มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2396

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2396

มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2396

หากว่าไม่มีโอกาสและโชคลาภในครั้งนั้น บางทีอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่เขาจะสามารถสังหารซือถูเจิ้งเจี้ยนได้ ดังนั้นหากว่ากันตามนัยยะบางอย่างแล้ว ฉินเฟยเสวได้ช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่ง

ครั้งก่อนเขาเคยไปที่สรรพมหาโลกาครั้งหนึ่ง เคยได้พบกับฉินเฟยเสว คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอนางอีกครั้งในที่แห่งนี้ สิ่งที่ต่างออกไปคือ ครั้งนี้ดูเหมือนว่านางถูกคนไล่ฆ่าอยู่ กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ทีเดียว

“ฉินเฟยเสว มอบของมาให้ข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง” คนที่ลงมือ คือชายชราที่มีเส้นผมและหนวดเคราสีขาว สวมชุดคลุมชยาวสีเขียว สีหน้าเย็นชา แฝงไปกด้วยรังสีสังหาร

“แม่นางฉิน ไม่เจอกันนานทีเดียว”

ร่างของหลัวซิวกระพริบครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายของฉินเฟยเสวโดยตรง พลิกมือหยิบยาทิพย์รักษาตัวออกมาและยื่นไปให้นาง

“เจ้าคือ?” อยู่ดี ๆ ข้างกายก็มีคนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น ทำให้ฉินเฟยเสวเกิดความระมัดระวังตัวขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ นางมองไปทางหลัวซิวด้วยความสงสัย ไม่ได้ยื่นมืออกไปรับยาทิพย์มาแต่อย่างใด

แต่เมื่อสายตาของนางจ้องไปยังใบหน้าของหลัวซิว ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องด้วยนางรู้สึกว่าคนตรงหน้า ดูเหมือนจะมีความคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย

หลัวซิวในตอนนี้คือร่างหลัก แต่ในครั้งก่อนงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของประมุขอาวุโสหยินหยางแห่งสรรพมหาโลกา เขาใช้ตัวตนของหลี่ยู่ ดังนั้นฉินเฟยเสวจึงจำเขาไม่ได้ในตอนแรก

แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นร่างหลักของเขา ฉินเฟยเสวก็เคยได้เห็นมาก่อน เพียงแค่นางไม่สามารถเชื่อมโยงไอ้หนุ่มแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เมื่อหลายร้อยปีก่อนกับหลัวซิวแดนมกุฎเทพในวันนี้ได้ในทันที

“แม่นางฉินยังคงเป็นผู้สูงศักดิ์ที่ความจำสั้นจริง ๆ ข้าคือหลัวซิว พวกเราเคยพบกันมาก่อน” หลัวซิวพูดพร้อมรอยยิ้ม “นี่คือยาทิพย์เม็ดหนึ่งสำหรับรักษาบาดแผล เมื่อกินเข้าไปแล้ว จะสามารถทำให้อาการบาดเจ็บของเจ้าฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว”

เขาใช้การสัมผัสรู้ของกฎชีวิตสังเกตพบว่าบาดแผลของฉินเฟยเสวค่อนข้างสาหัสทีเดียว เห็นได้ชัดว่านางน่าจะถูกไล่ฆ่ามาเป็นเวลานานแล้ว ช่วงระยะนี้คงไม่ได้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น

“หลัวซิว? หรือว่าเจ้าคือ……” ฉินเฟยเสวพลันนึกขึ้นมาได้ ความยากที่จะเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“ยังมีสหายอีก? หรือว่าจะเป็นเศษเดนของวังอัมพรตรีภพ? แต่ในเมื่อมาแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องไปที่ใดอีก ข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งสองไปตายด้วยกันเสียเลย!”

การปรากฏตัวองหลัวซิว ไม่ได้ทำให้ชายชราชุดเขียวนั้นให้ความสนใจแต่อย่างใด เพราะจากบนร่างของหลัวซิว สัมผัสได้ถึงเพียงคลื่นออร่าผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพขั้นสาม

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลัวซิวก็ยิ้มออกมาบาง ๆ ผลการฝึกตนของชายชราชุดเขียวผู้นี้คือแดนจ้าวมหาเทพขั้นหก สำหรับเขาในตอนนี้ จ้าวมหาเทพขั้นหกคนหนึ่งเมื่อเทียบกับมดแล้วไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร

แต่ว่าฉินเฟยเสวไม่รู้ถึงพลังที่แท้จริงของหลัวซิว นางนึกออกแล้วว่าหลัวซิวคือผู้ใด นางจำได้ว่าเมื่อสามร้อยปีก่อน เขายังเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งที่มาจากโลกามนุษย์ ในวันนี้กลับมีผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพขั้นสามเสียแล้ว?

สิ่งนี้ทำให้ฉินเฟยเสวตกใจเป็นอย่างยิ่ง หากยังคงความรวดเร็วของการฝึกตนไว้เช่นนี้ได้ เมื่อผ่านไปอีกสักช่วงเวลาหนึ่ง คาดว่าน่าจะสามารถตามนางได้ทันแล้ว ที่ต้องรู้คือผลการฝึกตนของนางในวันนี้คือแดนมกุฎเทพช่วงปลาย แต่ต้องใช้เวลานับแสนปีทีเดียว

“หลัวซิว ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจ้าอีกในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าไม่ต้องสนใจข้ารีบหนีเอาชีวิตรอดก่อนเถอะ” ฉินเฟยเสวเอ่ยปากด้วยความปลง ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้ นางไม่มีแม้กระทั่งจิตใจจะไปถามถึงผลการฝึกตนเขาว่าเหตุใดจึงสามารถฝึกตนได้รวดเร็วเช่นนี้

ไม่ว่าคนผู้นั้นจะมีพรสวรรค์เพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวลาเพียงช่วงสั้น ๆ ไม่กี่ร้อยปีฝึกตนถึงแดนมกุฎเทพ นางสามารถแน่ใจได้ว่าในตัวของหลัวซิวต้องมีความลับอยู่ นางไม่ต้องการให้เรื่องของตน ต้องไปเดือดร้อนถึงเขา

ดังนั้น ฉินเฟยเสวจึงก้าวเท้าขึ้นไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง เอาตัวบังหลัวซิวไว้ด้านหลัง พูดกับชายชราชุดเขียวว่า “ผู้อาวุโสกว่างเต๋อ เขาไม่ใช่ศิษย์ของวังอัมพรตรีภพ หากท่านอยากได้ผังเปิดสวรรค์มหาเทวะ ข้าก็จะมอบให้ท่าน”

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท