มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1948
ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ปกครองโลกหล้า ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ไร้เทียมทาน หนึ่งตัวอักษรที่ท่านเขียนโดยไม่คิดอะไรมาก ก็มีปณิธานของผู้ไร้เทียมทานแฝงซ่อนอยู่เช่นกัน และถูกผู้คนนับถือเป็นสมบัติล้ำค่า
แต่ทว่าในประวัติศาสตร์เคยมีมหาจักรพรรดิยุทธ์บังเกิดเยอะปานนั้น สมบัติที่มีปณิธานของมหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานแฝงซ่อนกลับสืบทอดต่อมาน้อยมาก ๆ
นี่เป็นเพราะผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์เป็นผู้ไร้เทียมทานที่มีความสามารถล้ำเลิศ จึงแทบจะไม่จำเป็นต้องฝึกเซ่นสมบัติแล้ว ในชั่วชีวิตหนึ่งของมหาจักรพรรดิยุทธ์ส่วนมาก ล้วนมีเพียงอาวุธมรรคผลเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างกายจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ครั้งนี้ สาเหตุที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ในยุคปัจจุบันทิ้งคำว่า“รบ”ไว้บนพระราชสาส์นนั้น ก็เพื่อทำให้ความมั่นคงของคนรุ่นหลังเขาที่เข้ามาในแดนเทวนิรันกาลมีเพิ่มมากขึ้นหนึ่งขั้น
มือใหญ่สีทองกำหมัด โจมตีเข้าไปในทะเลวิญญาณอาฆาตและญาณอาฆาตที่นับไม่ถ้วนจนทะลวงออกเป็นเส้นทางหนึ่ง ทุกตำแหน่งที่มือใหญ่สีทองเคลื่อนผ่าน วิญญาณอาฆาตญาณอาฆาตทั้งหมดล้วนไม่สามารถต้านทาน ถูกบดขยี้จนสลายกลายเป็นฝุ่นผง
ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว มือใหญ่ก็ทำลายล้างวิญญาณอาฆาตญาณอาฆาตไปเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ไปถึงหน้ากระบี่ผงาดตรีภพอย่างรวดเร็ว นิ้วมือทั้งห้ากางออก เตรียมพร้อมที่จะดึงกระบี่ผงาดเล่มนี้ขึ้นมา
เสี้ยววินาทีนี้ทุกคนล้วนกลั้นหายใจ กระบี่ผงาดเล่มนี้คือกระบี่เทวในตำนาน ทุกคนที่มาถึงที่นี่ล้วนไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ หรือว่าวันนี้มันจะถูกพระโอรสจ้านเทียนเอาไปโดยอาศัยอำนาจมหาจักพรรดิยุทธ์?
และในเวลานี้เอง กระบี่ผงาดตรีภพก็สั่นเทิ้มจนเสียงดังเวิง ๆ ถัดจากนั้นปราณกระบี่ที่มีจิตสังหารสูงเทียมฟ้าก็ปะทุออกมา
ตู้มม!
ปราณกระบี่ตรีภพและมือใหญ่สีทองพุ่งชนกัน ควันหลงที่น่ากลัวระเบิดแตกออกภายในพริบตา ม้วนซัดไปทั่วทั้งเหวลึก
วิญญาณคำราม ญาณอาฆาตกรีดร้องเสียงแหลม นักยุทธ์อุทานอย่างตะลึง เสียงทุกอย่างที่คละปนกันไปล้วนจมหายไปในคลื่นพลังอันน่ากลัว
ในฐานะที่เป็นวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศชั้นยอดจากมหาโลกาต่าง ๆ บนตัวทุกคนล้วนมีไพ่เด็ดที่ใช้คุ้มกันชีวิต เวลานี้ทุกคนไม่กล้าประมาทเลินเล่อเลยแม้แต่น้อย ต่างพากันปลดปล่อยอุบายออกมาต้านทานแรงกระแทกจากคลื่นพลังที่น่าสยดสยอง
หลัวซิวก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เขาเรียกตำหนักวัฏสงสารออกมา ก่อนจะพาจีเสี่ยวจื่อเข้าไปภายในตำหนัก ใช้ของขลังวัฏสงสารชิ้นนี้มาต้านทานพลังโจมตีจากโลกภายนอก
โครมคราม……
คลื่นพลังอันน่ากลัวซัดกระหน่ำต่อเนื่องอยู่นานมาก ถึงแม้จะมีการป้องกันจากตำหนักวัฏสงสาร หลัวซิวและจีเสี่ยวจื่อที่อยู่ภายในตำหนักก็สัมผัสพลังอันน่าสยดสยองและมากมายมหาศาลที่ซัดสาดในโลกภายนอกได้เช่นกัน
หลังจากที่คลื่นพลังค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว หลัวซิวก็ไม่ได้ออกไปจากตำหนักวัฏสงสารแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจ ก่อนจะพบว่าเหล่าวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศจำนวนมากที่รวมตัวกันอยู่ในเหวลึก โดยส่วนใหญ่แล้วจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมีไม่มากเท่าไหร่นัก ทุกคนต่างมีอุบายในการคุ้มกันชีวิตตนไม่มากก็น้อย ของขลังคุ้มกันที่คนส่วนมากใช้ก็เป็นของขลังระดับเจ้ายุทธจักรเช่นกัน!
ส่วนฝั่งกระบี่ผงาดตรีภพนั้น วิญญาณผูกอาฆาตและญาณอาฆาตจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยวนอยู่รอบกระบี่ผงาดในเมื่อครู่นี้ล้วนหายสาบสูญไปหมดแล้ว มือใหญ่สีทองนั่นปะทะเข้ากับปราณกระบี่ตรีภพอย่างรุนแรง
ทันใดนั้นเอง กระบี่ตรีภพก็หลุดออกมาจากพื้นดิน เสียงฟึ่บดังขึ้น ฟันสับมือใหญ่สีทองนั่นจนแตกสลาย!
“พระเจ้า พลังอมตะที่มีอำนาจของมหาจักรพรรดิยุทธ์ยุคหนึ่งถูกฟันจนแตกสลายเลยอย่างนั้นหรือ?”ทุกคนต่างอุทานอย่างควบคุมไม่ได้ นั่นมันอำนาจแห่งมหาจักรพรรดิยุทธ์เชียวนะ การที่กระบี่ผงาดเล่มนี้สามารถบดขยี้มันได้นั้น ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความน่าสยดสยองและความโหดร้ายของมันแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มือใหญ่สีทองนั่นถูกฟันจนแตกสลายแล้ว พลังออร่าของปราณกระบี่ตรีภพก็อ่อนแอลงไปเยอะมาก ๆ ภายในพริบตาเดียวเช่นกัน มันค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า พื้นดินที่แข็งแกร่งเหมือนทำมาจากเต้าหู้ กระบี่ตรีภพเสียบลงไปในพื้นได้อย่างง่ายดาย
อีกฝั่งหนึ่ง พระราชสาส์นที่พระโอรสจ้านเทียนถืออยู่ในมือก็แหลกสลายเช่นกัน คำว่า‘รบ’บนพระราชสาส์นค่อย ๆ ทลายหายไป จนกลายเป็นว่างเปล่า