มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2131

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2131

สำหรับตัวหลัวซิวแล้ว สมบัติที่มังกรทองโบราณเทพมารระดับหกตัวหนึ่งทิ้งไว้นั้น ไม่ถือเป็นของล้ำค่าแต่อย่างใด ณ บัดนี้สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือทรัพยากรในการฝึกตน เพื่อยกระดับผลการฝึกตนศักยภาพตัวเองให้เร็วมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว การที่แบ่งสมบัติส่วนหนึ่งที่ได้มาให้พวกเซียวอันนั้น หลัวซิวก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นการออกหน้าแทนเขาในเมื่อครู่นี้ของเซียวอัน หรือคำนึงถึงความปลอดภัยของเขาเป็นสิ่งแรกในเมื่อครู่นี้ ล้วนทำให้หลัวซิวมองเซียวอันในมุมมองใหม่

เขาพูดเรื่องทุกอย่างชัดเจนแล้ว หลัวซิวจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะมุ่งหน้าเดินตรงไปยังทิศทางของประตูตำหนัก หากพวกเซียวอันไม่จากไปละก็ พวกจีเสี่ยวจื่อทั้งสามนางต้องจากไปอย่างแน่นอน

วินาทีนี้ผู้คนที่อยู่หน้าประตูใหญ่ตำหนักมีเยอะมาก ๆ ซึ่งคนส่วนมากเป็นเพียงผู้ที่เข้าใจค่ายกลเพียงเปลือกนอกเท่านั้น อยากมาลองเสี่ยงโชคที่นี่ ทว่ากลับเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน

อูห้าวเย๋ทั้งสองพี่น้องสังเกตลาดเลาฝั่งเซียวอันมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าหลัวซิวโดยตรงเข้าไป ส่วนพวกเซียวอันกลับจากไปกะทันหัน จึงทำให้สองพี่น้องนั้นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วลง

ต่อให้พวกเขาจะคิดจนสมองระเบิด ก็ไม่มีทางนึกได้อย่างแน่นอนว่าหนุ่มที่มีผลการฝึกตนราชาเทพกระจอก ๆ นั่นจะสามารถทลายค่ายกลที่แม้แต่คนอย่างบรรพอาจารย์เทียนคุนอย่างหมดซึ่งหนทางปัญญา

คนจำนวนมากล้วนพยายามลองทลายค่าย แน่นอนอยู่แล้วว่าก็มีส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจเรื่องค่ายกลเลยเข้าไปเสแสร้งแกล้งทำ

“มึงหยุดเดี๋ยวนี้!”

และในเวลานี้เอง ก็มีเสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวสะท้อนมา ซึ่งเจ้าของเสียงก็คืออูห้าวฉงที่เห็นว่าหลัวซิวเดินตรงไปยังประตูตำหนัก จึงก้าวออกมาสกัดกั้นเขาไว้

เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของอูห้าวฉง บรรพอาจารย์เทียนคุนจึงขมวดคิ้วลง ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไร

“มึงมาสกัดกั้นกูเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร? บรรพอาจารย์บอกแล้วว่าผู้ใดก็สามารถมาทลายค่ายกลได้ หรือว่ามึงจะขัดต่อบรรพอาจารย์?”

มองดูอูห้าวฉงที่อยู่ตรงหน้า หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะพลางพูด

“อูห้าวฉงกูไม่กล้าขัดต่อเจตนาของบรรพอาจารย์อยู่แล้ว แต่มึงเป็นเพียงมดตัวจ้อยกระจอก ๆ ซึ่งไม่มีสิทธิ์มายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้เลยด้วยซ้ำ พวกแซ่เซียวนั่นไสหัวไปอย่างรู้จักวางตัวแล้ว มึงยังไม่ไสหัวไปอีกหรือ?”

อูห้าวฉงทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง พลังออร่ามกุฎเทพช่วงปลายแผ่กระจายออกมา

“กูว่าผู้ที่ควรไสหัวไปคือมึงมากกว่ากระมัง? หมาดี ๆ เขาไม่ขวางทางมั่วซั่วหรอกนะ”หลัวซิวปัดมือราวกับไล่แมลงวันที่น่ารำคาญ

“มึงมันรนหาที่ตาย!”อูห้าวฉงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ถูกผู้ที่ตนมองว่าเป็นมดตัวจ้อยเหยียดหยาม จึงทำให้เขามีจิตที่จะสังหารหลัวซิวในทันที ก่อนที่เขาจะง้างมือจะไปจับกุมตัวหลัวซิว

สำหรับมกุฎเทพช่วงปลายอย่างเขาแล้ว การจะบดขยี้มดตัวจ้อยที่ไม่เป็นแม้แต่มกุฎเทพให้ตายนั้น เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว

“ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคนอย่างมึงฝึกตนมาถึงมกุฎเทพช่วงปลายได้อย่างไร ในเมื่อกูกล้ามาที่นี่ หรือมึงนึกจริง ๆ ว่ากูเป็นราชาเทพขั้นปฐมภูมิ”

มีรอยยิ้มที่เยือกเย็นปรากฏบนใบหน้าหลัวซิว และอูห้าวเย๋ก็ต้องได้ยินคำพูดดังกล่าวของเขาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“น้องรอง ระวัง!”สีหน้าของอูห้าวเย๋เปลี่ยนไป ก่อนจะอุทานอย่างตะลึง

อย่างไรก็ตามการที่เขาเพิ่งย้ำเตือนเวลานี้นั้น มันกลับสายไปแล้ว พลังออร่าที่เกะกะระรานถึงขีดสุดแผ่กระจายออกมาจากตัวหลัวซิว เขายกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว กฎการเวียนว่ายตายเกิดผนึกรวมกันตรงปลายนิ้ว

ฟึ่บ!

มือใหญ่ที่อูห้าวฉงยื่นออกมาถูกนิ้วหนึ่งของหลัวซิวโจมตีจนทะลุ เลือดสีแดงสดสาดกระเด็น แต่อำนาจนิ้วมือของหลัวซิวกลับไม่ลดน้อยลง เพียงนิ้วเดียวก็ทะลวงกลางหว่างคิ้วของอูห้าวฉงแล้ว

กฎความตาย ตายภายในกระบวนท่าเดียว!

หลัวซิวไม่ลงมือก็แล้วไป ทันทีที่ลงมือก็ถึงแก่ชีวิตเลย ซึ่งนี่คือแก่นสารของกฎความตายต่างหาก!

“น้องรอง!”

เมื่ออูห้าวเย๋พบเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขมึงตามองอย่างโกรธจัดในทันที ผลการฝึกตนปะทุออกมากะทันหัน ก่อนจะพุ่งตรงมาทางหลัวซิว

อย่างไรก็ตามหลัวซิวกลับเบื่อที่จะไปสนใจเขาด้วยซ้ำ ใช้มือทั้งสองข้างร่ายยันต์ค่าย แล้วกดลงบนประตูใหญ่ของตำหนัก ถัดจากนั้นจู่ ๆ ร่างกายเขาก็บิดเบี้ยว ราวกับหลอมรวมเข้าไปในประตูตำหนักยังไงอย่างนั้น ก่อนจะหายวับไป

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท