มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2032
ภาพเหตุการณ์ที่หลัวซิวและเจ้าสำนักอิมเอี๊ยงปะทะกันอย่างยิ่งใหญ่มันช่างน่าทึ่งมากจริง ๆ พลังที่แตกปะทุออกมาจากการโจมตีหนึ่ง เพียงพอที่จะสามารถทำลายล้างดาวเคราะห์ จึงทำให้คนอื่น ๆ ในสำนักอิมเอี๊ยงต่างอดไม่ได้ที่จะถดถอย ไม่กล้าเข้าใกล้
“เสี่ยวจื่อ รีบมานี่”
ฉียู่หรงตะโกนเรียกคำหนึ่ง จีเสี่ยวจื่อจึงรีบโคจรกฎปริภูมิ หลุดพ้นออกมาจากคู่ต่อสู้ภายในพริบตา กลับขึ้นมาบนเรือรบทองคำ
“ช่วยข้าหน่อย ชนพวกมันให้ตาย!”จีเสี่ยวจื่อกัดฟันแน่น แม้ศักยภาพของนางจะไม่อ่อน แต่ถูกมกุฎเทพหลายคนรุมโจมตี จึงเสียเปรียบไม่น้อยเลย
“ได้เลย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจีเสี่ยวจื่อ หนิงหานยู่ที่มีอุปนิสัยค่อนข้างคล้ายคลึงกับนางจึงเป็นคนแรกที่พยักหน้า สตรีทั้งสามจึงร่วมกันกระตุ้นเรือรบทองคำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งชนไปทางเหล่ามกุฎเทพของสำนักอิมเอี๊ยงจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น
“โครม!”
ทุกตำแหน่งที่เรือรบทองคำเคลื่อนผ่านล้วนดับสลายไป ผู้อาวุโสมกุฎเทพเหล่านั้นลงมือโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทว่ากลับไม่สามารถทลายม่านแสงของเรือรบได้เลยด้วยซ้ำ ในขณะที่พวกเขากำลังจะหลบหลีกอยู่นั้น กลับไม่ทันการแล้ว
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……
แสงโลหิตแย้มบานขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ผู้อาวุโสมกุฎเทพทั้งสี่ถูกเรือรบทองคำกดอัดจนตายคาที่
“ไอ้ชาติชั่ว ฆ่าพวกนางซะ!”
ยอดฝีมือจำนวนมากที่เหลือของสำนักอิมเอี๊ยงต่างกราดเกรี้ยว คนนับร้อยพุ่งเบียดเสียดกันเข้ามา แต่ละคนต่างเรียกของขลังอาวุธสงครามของตัวเองออกมา โคจรพลังอมตะ การโจมตีที่ครอบผืนฟ้าปฐพีแผ่คลุมไปทางเรือรบทองคำ
“อาศัยจำนวนคนที่มากกว่ามารังแกข้าอย่างนั้นหรือ?”
จีเสี่ยวจื่อก็โกรธเกรี้ยวแล้วเช่นกัน นางค้นหาสิ่งของในแหวนเก็บของอยู่สักพัก ก่อนจะหยิบลูกแก้วสีดำออกมาหนึ่งลูก
“นี่คืออะไรหรือ?”ฉียู่หรงและหนิงหานยู่ต่างผงะเล็กน้อย สายตาร่วงลงบนลูกแก้วลูกนี้ มีรังสีแห่งความเคร่งขรึมปรากฏบนใบหน้า
เนื่องจากลูกแก้วลูกนี้ดำขลับและไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ทว่ากลับทำให้คนมองสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ
“นี่คือลูกแก้วมรณาเป็นสมบัติที่ท่านปู่ข้ากลั่นแปรชี่มรณะด้วยกฎชีวิตแล้วผนึกรวมขึ้นมา ทันทีที่เจ้าสิ่งนี้ระเบิดแตก ก็สามารถสังหารมกุฎเทพได้อย่างง่ายดายเลย!”
จีเสี่ยวจื่อพูดอย่างโกรธเกลียด นางถูกผู้คนในสำนักอิมเอี๊ยงปั่นจนหัวเสียแล้วจริง ๆ ฝ่ายตรงข้ามอาศัยกำลังพลที่มากกว่าทำให้นางปลดปล่อยศักยภาพออกมาได้ยาก ทำได้เพียงเป็นฝ่ายที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
จากผลการฝึกตนของจีเสวียนคง ต้องสามารถกลั่นสมบัติที่มีพลานุภาพยิ่งใหญ่ออกมาได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ทว่าสมบัติประเภทนี้ก็มีข้อเสียเยอะเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นลูกแก้วมรณาลูกนี้ ทันทีที่ระเบิดแตก มันก็จะทำการโจมตีทุกคนโดยไม่เลือกหน้า หากพลานุภาพทรงพลังมากเกินไป ตัวจีเสี่ยวจื่อเองก็อาจจะเสียชีวิตได้ด้วย
ดังนั้นสมบัติส่วนมากที่จีเสวียนคงให้นางจึงเป็นสมบัติที่นางสามารถควบคุมได้ ในขณะเดียวกันเพื่อให้นางฝึกฝนให้มาก ๆ โดยไม่พึ่งพิงวัตถุภายนอก จีเสวียนคงจึงไม่เคยประทานสมบัติที่น่าทึ่งมากเกินไปให้นาง
แต่ในเวลานี้ลูกแก้วมรณากลับสร้างประสิทธิผลได้ดีที่สุด มีการคุ้มกันจากเรือรบจ้าวมหาเทพ นางไม่ต้องกังวลความปลอดภัยและความอันตรายของตัวเอง และขอบเขตพลังโจมตีของลูกแก้วมรณาก็เหมาะกับการโจมตีแบบกลุ่มอย่างวินาทีนี้พอดี
“นี่มันเป็นไปไม่ได้! ต่อกรกับข้ามานานขนาดนี้ เหตุใดออร่าของเจ้าจึงไม่อ่อนแอลงเลยแม้แต่น้อย?”
กลางพายุที่มีพลังมากมายมหาศาล เจ้าสำนักอิมเอี๊ยงอุทานอย่างตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
มาตรแม้นว่ามีผลการฝึกตนมกุฎเทพขั้น 9 อย่างเขา วินาทีนี้ก็รู้สึกกำลังไม่ถึงแล้ว การกระตุ้นเคล็ดวิชาและควบคุมของขลังจ้าวมหาเทพ ทำให้สูญเสียผลการฝึกตนไปเยอะมาก ๆ
ทว่าในวินาทีนี้เองเขาถึงจะสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มที่กำลังเข่นฆ่าปะทะกับตน ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงบัดนี้พลังออร่าของเขายังคงฮึกเหิมอยู่เช่นเคย ไม่มีท่าทีที่ดูอ่อนแอลงไม่ว่า ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งสู้ยิ่งฮึด ออร่ายิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่ง
“วรยุทธ์ที่เขาฝึกคืออะไรกันแน่? หรือว่าในโลกใบนี้มีวรยุทธ์ที่วิปริตเช่นนี้จริง ๆ?”เจ้าสำนักอิมเอี๊ยงคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ดังนั้นจึงทำได้เพียงสรุปเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้ว่าวรยุทธ์ที่หลัวซิวฝึกนั้นพิเศษ