หลัวซิวมองซิงเฉินรอบหนึ่งแล้วพูดว่า: “ข้าทราบความพะวงของเจ้า ทว่าเรื่องราวในตระกูลเทพสงครามของเจ้าไม่ได้จัดการง่ายเช่นนั้น นอกเสียจากว่าข้าจะฆ่าล้างกองกำลังใหญ่ทั้งหลายในโลกะอัมพรเทว ขอแค่มีคนทราบว่าภายในตระกูลเทพสงครามของเจ้ามีของล้ำค่า ปัญหาของพวกเจ้าก็จะมีมาอย่างไม่ขาดสาย”
“ข้าไม่มีวันปกปักรักษาอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป ดังนั้นอนาคตของตระกูลเทพสงครามพวกเจ้า ก็ยังต้องพึ่งพาตัวพวกเจ้าเองอยู่ดี”
ในระหว่างที่พูดคุยกัน หลัวซิวก็หยิบม้วนหยกออกมาหนึ่งชิ้น ก่อนจะง้างมือโยนมันออกไป จากนั้นม้วนหยกก็ถูกพลังออร่าหนึ่งรองรับไว้ ค่อย ๆ ลอยไปตรงหน้าซิงเฉิน
“สิ่งที่อยู่ภายในม้วนหยกชิ้นนี้คือวรยุทธ์ภาคต่อของตระกูลเทพสงครามของพวกเจ้า ทว่าสูงสุดฝึกได้ถึงแดนราชาเทพเท่านั้น สิ่งที่ข้าสามารถช่วยตระกูลเทพสงครามของพวกเจ้าได้นั้นก็มีเพียงเท่านี้แล้วล่ะ”
“ภาคต่อของเคล็ดเทพสงคราม?”
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ซิงเฉินก็เบิกตากว้างอ้าปากค้าง เขารีบหยิบม้วนหยกมาอย่างรวดเร็ว แล้วใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจสิ่งที่อยู่ภายใน
ตลอดช่วงหลายล้านปีที่ผ่านมา หัวหน้าตระกูลและผู้อาวุโสในตระกูลของแต่ละยุคสมัยของตระกูลเทพสงครามล้วนสูญเสียกำลังกายและกำลังสมอง อยากอนุมานภาคต่อที่สมบูรณ์แบบของเคล็ดเทพสงครามออกมา แต่กลับไม่เคยสำเร็จเลย
เนื่องจากช่วงเริ่มต้นของวรยุทธ์อย่างเคล็ดเทพสงครามไม่ลึกซึ้งแต่อย่างใด ทว่าตั้งแต่วรยุทธ์แดนราชาเทพเป็นต้นไป ก็จะมีกฎที่ลึกซึ้งแฝงซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนแต่ละยุคของตระกูลเทพสงครามต่างเพ้อฝันแม้ในยามนอนหลับ!
ใช้ตัวสำนึกเรียนรู้วรยุทธ์ที่อยู่ภายในม้วนหยก ซิงเฉินที่มีผลการฝึกตนบรรลุถึงกึ่งราชาเทพตั้งนานแล้ว ก็สัมผัสได้ทันทีว่าผลการฝึกตนในร่างกายเตรียมพร้อมที่จะลงมือบุกแล้ว!
ใช่ของจริงจริง ๆ! นี่คือภาคต่อของเคล็ดเทพสงครามจริง ๆ!
วินาทีนี้ซิงเฉินดูตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นคือมีความรู้สึกที่ดีใจมากจนอยากร้องไห้
“บุญคุณครั้งยิ่งใหญ่ของคุณชาย เป็นสิ่งที่ตระกูลเทพสงครามของเข้าไม่สามารถตอบแทนได้!”
