมดไว้กับชูเซี่ยแต่ใครๆก็รู้ว่า ความหวังนี้เล็กมาก
อ๋องเจิ้งหยวนนั่งอยู่หน้าประตูฟังเสียงจากห้องคลอด อย่างตั้งใจราวกับว่าหากมีเสียงอะไรออกมาเขาจะรีบวิ่ง เข้าไปทันที
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามแต่ยังไม่มีข่าวในห้อง
ส่งออกมา
ไทเฮารู้สึกกระสับกระส่ายจนเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ขึ้นจึงหันไปสั่งกับแม่นมว่า “รีบเอาลูกปัดอธิษฐานมาให้ ข้า”
แม่นมรีบดำเนินการทันทีไม่นานก็ส่งกล่องผ้าสีทองมา ให้เมื่อเปิดฝากล่องจะเห็นลูกปัดอธิษฐานที่ทำด้วยไม้ กฤษณาม้วนหนึ่งไทเฮาจับมือและพูดประโยคหนึ่งไปแล้วหยิบลูกปัดอธิษฐานขั้นพร้อมปิดตาลงถือลูกปัด อธิษฐานด้วยมือข้างหนึ่งส่วนมืออีกข้างหนึ่งวางที่ได้คาง พูดพิมพ์อย่างเงียบสงบ
ต่อมาห้องคลอดถูกเปิดออกแม่ผดุงครรภ์รีบเดินออกมา ที่จริงแล้วนางเป็นผู้ช่วยพระชายาเจิ้งหยวนคลอดลูกแต่ ตอนนี้กลายเป็นสาวใช้ที่วิ่งหาของ
อ๋องเจิ้งหยวนรีบลุกขึ้นจับมือถามว่า “ตอนนี้เป็นไงบ้าง แล้ว”
แม่ผดุงครรภ์ไหว้แล้วตอบว่า”ท่านอย่าถามหม่อมฉัน หม่อมฉันขอไปเอาน้ำร้อนมาก่อนเจ้าค่ะ”จากนั้นรีบเดิน ไป
หลังจากเอาน้ำร้อนมาแล้วประตูก็ปิดอีกครั้งเมื่อกี้ซูเซี่ย บอกแล้วว่าห้ามยุ่งกับนางไม่งั้นจะมีไวรัสแบคทีเรียที่ก่อ ให้เกิดอันตรายต่อท่านหญิงเจิ้งหยวนฉะนั้นไม่ว่าอ้อง เจิ้งหยวนอยากเข้าไปดูแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้าฝ่าฝืนคำพูด ของนาง
ขณะนี้สีหน้ามี่เหอกังวลมากเพราะในใจนางไม่อยากให้ชูเซี่ยช่วยชีวิตพระชายาเจิ้งหยวนได้นางรู้สึก แปลกใจว่าทำไมหลิวหยิงหลงเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคน หนึ่งนางสาบานได้ว่าหลิวหยิงหลงไม่เคยเรียนรู้การ แพทย์มาก่อน
แต่นางไม่รู้ว่าทำไมหลิวหยิงหลงกลายเป็นคนที่กล้า หาญแบบนี้เพราะว่าตั้งแต่ได้แต่งตั้งเป็นท่านหญิงยู่เฮย มานางเป็นคนน่าสงสารตลอดนางเองก็ต้องเอาใจพี่สาว คนนี้ตลอดถึงจะได้รับความรักจากคุณพ่อคุณแม่แต่พี่ สาวคนนี้แสร้งเป็นคนที่อ่อนโยนมีมารยาทมีแต่นางคน เดียวที่รู้ว่าธาตุแท้ของหลิวหยิงหลงเป็นคนที่เห็นแก่ตัว และใจแคบหลิวหยิงหลงได้แย่งของจากนางมาเยอะ นางจะไม่ยอมปล่อยให้หลิวหยิงหลงแย่งหัวใจท่านอ๋อง ไปอีก