มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2085
“โอหัง! คุณชายตระกูลข้าพูดคุยกับเจ้า เจ้าบังอาจไร้มารยาทเช่นนี้หรือ?”
น้ำเสียงของผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกายจ้าวเทียนซิ่นแหบแห้ง เขาทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นในทันที แล้วก้าวเท้าเดินออกมา
“ข้าจักไร้มารยาทนี่แหละ เจ้าทำกระไรข้าได้เล่า?”หลัวซิวขมวดคิ้วลง แล้วตอบกลับอย่างดูหมิ่นคำหนึ่ง
“รนหาที่ตาย!”
ผู้อาวุโสตะคอกด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกี้ยว ก่อนที่เขาจะลงมือโจมตีเข้ามาข้างหน้าโดยตรง
แม้จะได้ยินเรื่องราวที่บรรพอาจารย์เทวพยัคฆ์ถูกสังหาร ทว่าผู้อาวุโสคนนี้กลับรู้สึกว่าเมื่ออาศัยผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพขั้น 7 ของตนเอง แม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่อย่างน้อยก็สามารถถอยกลับมาได้อย่างปลอดภัย
“ไสหัวไป!”
เมื่อจีเสี่ยวจื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามลงมือ นางจึงขยับร่างกายในทันที มือถือหอกมังกรแดงมืด แทงหอกออกไป ทลายสุญญากาศ
ผู้อาวุโสคนนั้นทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง มีหอคอยเวทย์หลังหนึ่งปรากฏกลางฝ่ามือ ได้ยินเพียงเสียงเตี๊ยงดังสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นมา จากนั้นเขาก็ทำการต้านทานหอกนี้ของจีเสี่ยวจื่อเอาไว้ได้
เมื่อจ้าวเทียนซิ่นที่นั่งอยู่บนราชรถหัวมังกรร่างม้าเห็นจีเสี่ยวจื่อ แววตาเขาก็เป็นประกายขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ สตรีที่งดงามเช่นนี้และมีผลการฝึกตนเป็นมกุฎเทพอีก ช่างเป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริง ๆ
เงาร่างของจีเสี่ยวจื่อกระพริบระยิบระยับ ความเร็วรวดเร็วมากจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถผนึกเป้าหมายได้ นางแทงเงาหอกออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ท้องฟ้าถูกฉีกกระชากจนพังยับเยิน
อย่างไรก็ตามผลการฝึกตนของนางก็ต่ำไปหน่อย เป็นเพียงมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ ส่วนผู้อาวุโสคนนี้กลับเป็นมกุฎเทพช่วงปลาย ใช้หอคอยเวทย์หลังหนึ่งก็ทำการต้านทานการโจมตีทั้งหมดของนางเอาไว้ได้แล้ว
เวิ่ง!
เห็นเพียงผู้อาวุโสกางฝ่ามือใหญ่ออก ฝ่ามือครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ทำการผนึกกดอัดปริภูมิบริเวณรอบ ๆ เอาไว้ในทันที ทำให้จีเสี่ยวจื่อสูญเสียความสามารถในการยึดกุมกฎปริภูมิไปภายในพริบตา
มือใหญ่คว้าจับมา เมื่อเห็นว่ามือใหญ่ใกล้จะจับร่างจีเสี่ยวจื่อได้แล้ว หนิงหานยู่จึงพุ่งออกไปภายในพริบ มือที่ขาวดุจหยกประสานอิน รอบกายมีแสงกระพริบระยิบระยับ
“ชีวีพิทักษ์!”
กฎชีวิตที่สว่างไสวประกอบเป็นม่านแสงชั้นหนึ่ง ต้านทานมือใหญ่ที่คว้ามาของผู้อาวุโสคนดังกล่าวเอาไว้
“กฎปริภูมิ! กฎชีวิต!?”
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของสตรีทั้งสองต่างเป็นกฎชั้นยอด สีหน้าของผู้อาวุโสที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เปลี่ยนแปลงไป เรียกได้เลยว่าตะลึงงันอย่างยิ่ง
อย่างที่ทุกคนทราบกัน กฎชั้นยอดนั้นฝึกยากมาก ๆ ไม่เพียงต้องมีพรสวรรค์ที่สูงส่ง ยังต้องมีโอกาสโชคและวรยุทธ์เคล็ดเซียนอีก บัดนี้มีอัจฉริยะที่ยึดกุมกฎชั้นยอดปรากฏสองคน แล้วเขาจะไม่ตะลึงงันได้อย่างไรเล่า?
“แม้จะยึดกุมกฎชั้นยอด ทว่าท้ายที่สุดแล้วผลการฝึกตนของพวกเจ้าก็ต่ำเกินไป ซึ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
ในฐานะที่เป็นผู้คุ้มครองจ้าวเทียนซิ่น ศักยภาพของผู้อาวุโสคนนี้แข็งแกร่งมาก ๆ ภายใต้การกระตุ้นของเขา หอคอยเวทย์ได้ระเบิดอานุภาพที่ดุดันมาก ๆ ออกมา เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้นครั้งหนึ่ง ก็ทำการกดอัดจีเสี่ยวจื่อและหนิงหานยู่เอาไว้ได้แล้ว ม่านแสงที่ประกอบมาจากชีวีพิทักษ์ก็จะล้มมิล้มแหล่ สามารถทลายได้ตลอดเวลา
เมื่อจีเสี่ยวจื่อและหนิงหานยู่ร่วมมือกัน สามารถต่อกรกับมกุฎเทพช่วงปลายได้ ทว่าก็ต้องดูก่อนว่าฝ่ายตรงข้ามคือมกุฎเทพช่วงปลายอย่างไร
ผู้อาวุโสคนดังกล่าวคือผู้คุ้มครองจ้าวเทียนซิ่น เมื่อมองในมุมทั้งตระกูลจ้าว เขาก็ถือเป็นยอดฝีมือในหมู่มกุฎเทพช่วงปลายอยู่
ครั้นเมื่อยังเป็นวัยรุ่น ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ต้องเป็นอัจฉริยะที่ล้ำเลิศอย่างแน่นอน ฝึกกฎธาตุดินถึงแดนขั้น 7 แล้ว
กฎธาตุดินเชี่ยวชาญเรื่องการกดอัด โดยเฉพาะสามารถวิวัฒนาการกฎโน้มถ่วงได้ด้วย ขณะที่ลงมือโจมตี แรงกดอัดจะน่าทึ่งอย่างยิ่ง ซึ่งมีน้อยคนมากที่สามารถต้านทานได้
เห็นเพียงฝ่ามือของผู้อาวุโสกางออก กำหอคอยเวทย์ไว้ในมือ กดอัดฝ่ามือข้างหนึ่งลงมา ก็ทำให้ม่านแสงชีวีพิทักษ์ของหนิงหานยู่จะล้มมิล้มแหล่ ถูกกดอัดจนรูปร่างเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถพังทลายได้ตลอดเวลา
ส่วนจีเสี่ยวจื่อนั้นก็ใช้หอกมังกรแดงมืดโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทว่ากลับไม่สามารถทลายหอคอยเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะนอกจากกฎธาตุดินจะเชี่ยวชาญการกดอัดแล้ว พลังป้องกันของมันก็น่าทึ่งมากเช่นกัน