มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2383
หลังจากร่างของผู้คนเหล่านี้เข้าไปด้านในประตูใหญ่ของพระราชวังแล้ว ก็หายเงียบไร้ร่องรอย ราวกับว่าถูกความดำมืดนั้นกลืนกินไปจนสิ้นอย่างไรอย่างนั้น
มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนขมวดคิ้ว เขาไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดที่แปลกประหลาดที่ด้านในนั้น แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิกลับกล้าบุกเข้าไปเป็นคนแรก หรือว่าเขาจะมองเห็นสิ่งใดเข้าแล้ว?
ในขณะที่มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนกำลังลังเลอยู่นั้น คนของเผ่าจี้ก็มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน ด้วยการให้ทุกคนยืนอยู่บนบ่าของหุ่นเชิดจักรพรรดิเทพ จากนั้นก็หายเข้าไปภายในวังเทียนหมิงที่มืดสนิทนั้น
เวลานี้สำนักจักรพรรดิมรณะและคนของเผ่าจี้ต่างก็เข้าไปด้านในแล้ว มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนก็ไม่ได้คิดสิ่งใดให้มากความอีกต่อไป บินเข้าไปพร้อมกับเหล่าคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา
มองจากภายนอก ภายในของวังเทียนหมิงนั้นคือความดำมืดไร้ที่สิ้นสุด แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็จะเห็นว่ามีสำนักใหญ่ที่เปิดอยู่ในปริภูมิแห่งหนึ่ง ทางสองฝั่งซ้ายขวาของสำนักใหญ่ แท่นศิลาสีดำทั้งสองข้างมีการจัดวางสิ่งของ ด้านบนแท่นศิลา มีสิ่งของสองชิ้นถูกวางเอาไว้อยู่
บนแท่นศิลาทางด้านซ้าย มีขวดหยกสีแดงขวดหนึ่งวางไว้อยู่ บนแท่นศิลาทางด้านขวา มีม้วนหยกที่โบราณเก่าแก่วางอยู่ชิ้นหนึ่ง
เมื่อหลัวซิวและคนของเผ่าจี้เข้ามาถึง มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็ได้พาเหล่าตรงเข้าไปจักรพรรดิเทพทั้งหลายพุ่งตรงเข้าไปยังแท่นศิลาทางด้านขวา ด้านบนแท่นศิลามีตัวต้องห้ามอยู่ พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วยามก็ยังไม่สามารถจัดการมันได้
ไม่ต้องให้หลัวซิวเอ่ยปาก จ้าวแห่งเผ่าจี้ก็พาเหล่าผู้อาวุโสของเผ่าจี้พุ่งตรงเข้าไปยังแท่นศิลาทางด้านซ้ายโดยไร้ซึ่งความลังเล ถึงแม้จะบอกว่าภายในม้วนหยกอาจจะมีบันทึกเกี่ยวกับวรยุทธ์พลังอมตะขั้นสุดยอดบางอย่างที่มีค่ามหาศาลเสียยิ่งกว่ายาทิพย์ก็ตาม แต่ความจริงคือเผ่าจี้ไม่ต้องการที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งกับคนของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิในเวลานี้โดยไม่มีความจำเป็น
เมื่อมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนพาคนเข้ามาถึงที่แห่งนี้ ทั่วทั้งสำนักใหญ่กว้างขวางว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใด ก็ไม่มีแท่นศิลาที่มีสมบัติวางไว้อยู่เป็นแท่นที่สามแล้ว
วังเทียนหมิงแห่งนี้ลึกลับไม่อาจคาดเดา ณ สถานที่เช่นนี้ระดับของสมบัติที่ปรากฏขึ้นไม่มีทางที่จะเป็นระดับต่ำเป็นแน่ สิ่งที่ทำให้มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนหวั่นไหวได้ก็คือม้วนหยกนั้น เขารู้สึกว่าม้วนหยกม้วนนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะมีบันทึกถึงวรยุทธ์เคล็ดเซียนชั้นยอดอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะมีหนทางบรรลุไปสู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ซ่อนอยู่ ครอบครองความลึกลับของกฎ
สำหรับขวดหยกสีแดงนั้น หากมียาทิพย์อยู่ในนั้นจริง ก็คงไม่ใช่สิ่งไร้ค่าธรรมดาเป็นแน่ หากว่าด้านในมียาเซียนมากกว่าระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์สักเม็ดหนึ่ง เช่นนั้นคุณค่าของมันก็ไม่อาจประเมินได้อย่างแน่นอน
สำหรับมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนยังคงมีความกังวลและความกลัวอยู่ ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่มีชีวิตอยู่มานานหลายร้อยล้านปี อีกทั้งบรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์ในประวัติศาสตร์ของมหาโลกาพันสาม เป็นหนึ่งในมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่ลึกลับที่สุดผู้หนึ่ง
หลังจากคิดเปรียบเทียบอยู่ในใจเล็กน้อย ในท้ายที่สุดมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนก็ได้ตัดสินใจ พาคนใต้บัญชามาทางเผ่าจี้แทน
“ขวดหยกนี้เป็นของข้าแล้ว!” มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนไม่ได้เอ่ยถ้อยคำอ้อมค้อมไร้สาระแต่อย่างใด เพียงเอ่ยปากก็เข้าประเด็นทันที
“มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนหมายความว่าอย่างไร? ต้องการแย่งชิงเช่นนั้นหรือ?” จ้าวแห่งเผ่าจี้ลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายโดยปราศจากความเกรงกลัว
มาถึงช่วงเวลาเช่นนี้ ผลประโยชน์ที่แท้จริงสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนก็คร้านที่จะต่อปากต่อคำ พูดออกมาเสียงเย็นชา “เลือกเอาว่าจะหลบออกไปจากตำแหน่งนี้ หรือจะเปิดสนามรบกับข้า!”
“เฮอะ มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน พวกข้าเผ่าจี้ถึงจะตกต่ำมาเนิ่นนานหลายปี แต่ก็ไม่ใช่จะยอมให้ผู้ใดรังแกได้ง่าย ๆ เจ้าอยากเปิดสงครามก็ย่อมได้ พวกเราเผ่าจี้ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด!”
จ้าวแห่งเผ่าจี้ยืนอกแอ่นหลังตรง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง แต่ในฐานะที่เกิดเป็นคนของเผ่าจี้ มีเพียงแค่ยืนรับความตายอย่างผงาดเท่านั้น ไม่มีการคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิต หากต้องการให้เผ่าจี้คุกเข่าอ้อนวอน มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
ท่าทีของเผ่าจี้แข็งกร้าวเช่นนี้ ทำให้สีหน้าของมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนเย็นชาขึ้นมาจนถึงขีดสุด นับตั้งแต่ที่เขาได้เป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ มหาโลกาพันสามยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าฝ่าฝืนต่อพลังอำนาจของเขา
“ดี! ได้ยินมาว่าประวัติของพวกเจ้าเผ่าจี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าเผ่าจี้มีดีอย่างไร!”