มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2054
ในบรรดากฎทั้งหมด กฎชั้นยอดอย่างการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาต้องแข็งแกร่งที่สุดอยู่แล้ว สตรีทั้งสามนางที่อยู่ข้างกายหลัวซิว จีเสี่ยวจื่อฝึกกฎปริภูมิ หนิงหานยู่ฝึกกฎชีวิต มีเพียงฉียู่หรงเท่านั้นที่พรสวรรค์ปัญญาค่อนข้างอ่อนกว่าหน่อย มีพรสวรรค์พิเศษในด้านกฎธาตุไม้มากกว่า
ในบรรดาสตรีทั้งสามนาง หลัวซิววางแผนที่จะเน้นบ่มเพาะจีเสี่ยวจื่อและหนิงหานยู่เป็นหลัก ในส่วนของฉียู่หรงนั้น บางทีอนาคตนางอาจจะบรรลุถึงระดับขั้นอย่างยัยหนูสองคนที่นำอยู่ข้างหน้าได้ยาก แต่หลัวซิวเชื่อว่าเมื่ออาศัยวิธีการของตนเอง นางก็ต้องไม่แย่ไปกว่ากันเท่าไหร่แน่นอน
หลัวซิวมั่นใจในหมื่นจักรวาลไร้รูปของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม หากไม่มีแม้กระทั่งความมั่นใจแค่นี้ เขาก็คงไม่ถึงขั้นล้มเลิกทางลัดในการฝึกกฎอื่น ๆ โดยตรง ยิ่งกว่านั้นคือในการฝึกยุทธ์ของนักยุทธ์ ก็ต้องมั่นใจต่อวิถีที่ตนฝึกอย่างเต็มเปี่ยมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
หมื่นจักรวาลไร้รูปของเขาครอบคลุมจักรวาล มีความเร้นลับของสรรพวิชาบรรจุอยู่ภายในวิถีแห่งกฎ วิถีแห่งตนก็เข้ากันกับวิถีจิตและญาณได้ดีเช่นกัน
ในด้านมหทรรศน์ของการฝึกตน วิถียุทธ์แบ่งออกเป็นวิถีแห่งกฎและวิถีแห่งตนวิถีแห่งกฎที่กล่าวถึงนั้นก็คือกฎทั้งหลายในเทียนเต้า มีคนฝึกหนึ่งประเภท มีคนฝึกสองประเภท ระดับขั้นต่างกัน สรรพวิชาต่างกันไป
วิถีแห่งตนก็คือตัวของนักยุทธ์เอง โดยแบ่งออกเป็นวิถีจิตและญาณ จิตคือจิตญาณ ญาณคือร่างญาณ
วิชากลั่นวิญญาณฝึกยากมาก อีกทั้งการที่อยากได้ผลสำเร็จบนวิถีกลั่นวิญญาณนั้น ต้องมีพรสวรรค์ที่สูงมาก ๆ และต้องมีวรยุทธ์เคล็ดเซียนที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐานเช่นกัน
นักยุทธ์ส่วนมากที่ฝึกวิถีแห่งตนจะเลือกวิถีร่างญาณซะส่วนใหญ่
ผู้ที่ฝึกคู่ร่างเวทย์นั้นมีไม่มาก ตั้งแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบันก็มีเพียงไม่กี่ท่านเท่านั้น ผู้ที่สามารถฝึกสำเร็จล้วนเป็นหนึ่งไม่เป็นสอง สูงตระหง่านและมั่นคงดั่งขุนเขาในโลกหล้า แต่สาเหตุที่คนส่วนมากกลับล้มเลิกกลางทาง เป็นเพียงเพราะการฝึกคู่มันยากเกินไป
อย่างไรเสียตั้งแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน แม้อัจฉริยะจะมีเยอะมาก ๆ ทว่าไม่ใช่อัจฉริยะทุกคนจะได้รับโอกาสและโชคอันยิ่งใหญ่จำนวนมากเหมือนหลัวซิว
“ศิษย์พี่ ท่านเรียกหาข้าหรือ?”
ไม่นานนัก จีเสี่ยวจื่อก็มาถึงห้องของหลัวซิว
หลัวซิวยิ้มพลางพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ที่เรียกเจ้ามาในครั้งนี้ เพราะข้าประโยชน์ดี ๆ จะมอบให้เจ้า”
“ประโยชน์? ประโยชน์อะไรหรือ?”ไม่ได้ยินคำพูดดังกล่าว แววตาของจีเสี่ยวจื่อจึงเป็นประกายขึ้นมาทันที ดูตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย
จากความเข้าใจของนางที่มีต่อศิษย์พี่คนนี้ ขอแค่ศิษย์พี่ลงมือ เช่นนั้นต้องไม่มีของธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ต้องท้าวความก่อนว่าแม้แต่ของล้ำค่าอย่างหินนิรันดร์และกระบี่ตรีภพ เขายังมอบให้ผู้อื่นเลย
“เสี่ยวจื่อ ข้าคิดว่าเจ้าเองก็น่าจะเข้าใจอยู่ว่าหากพูดถึงเรื่องพรสวรรค์ปัญญาละก็ เมื่อเปรียบเทียบกับเหล่าอัจฉริยะไร้เทียมทานในมหาโลกาพันสามแล้ว เจ้ายังแตกต่างจากคนเหล่านั้นอยู่เล็กน้อย แม้พรสวรรค์ปัญญาไม่สามารถตัดสินผลสำเร็จสูงต่ำในอนาคตของคนคนหนึ่ง แต่พรสวรรค์และปัญญาก็ส่งผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน”
หลัวซิวค่อย ๆ เอ่ยปากพูด “ยกตัวอย่างเช่นหลังจากเจ้าบรรลุถึงแดนใดแดนหนึ่งแล้ว บางครั้งก็จะได้รับผลกระทบและถูกจำกัดจากพรสวรรค์ปัญญาของตัวเจ้าเอง ทำให้เจ้าก้าวไปข้างหน้าได้ยาก แต่สำหรับเหล่าอัจฉริยะไร้เทียมทานแล้ว ก้าวนี้ก็จะค่อนข้างง่ายดายมาก”
สำหรับพรสวรรค์ปัญญาของตัวเองนั้น จีเสี่ยวจื่อก็ต้องรู้ตัวเองดีอยู่แล้ว บางทีศักยภาพของนาง ณ ปัจจุบันเพียงพอที่จะเทียบทัดอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานในมหาโลกาพันสาม แต่นั่นเป็นเพราะนางยึดกุมกฎปริภูมิได้ด้วยความบังเอิญ หากพูดถึงพรสวรรค์ปัญญาที่แท้จริง มากสุดนางก็เป็นเพียงอัจฉริยะระดับสูงคนหนึ่ง ซึ่งห่างจากอัจฉริยะชั้นยอดเล็กน้อย
“หรือว่าศิษย์พี่มีหนทางใดที่สามารถช่วยเหลือข้าได้?”จีเสี่ยวจื่อกระพริบตาถี่ ๆ พลางถาม ภายในดวงตาที่สดใสเปี่ยมล้นไปด้วยสติปัญญา
“หนทางน่ะมีอยู่ แต่ต้องดูว่าเจ้าจะเลือกอย่างไร”หลัวซิวยิ้มพลางพยักหน้า