ซิงเฉินรีบคุกเข่าลง ก้มคราบหลัวซิวอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องจากตื่นเต้นดีใจมากเกินไป ทำให้ร่างกายที่กำยำสั่นเทา
“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก เจ้าจงรับรู้ไว้ด้วยว่าที่ข้าคุ้มครองตระกูลเทพสงคราม และนำภาคต่อของวรยุทธ์ให้เจ้านั้น ไม่ใช่เพราะตระกูลเทพสงครามของเจ้ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อข้า แต่เป็นเพราะเทพสงครามเอกภพท่านพ่อของเจ้า”หลัวซิวรับการก้มกราบจากซิงเฉินอย่างสบายใจพลางตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง
“ขอรับ ซิงเฉินเข้าใจความหมายของคุณชายขอรับ”ซิงเฉินพยักหน้าพลางพูด ในขณะเดียวกันเขาก็ถามอีกว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายได้รับภาคต่อของเคล็ดเทพสงครามมาจากที่ใดหรือ?”
สาเหตุที่ซิงเฉินถามคำถามเช่นนี้นั้น ก็ไม่ใช่เพราะเขาสงสัยอะไรหรอก แต่เป็นเพราะภาคต่อของเคล็ดเทพสงครามมันสำคัญต่อตระกูลเทพสงครามมากจริง ๆ หากได้รับภาคต่อที่มากกว่าละก็ เช่นนั้นตระกูลเทพสงครามของพวกเขาก็จะมีโอกาสเชิดฉายรุ่งโรจน์ดั่งบรรพบุรุษในอดีตได้อีกครั้ง!
ความลับของตระกูลเทพสงครามจะถ่ายทอดผ่านหัวหน้าตระกูลของแต่ละยุคแบบปากต่อปาก แม้เมื่อนั้นซิงเฉินยังไม่ใช่หัวหน้าตระกูล แต่กลับเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยแล้ว ดังนั้นเขาจึงทราบความลับที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมาของตระกูลเทพสงครามผ่านปากเทพสงครามเอกภพท่านพ่อเขา
ตระกูลของพวกเขามาจากโลกร้างที่อยู่ในหนึ่งในโลกามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งแปด และตระกูลเทพสงครามก็เคยตั้งตระหง่านและมั่นคงดั่งขุนเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกร้าง อย่าว่าแต่มกุฎเทพจ้าวมหาเทพอะไรเลย แม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ไร้เทียมทานของจักรวาลในมหาโลกาพันสาม สำหรับตระกูลเทพสงครามที่อยู่ในช่วงรุ่งโรจน์แล้ว ก็เป็นเพียงบุคคลที่เหมือนดั่งมดตัวจ้อย!
และสาเหตุที่ตระกูลเทพสงครามแข็งแกร่งเช่นนี้นั้น ล้วนมีบ่อเกิดมาจากเคล็ดเทพสงคราม!
เผ่าพันธุ์อื่น ๆ ก็สามารถฝึกเคล็ดเทพสงครามได้เช่นกัน ทว่ามากสุดแค่สามารถฝึกถึงแดนราชาเทพเท่านั้น มีเพียงอัจฉริยะในตระกูลเทพสงครามเท่านั้นถึงสามารถฝึกตั้งแต่แดนราชาเทพเป็นต้นไป อีกทั้งตั้งแต่แดนราชาเทพเป็นต้นไป ตระกูลเทพสงครามถึงจะแสดงพรสวรรค์และกำลังรบที่น่าทึ่งออกมา
แน่นอนอยู่แล้วว่าแม้ซิงเฉินจะไม่บอกเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ หลังจากที่หลัวซิวได้รับภาคต่อของเคล็ดเทพสงครามมาจากวัฏสงสาร เขาก็ค้นพบจุดนี้แล้ว
จากวรยุทธ์แดนเทพฟ้าของเคล็ดเทพสงคราม หลัวซิวก็พอจะคาดคะเนได้แล้วว่าความลึกลับมหัศจรรย์และความแข็งแกร่งของเคล็ดเทพสงครามฉบับสมบูรณ์แบบ เกรงว่าน่าจะไม่ด้อยกว่าพลังจุติมรณะ