มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2377
“มึง! ……”เมื่อถูกหลัวซิวเหยียดหยามเช่นนี้ อี้ซิวเชิงจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ วินาทีนี้คนอื่น ๆ ล้วนเข้าไปในหุบเขาทุคติหมดแล้ว อารมณ์เขาฮึกเหิมมากจนอยากสังหารหลัวซิวบัดนี้เลย
แต่เขาก็ทราบเช่นกันว่าที่นี่คืออาณาบริเวณของเผ่าจี้ หากสังหารหลัวซิวที่นี่จริง ๆ เผ่าจี้ต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ และมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็ใช่ว่าจะคุ้มกันตนเองเสมอไป
“เจ้าเด็กเดรัจฉานมึงปากดีไปก่อนเถอะ หากมีโอกาสกูจะฆ่ามึงอย่างแน่นอน!”อี้ซิวเชิงระงับจิตสังหารในใจเอาไว้ ทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ดุดันประโยคหนึ่ง ก่อนจะหันหลังแล้วเดินเข้าไปในหุบเขาทุคติ
หลัวซิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ สำหรับเขาแล้ว เขามีอุบายไม่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถสังหารจักรพรรดิเทพขั้น 1 คนหนึ่ง
เมื่อหลัวซิวเดินเข้าไปในแดนหุบเขาทุคติ เหล่าจักรพรรดิเทพที่เข้ามาก่อนหน้านี้ล้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว เขาทราบอยู่ว่าคนเหล่านั้นได้เข้าไปยังส่วนลึกของแดนปริศนาแล้ว สำหรับจักรพรรดิเทพเหล่านั้น สมบัติบางอย่างในหุบเขาทุคติไม่ต้องตาพวกเขาด้วยซ้ำ เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขามีเพียงวังเทียนหมิงนั่น
ตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ ขณะที่หลัวซิวกลั่นหุ่นเชิดจักรพรรดิเทพ นายแห่งเผ่าจี้และเหล่าผู้อาวุโสก็เคยเข้ามาสำรวจในหุบเขาทุคติหลายครั้งเช่นกัน มีเพียงเข้าใจสถานที่ดังกล่าวยิ่งมาก ถึงจะยึดกุมสิทธิ์ในการโน้มนำเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากขึ้น
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง หลัวซิวก็มาถึงเขตพื้นที่ที่ถูกชี่ทมิฬจิ่วโยวผนึกไว้อีกครั้ง
เขาเห็นว่าจักรพรรดิเทพทั้งหลายก็หยุดอยู่ ณ ที่แห่งนี้เช่นกัน มหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนขมวดคิ้วพลางมองมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิรอบหนึ่งพลางพูด: “ท่านผู้อาวุโสขอรับ ชี่ทมิฬจิ่วโยวของที่นี่น่าจะเป็นชี่ที่ท่านทิ้งไว้เมื่อปีนั้นใช่หรือไม่?”
ต่างเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์์เหมือนกัน มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิคือผู้แข็งแกร่งเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน ดังนั้นการที่มหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนเรียกเขาว่าผู้อาวุโสนั้น ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ
เขาไม่เคยประมือกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิมาก่อน แต่กลับทราบอย่างลึกซึ้งอยู่ว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์์ที่ฝึกกฎความตายถึงแดนขั้น 10 ต้องแข็งแกร่งกว่าตัวเองมากแน่นอน อย่างน้อยแค่ชี่ทมิฬจิ่วโยวที่ผนึกเขตพื้นที่แห่งนี้ไว้ ก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกหวาดกลัวแล้ว
“ในเมื่อเป็นสิ่งที่มหาจักรพรรดิยุทธ์์ทิ้งไว้เมื่อปีนั้น มหาจักรพรรดิยุทธ์์ก็ลงมือเก็บชี่ทมิฬจิ่วโยวเหล่านี้กลับไปเถิดขอรับ”นายแห่งเผ่าจี้ก็เอ่ยปากพูดเช่นกัน
นี่เป็นข้อเรียกร้องที่ปกติมาก ๆ แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิกลับพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “ผลการฝึกตนของข้ายังไม่ฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาวะที่รุ่งโรจน์ที่สุดดั่งอดีต ดังนั้นข้าก็ไม่สามารถเก็บชี่ทมิฬจิ่วโยวของที่นี่ได้เช่นกัน นอกซะจากว่าข้าสามารถฟื้นฟูผลการฝึกตนกลับคืนสู่สภาวะอย่างเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน”
มหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนและนายแห่งเผ่าจี้ขมวดคิ้วลงไปพร้อมกัน พวกเขาไม่มีทางเชื่อคำพูดดังกล่าวของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิอยู่แล้ว เห็นได้ชัดเจนเลยไอ้แก่ที่มีชีวิตคงอยู่มาหลายร้อยล้านปีนี่ไม่ได้ประสงค์ดีอะไร
“ชี่ทมิฬจิ่วโยวแค่เรื่องเล็กเท่านั้น ประเด็นคือระดับของค่ายกลต้องห้ามของวังเทียนหมิงสูงมาก ๆ หากพวกเจ้าเกรงกลัวชี่ทมิฬจิ่วโยวของสถานที่แห่งนี้ละก็ ไม่ต้องเข้าไปก็ได้”
ราวกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิไม่มีความอดทนในการอธิบายเยอะ ร่างกายกระพริบทีหนึ่ง ก็เข้าไปในชี่ทมิฬจิ่วโยวแล้ว
ชี่ทมิฬจิ่วโยวนี่เป็นสิ่งที่เขาทิ้งไว้เมื่อปีนั้น มันจึงไม่ใช่อุปสรรคใด ๆ ต่อตัวเขาเอง เมื่ออยู่ภายในก็ราวกับกระดี่ได้น้ำ
เหล่าจักรพรรดิเทพจากสำนักจักรพรรดิมรณะต่างพากันเดินตามเข้าไป คนเหล่านี้ล้วนฝึกบำเพ็ญพลิกทมิฬ ออร่าดั้งเดิมก็มีบ่อเกิดมาจากชี่ทมิฬจิ่วโยวเช่นกัน จึงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
นายแห่งเผ่าจี้มองมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนรอบหนึ่ง มหาจักรพรรดิยุทธ์์ยุคปัจจุบันนี้ก็ถูกมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเชื้อเชิญมาพร้อมกัน ดูเหมือนการกระทำ ณ วินาทีนี้ของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิจะดูไม่ใส่ใจพันธมิตร เขาอยากทราบมาก ๆ ว่าจิตใจของมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนคนนี้คิดอย่างไร
สีหน้าของมหาจักรพรรดิยุทธ์์จ้านเทียนดูย่ำแย่จริง ๆ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร ยกมือโบกทีหนึ่ง รถรบทองสัมฤทธิ์ที่มีออร่าเก่าแก่ปานผ่านกาลเวลามาหลายล้านปีก็ถูกเขาเรียกออกมา