มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2124
ตู้ม!
มีพลังออร่าที่รวดเร็วและดุดันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ระเบิดออกมาจากหอกมังกรแดงมืด ลำตัวของมังกรเจียวสามเนตรที่กำลังบีบรัดหอกมังกรถูกระเบิดจนแตกสลายทันที
หลังจากหลุดพ้นจากการผูกมัดแล้ว หอกมังกรของจีเสี่ยวจื่อก็ทิ่มแทงไปข้างหน้า แสงหอกที่เฉียบคมถึงขีดสุดมาแรงจนไม่อาจต้านทานได้ พุ่งตรงไปตรงกลางหวางคิ้วของเห้อเหลียนชิง
ทว่าแม้ลำตัวของมังกรเจียวสามเนตรจะถูกบดจนละเอียดแล้ว แต่มันก็ยังอ้าปากกว้างแล้วกัดลงมา หากนางยึดมั่นที่จะแทงหอกนี้ออกไปละก็ เกรงว่าจุดจบของทั้งสองฝ่ายคงต้องบาดเจ็บสาหัสแน่
“หยุดบัดเดี๋ยวนี้!”สีหน้าของเซียวอันเปลี่ยนไป หวังจะลงมือในทันที ทว่าท้ายที่สุดก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
อย่างไรก็ตามมีกิริยาท่าทางของเงาร่างหนึ่งกลับเร็วกว่าเขา เงาดังกล่าวปรากฏข้างกายจีเสี่ยวจื่อโดยตรง ก่อนจะยื่นมือออกไปกดมือของจีเสี่ยวจื่อเอาไว้ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งตบลงกลางอากาศ มือใหญ่ข้างหนึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ทำลายล้างศีรษะของมังกรเจียวที่ขย้ำลงมา
ภาพเหตุการณ์บนสนามประลองเงียบสงัดลงไปในทันที เห็นเพียงหอกมังกรของจีเสี่ยวจื่ออยู่ห่างจากหว่างคิ้วเห้อเหลียนชิงเพียงนิ้วเศษ ๆ แต่ทว่าตรงหว่างคิ้วของเห้อเหลียนชิงก็มีโล่ขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏหนึ่งอันเช่นกัน ถึงแม้จะแทงหอกนี้ลงไป เกรงว่าก็น่าจะไม่อันตรายถึงชีวิต
“ยัยหนูนี่ เหตุใดจึงลงมือมุทะลุเช่นนี้ ในเมื่อเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เหตุใดจึงต้องจริงจังเช่นนี้ด้วย?”
หลัวซิวยื่นมือออกไปบีบจมูกจีเสี่ยวจื่อ ดูเหมือนเป็นการตำหนิ แท้จริงแล้วเขาเอ็นดูในตัวนางมาก ๆ
“เหอะ ๆ ศิษย์น้องของสหายหลัวไม่ธรรมดาจริง ๆ ฝึกกฎปริภูมิและเพลิงอัคคีพร้อมกัน เส้นทางในอนาคตต้องไร้ขีดจำกัดแน่นอน!”
เซียวอันหัวเราะพลางเดินตรงเข้ามา ตบ ๆ ไหล่เห้อเหลียนชิงพลางพูด: “พวกเราต่างเคารพนับถือในศักยภาพของพวกสหายหลัวมาก ๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกแล้ว”
การที่พูดเช่นนี้นั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเซียวอันถือว่ายอมรับศักยภาพของพวกหลัวซิวแล้ว
“ศิษย์น้องยังเด็กไม่รู้อะไรควรไม่ควร ทำให้ทุกท่านได้พบเห็นเรื่องตลก ๆ เลยนะ”หลัวซิวก็อมยิ้มตอบเช่นกัน
……
เรือรบดำมืดมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางของทะเลสาบมังกรทองต่อ ระหว่างทางพวกเขาก็พูดคุยกันไม่มากนัก แต่ทว่าเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเซียวอันปฏิบัติต่อพวกหลัวซิวอย่างเกรงใจมาก ศักยภาพที่แสดงออกมาในก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาช็อกมากอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าให้พูดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจีเสี่ยวจื่อหรือหนิงหานยู่ แม้ทั้งสองต่างฝึกกฎชั้นยอด มีศักยภาพที่น่าทึ่ง แต่ผลการฝึกตนของตัวเองกลับไม่สูง ซึ่งยังแตกต่างจากผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพขั้นสูงอย่างเซียวอันอยู่ไม่น้อยเลย
และสาเหตุที่เซียวอันเกรงใจเช่นนี้นั้น ด้านหนึ่งเป็นเพราะต่างรวมกันเป็นหนึ่งกองกำลัง ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นเป็นเพราะหลัวซิวดูลึกซึ้งมากจนไม่อาจคาดเดาได้
ผลการฝึกตนยิ่งสูง สัญชาตญาณก็ยิ่งว่องไว ตั้งแต่เริ่มต้นกระทั่งถึงบัดนี้ มีความรู้สึกอย่างหนึ่งบอกกับเซียวอันว่าหลัวซิวคนนี้ไม่ธรรมดามาก ๆ
อาณาเขตของดารานภากาศทมิฬกว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มาตรแม้นว่าด้วยระดับความเร็วของเรือรบดำมืด ก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งวัน ถึงจะมาถึงเขตพื้นที่ละแวกทะเลสาบมังกรทอง
เบิ่งมองออกไปไกล ๆ สามารถมองเห็นแสงสีทองที่แวววาวจับตาตรงตำแหน่งที่อยู่ห่างออกไปไกล ซึ่งนั่นก็คือทะเลสาบมังกรทอง ตำนานเล่ากันว่านั่นคือสถานที่นิพพานของมังกรเทพโบราณตัวหนึ่ง แก่นชีวีของมังกรเทพกลับคืนสู่ฟ้าดิน จนประกอบเป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่ดั่งมหาสมุทรแห่งนี้
เมื่อมาถึงที่นี่ สามารถสัมผัสออร่าที่เก่าแก่และเศร้ารันทดได้ ราวกับแม้แต่ฟ้าดินก็ยังทอดถอนใจต่อการดับสลายสูญสิ้นของมังกรเทพโบราณ
นอกเหนือจากพวกหลัวซิวแล้ว เขายังเห็นคนอื่น ๆ ที่ควบคุมของขลังโบยบินหรือเรือรบเข้าสู่ภายในทะเลสาบมังกรทอง เล่ากันว่าในทะเลสาบมังกรทองมีสมบัติล้ำค่าจำนวนมาก ในจำนวนสมบัติทั้งหมดสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดก็คือเกล็ดมังกรและเลือดมังกร ยิ่งกว่านั้นคือยังมีอัคคีมังกรด้วย
“ที่นี่ก็คือทะเลสาบมังกรทอง เนื่องจากในทะเลสาบมังกรทองมีพลังออร่าของมังกรทองโบราณคงอยู่ ดังนั้นหลังจากทุกคนเข้าไปภายในแล้วล้วนจะถูกกดอัด แต่ทว่าสิ่งที่ถูกกดอัดไม่ได้มีเพียงผลการฝึกตนศักยภาพของเราเท่านั้น แต่เป็นตัวสำนึกวิญญาณ หลังจากทุกคนเข้าไปแล้วต้องระมัดระวังหน่อย เนื่องจากในทะเลสาบมังกรทองมีอสูรกลายพันธุ์ที่มีสายเลือดมังกรแท้คงอยู่เป็นจำนวนมาก”