หลัวซิวกระโกนคำราม ปีกเทพไร้มลทินสั่นไหว ร่างนั้นพุ่งตัวออกไปในพริบตา ด้วยความเร็วนั้น ทำให้ระยะห่างระหว่างกันสั้นลงในทันที หอกมังกรแดงมืดยิงออกไป กฎความตายและกฎปริภูมิสองกฎใหญ่หลอมรวมกันเป็นแสงหอก ความแข็งแกร่งพุ่งเสียดฟ้า
ชายหนุ่มเต๋าที่บินหนีอยู่ด้านหน้าก็พลันหน้าถอดสี ยกมือขึ้นมาอัญเชิญของขลังชิ้นหนึ่ง
ปัง!
แสงหอกปังโจมตีลงบนของขลังชิ้นนั้น ผลพวงของพลังงานที่แข็งแกร่งกระเพื่อมเป็นลูกคลื่นออกมา ส่วนชายหนุ่มเต๋าก็อาศัยผลพวงจากการโจมตีนี้ เร่งความเร็วให้เพิ่มขึ้นอีก
“ตรึง! ”
ชายหนุ่มเต๋าอ้าปาก ราวกับคำพูดมีมนต์ขลัง กฎเวลาแพร่กระจาย
นี่คือพลังอมตะใหญ่ของการหยุดเวลา แต่หลัวซิวกลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ความเร็วของปีกเทพไร้มลทินนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า เร็วยิ่งกว่าการเทเลพอร์ตทั่วไป ตามหลังชายหนุ่มเต๋าไปติด ๆ
ชายหนุ่มเต๋าผู้นี้เป็นถึงผู้สืบทอดแห่งเขาดึกดำบรรพ์ แดนกฎเวลาของเขา ก็อยู่ที่ขั้นที่ห้า พรสวรรค์ของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่หลัวซิวเคยเจอ
“ต่อให้เป็นมกุฎเทพที่ชำนาญขั้นที่หกหรือกฎขั้นที่เจ็ดก็ตาม ภายใต้พลังอมตะการหยุดเวลาของข้าก็ต้องได้รับผลกระทบอยู่ช่วงหนึ่ง เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่?”
ชายหนุ่มเต๋าตกใจจนหน้าซีด แม้ว่าเขาจะพบเจอสิ่งต่าง ๆ มามากมายในชีวิต ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าดาวสังหารชุดดำผู้นี้ที่ไล่ตามฆ่าตนอยู่นั้นทำได้อย่างไรกันแน่
สิ่งเดียวที่อธิบายได้คือ อีกฝ่ายคงตระหนักรู้และชำนาญกฎเวลาเช่นกัน!
ทั้งสองคนหนึ่งไล่ล่าและคนหนึ่งหลบหนี ความเร็วนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ปีกเทพไร้มลทินของหลัวซิวผสมผสานกับกฎความเร็วและกฎปริภูมิ แต่ถึงอย่างไรก็ตามระดับก็ยังค่อนข้างต่ำ เป็นเพียงแค่ของขลังระดับมกุฎเทพ
แต่ชายหนุ่มเต๋านั้นอาศัยของขลังระดับจ้าวมหาเทพบินหนี ความเร็วไม่ด้อยไปกว่าปีกเทพไร้มลทินเท่าใดนัก ชั่วขณะหนึ่ง เขาสามารถรักษาระยะห่างจากหลัวซิวได้พอสมควร ทำให้หลัวซิวตามทันได้ยาก
“คนผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่จักรวาลมหาโลกาพันสามจะมีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ หรือว่าจะเป็นโอรสสวรรค์ที่มาจากโลกมหาศักดิ์ใหญ่ทั้งแปด?” ชายหนุ่มเต๋าที่กำลังบินหนีอดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าสงสัยใคร่รู้
ถึงแม้จะบอกว่าตั้งแต่สมัยโบราณโลกมหาศักดิ์ใหญ่ทั้งแปดดูเหมือนจะตัดขาดการติดต่อกับมหาโลกาพันสามไปแล้ว แต่บางครั้งก็ยังมีโอรสสวรรค์รุ่นเยาว์ข้ามโลกามาเพื่อฝึกฝนอยู่บ้าง
การเปิดแดนเทวนิรันกาลแต่ละครั้ง โลกมหาศักดิ์ใหญ่ทั้งแปดต่างก็ไม่ได้เข้าร่วม แต่ไม่ว่าเรื่องใดบางทีก็อาจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้เสมอ
โครมคราม……
ทันใดนั้น ห้วงดาราแห่งนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งของแดนเทวนิรันกาล ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นหลัวซิวรู้สึกได้ถึงแรงผลักที่ถาโถมเข้ามา ดูเหมือนว่าจะขับไล่เขาออกจากห้วงดาราแห่งนี้
“แม่งเอ้ย…! ”
หลัวซิวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาคาดไม่ถึงว่าแดนเทวนิรันกาลกำลังจะหายไปในเวลานี้
“เฮอ เฮอ ผู้เพื่อนยุทธ์หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก! ”
ชายหนุ่มเต๋าอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แววตาฉายแววร้อนเป็นไฟ จ้องมายังดอกถานฮวาเก้ากลีบที่อยู่ในมือหลัวซิว “วันข้างหน้า ดอกถานฮวาเก้ากลีบนั่น ข้าจะชิงมันกลับมา! ”
พลังขับไล่จากห้วงดารานั้น ชายหนุ่มเต๋าไม่แสดงอาการต่อต้านใด ๆ ร่างกายหายไปในชั่วพริบตาและถูกเทเลพอร์ตออกไป
ในเวลานี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่หลัวซิวจะกลับไปรวมตัวกับเสิ่นปิงหยูแล้ว เขาทำได้เพียงนำเชี่ยนหยุนออกมาจากโลการ่างในจุดลมปราณได้ทัน หลังจากนั้นพลังการขับไล่ของห้วงดาราก็พลันแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม กวาดต้อนเขาออกไป
ห้วงเวลาข้างหน้ากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางทีอาจผ่านไปครู่หนึ่ง หรืออาจจะผ่านไปหลายปี เมื่อภาพตรงหน้าหลัวซิวกลับสู่สภาวะปกติ เขาก็ปรากฏตัวด้านนอกแดนเทวนิรันกาลแล้ว
ออร่าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นข้างกาย หลัวซิวเพียงแค่หันหน้าไปก็พบกับจีเสวียนคง เห็นได้ชัดว่าจีเสวียนรู้ทันทีที่เขาถูกเทเลพอร์ตออกมา