เทพมารระดับหกทั่วไปก็เป็นผู้ไร้เทียมทานในมหาโลกาพันสาม กลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ของยุคสมัยหนึ่งแล้ว ส่วนเขานั้นมีศักยภาพเทพมารระดับหก ซึ่งเพียงพอที่จะถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในสิบของผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วนของมหาโลกาพันสาม!
หลัวซิวไม่ได้พูดอะไรอีก ทว่าแค่กระตุ้นความเร็วให้ถึงขีดสุดอย่างสุดกำลังสามารถ ทะลุข้ามผ่านไปมาอยู่ในห้วงดาราอย่างรวดเร็ว
“ดูท่าเจ้าจักไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้าสินะ?”
มหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิส่ายหน้าต่อกิริยาท่าทางของหลัวซิว เขาควบคุมโลงศพโบราณทองสัมฤทธิ์บดขยี้อนัตตา เกะกะระรานจนเหลือเชื่อ ไล่ตามหลังมาด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
“เจ้าหนีไม่รอดหรอก”
เสียงตู้มดังลั่นขึ้นมา โลงศพโบราณทองสัมฤทธิ์เปิดออก พลังดูดกลืนที่มากมายมหาศาลพรั่งพรูออกมา ทำให้ผู้คนไม่สามารถต้านทานได้ ส่วนหลัวซิวนั้นก็สูญเสียการควบคุมกฎปริภูมิ ถูกพลังดูดกลืนผนึกจนร่างกายถูกกระชากไปข้างหลัง
“เจ้าเป็นผู้บีบบังคับข้าเอง!”
ทันใดนั้นเอง วินาทีนี้ก็มีจิตสังหารที่ล้นฟ้าปรากฏในสายตาหลัวซิว เขาไม่อยากใช้กระบี่เหล็กที่คนชุดเขียวมอบให้ ทว่าวินาทีนี้เขากลับไม่ใช้ไม่ได้แล้ว
เห็นเพียงเขาหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบกระบี่เหล็กออกมาจากแหวนเก็บของอย่างเรียบง่าย ง้างมือข้างขวาขึ้นมา ก่อนจะฟันกระบี่ออกไปโดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย!
กระบี่เหล็กเล่มนั้นไม่ต่างอะไรจากกระบี่เหล็กธรรมดาที่ช่างเหล็กตีหลอมขึ้นมา แต่วินาทีที่หลัวซิวฟาดฟันมันออกไป กลับสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ห้วงดาราเปลี่ยนสี!
ปราณกระบี่สีเขียวพุ่งออกไปจากกระบี่เหล็ก ปราณกระบี่ดุจมังกร ยาวหลายร้อยเมตร พร้อมกับท่วงทำนองที่ทะนงองอาจถึงขีดสุด
ภายในกระบี่เหล็ก มีห้วงกระบี่ของคนชุดเขียวแฝงซ่อนอยู่ เขาพูดน้อยเงียบขรึม ทว่ากลับทะนงองอาจถึงขีดสุด เดินอยู่บนวิถีธรรมที่ยิ่งใหญ่คนเดียว แสวงหาสิ่งที่ต้องการตัวคนเดียว ซึ่งนี่ก็คือห้วงกระบี่ของเขา!
เสี้ยววินาทีที่ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวดำ หรือมหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิในตำนานเห็นปราณกระบี่ดังกล่าว สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปอย่างบ้านระห่ำภายในพริบตา เพราะปราณกระบี่นี้
“โลงศพเทวมรณา!”
มหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิเรียกโลงศพโบราณทองสัมฤทธิ์ออกมา จึงมีปราณดำที่ไร้ขอบเขตพรั่งพรูออกมาจากโลงศพโบราณภายในพริบตา พลังแห่งความตายที่ไร้ขอบเขตกลายเป็นเงาดำที่สูงตระหง่านร่างหนึ่ง ดุร้ายน่ากลัว
เสียงดังลั่นที่น่ากลัวก้องกังวานอย่างไร้ที่สิ้นสุด หลัวซิวรีบถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว มีรอยร้าวปรากฏตามร่างกายเขาเป็นจำนวนมาก ทว่าสีหน้าเขากลับสุขุมไม่เปลี่ยนแปลง
“น่าเสียดายที่ผลการฝึกตนของตู๋กูเจี้ยนเฉินยังไม่ฟื้นฟูกลับคืนดั่งวันวานที่ผ่านมา อำนาจแห่งห้วงกระบี่ยังไม่ทรงพลังมากพอ”
หลัวซิวไม่ได้รอดูผลลัพธ์อีก การโจมตีของกระบี่ในเมื่อครู่นี้เรียกได้เลยว่าเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดในมหาโลกาพันสาม ทว่ากลับยังไม่เพียงพอที่จะสังหารมหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิผู้ดูแลสมบัติล้ำค่า
หลัวซิวบินหนีไปอย่างรวดเร็ว หายไปจากขอบฟ้าของห้วงดาราภายในพริบตา กระทั่งหลังจากผ่านไปนานมาก ๆ แล้ว เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินเป็นที่น่าสะเทือนขวัญอย่างยิ่งถึงจะค่อย ๆ ดับหายไป
ปราณกระบี่สีเขียวสลายหายไปแล้ว แต่เงาดำดุร้ายที่กลายมาจากชี่แห่งความตายนั่นก็ถูกทลายไปแล้วเช่นกัน ท่ามกลางคลื่นพลังที่น่ากลัวถึงขีดสุด มหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิควบคุมโลงศพโบราณพุ่งออกมา ขอบมุมของโลงศพโบราณแตกหักไปส่วนหนึ่ง ส่วนตามร่างกายเขานั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยกระบี่ เหมือนดั่งเครื่องกระเบื้องเคลือบที่แตกร้าว ราวกับสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็แตกสลายแล้ว
“ผ่านมากี่ปีแล้ว ข้าลืมไปแล้วว่าความเจ็บปวดคืออะไร”
เขม็งมองทิศทางที่หลัวซิวจากไป สีหน้าของมหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิหม่นหมองถึงขีดสุด ในยุคสมัยอันไกลโพ้น เขาถูกบีบบังคับให้ออกจากโลกมหาศักดิ์ มาถึงมหาโลกพันสาม เขาเป็นผู้เกรียงไกรไร้เทียมทาน และยิ่งบุกเบิกมหาโลกาใบหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งที่ตายอยู่ในเงื้อมมือเขามีมากจนนับไม่ถ้วน
“นึกไม่ถึงเลยว่ามันยังมีอุบายไพ่เด็ดที่ทรงพลังเช่นนี้ ห้วงกระบี่ที่น่าสยดสยองนั่นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถครอบครองได้อย่างแน่นอน หรือว่ามีเทพมารระดับเจ็ดเป็นต้นไปคอยคุ้มกันอยู่เบื้องหลังมัน?”
มหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มาจากโลกมหาศักดิ์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเข้าใจดีมาก ๆ ว่าในมหาโลกาพันสามไม่มีทางมีเทพมารระดับหกเป็นต้นไปปรากฏได้ด้วยซ้ำ