แม้จะมีผลการฝึกตนมกุฎเทพขั้น 7 แต่เห้อเหลียนชิงกลับไม่กล้าดูถูกจีเสี่ยวจื่อที่เป็นมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ ด้วยเหตุนี้ทันทีที่ขึ้นมา เขาก็ทุ่มสุดกำลังสามารถเลย
“ตู้ม!”
พลังอำนาจซัดสาดราวกับน้ำหลากระเบิด ทันทีที่เข้ามาเห้อเหลียนชิงก็กระตุ้นพลังแห่งสายเลือด มีเงาลวงที่น่ากลัวปรากฏด้านหลังเขาหนึ่งร่าง เหมือนดั่งมังกร ทว่าไม่มีเขามังกรและมีดวงตาสามดวง
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าร่างดั้งเดิมของเห้อเหลียนชิงนี่คือมังกรเจียวสามเนตร ในระหว่างที่ลงมือโจมตี มังกรเจียวคำรามเสียงดังพลางขย้ำไปทางจีเสี่ยวจื่อ
“เข้ามาได้ดีเสียจริง!”
จีเสี่ยวจื่อพลิกมือที่ขาวดุจหยก หยิบหอกมังกรแดงมืดออกมา ภายใต้การถ่ายเทกฎปริภูมิเข้าไปภายในหอก แสงหอกจึงฉีกกระชากจนเกิดเป็นรอยสีดำสนิทหนึ่งจุด
เมื่อเผชิญหน้าหอกดังกล่าวของจีเสี่ยวจื่อ มีกรงเล็บที่เฉียบคมดีดออกมาจากมือทั้งสองข้างของเห้อเหลียนชิง ร่างดั้งเดิมของเขาคือมังกรเจียวสามเนตร ซึ่งมีสายเลือดมังกรแท้ ร่างเนื้อเกะกะระรานตั้งแต่กำเนิด พลานุภาพของกรงเล็บคู่นี้ของเขาไม่ด้อยไปกว่าศัตราวุธราชาชั้นสูง
เสียงเตี๊ยงดังขึ้น กรงเล็บที่เฉียบคมและหอกมังกรพุ่งชนเข้าด้วยกันโดยไม่มีอะไรผิดพลาดแม้แต่น้อย ถัดจากนั้นทันทีที่เงาร่างของทั้งสองสัมผัสด้วยกันก็ดีดถอยกลับมาในทันที
พวกเซียวอันอดไม่ได้ที่จะตั้งสมาธิเพ่งมองออกไป แต่กลับพบว่ากรงเล็บข้างขวาของเห้อเหลียนชิงหักไปแล้วหนึ่งนิ้ว โกวหมิงเฉินจึงซี๊ดปากในทันที
ในฐานะที่เป็นเพื่อนพ้องร่วมขบวน โกวหมิงเฉินเข้าใจดีมาก ๆ ว่ากรงเล็บของเห้อเหลียนชิงนั้นแข็งแรงมากเพียงใด แค่กรงเล็บเดียวก็สามารถฉีกกระชากอัญมกุฎเทพระดับชั้นกลางให้แหลกสลายได้แล้ว
“ช่างเป็นอาวุธสงครามที่แข็งแกร่งยิ่งนัก”เห้อเหลียนชิงหรี่ตาลง ต่อให้กรงเล็บของเขาจะแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ แข็งแรงมากเพียงใด แล้วจะเทียบเคียงกับหอกมังกรแดงมืดที่ผ่านการวิวัฒนาโดยตัวเซียนชั้นยอดได้อย่างไรเล่า?
และในเวลานี้เอง เงาร่างของจีเสี่ยวจื่อก็หายวับไปกะทันหัน วินาทีต่อไปก็ปรากฏด้านหลังเห้อเหลียนชิง มีเปลวเพลิงลุกโชนบนหอกมังกรแดงมืด ครั้งนี้สิ่งที่จีเสี่ยวจื่อโคจรคือกฎเพลิงอัคคี
“พระเจ้า แม่นางงดงามคนนี้ฝึกกฎสองประเภทพร้อมกันอย่างนั้นหรือ?”เมื่อพวกเซียวอันเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างก็รู้สึกช็อกมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วจริง ๆ
อย่างที่ทุกคนทราบกัน การฝึกกฎประเภทหนึ่งให้ถึงขีดสุดนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้กำลังกายและกำลังสมองทั้งชีวิตของอัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่นับไม่ถ้วนแห้งเหือดแล้ว ใช่ว่าจะไม่มีอัจฉริยะที่ฝึกกฎสองประเภทเป็นต้นไป แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้นกลับมีน้อยมากถึงมากที่สุด ยิ่งกว่านั้นคือในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกของมหาโลกาพันสาม ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนล้วนฝึกกฎเพียงประเภทเดียวเท่านั้น
อายุไขของนักยุทธ์ดูเหมือนจะยาวนาน แต่ยิ่งถึงช่วงหลังการตระหนักรู้ในแดนกฎก็ยิ่งยากขึ้น ไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพเท่าไหร่ที่ตระหนักรู้อย่างยากลำบากมาหลายล้านปี แต่ก็ติดอยู่กับพันธนาการของแดนขั้น 8 และขั้น 9 มาโดยตลอด
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็ยิ่งไม่มีทางแบ่งความสนใจไปตระหนักรู้และฝึกกฎอื่น ๆ แล้ว
อย่างไรก็ตามมีสถานการณ์หนึ่งที่แน่นอนอย่างไร้ข้อสงสัยเลยก็คือผู้ที่ฝึกกฎสองประเภทนั้น ต้องแข็งแกร่งกว่าผู้ที่ฝึกกฎเพียงประเภทเดียวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกฎสองประเภทที่จีเสี่ยวจื่อฝึกนั้น ยังมีอีกหนึ่งประเภทที่เป็นกฎชั้นยอด!
สำหรับการจู่โจมอย่างฉับพลันโดยการใช้กฎปริภูมิของจีเสี่ยวจื่อนั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเห้อเหลียนชิงมีการเตรียมป้องกันมาก่อน มังกรเจียวสามเนตรที่เขากระตุ้นพลังแห่งสายเลือดแล้ววิวัฒนาการออกมาแหงนหน้าขึ้นฟ้าคำรามเสียงดัง ทันใดนั้นเองมันก็ทำการบีบรัดหอกมังกรของจีเสี่ยวจื่อไว้เหมือนเชือกเส้นหนึ่งทันที
ในขณะที่มังกรเจียวสามเนตรใช้ลำตัวบีบรัดหอกมังกร ศีรษะที่ใหญ่โตของมันก็ยื่นออกไป อ้าปากพลางขย้ำไปทางจีเสี่ยวจื่อเช่นกัน
“ระวัง!”เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ก็มีรังสีแห่งความกังวลปรากฏบนใบหน้าฉียู่หรงและหนิงหานยู่อย่างควบคุมไม่ได้
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าจีเสี่ยวจื่อก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้กระบวนท่าเช่นนี้ ภายในเวลาชั่วขณะจึงตอบโต้ไม่ค่อยทัน ทว่ากลับไม่ยอมทิ้งหอกแล้วถอยกลับ ฉะนั้นนางจึงตัดสินใจโคจรกฎปริภูมิและเพลิงอัคคี ถ่ายเทพลังเข้าไปในหอกยุทธ์