มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2402
เจ้าของร้านพูดขนาดนี้แล้ว ก็แสดงว่าภายในร้านค้าของพวกเขาไม่มีสมุนไพรมังกรสามสีกักตุนไว้แต่อย่างใด
การฝึกตนบนวิถียุทธ์ หลังจากบรรลุถึงแดนที่แน่นอน ทุกคนต่างทราบความแข็งแกร่งของการกลั่นร่างและกลั่นวิญญาณอยู่ เพราะฉะนั้นถึงแม้ผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านการกลั่นร่างและกลั่นวิญญาณจะมีน้อยมาก ๆ ก็ตาม แต่ก็มีผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง พยายามลองฝึกเช่นกัน
เนื่องจากเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ผลการฝึกตนอยู่ในระดับเดียวกัน หากฝึกร่างยุทธ์ร่างเนื้อและตัวสำนึกวิญญาณควบคู่กัน ศักยภาพก็จะเพิ่มขึ้นเยอะมาก ๆ ยิ่งกว่านั้นคือสามารถข้ามขั้นประลองผู้ที่แดนอยู่เหนือกว่าตน ผู้แข็งแกร่งในโลกหล้าต้องกรูกันไปหาอุบายทั้งปวงที่สามารถยกระดับศักยภาพของตัวเองอยู่แล้ว
ดาราเมฆาทมิฬตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างมหาโลกายอดอัมพรและสรรพมหาโลกาที่ติดต่อกัน
ในมหาโลกาทั้งสองใบนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ฝึกร่างยุทธ์ร่างเนื้อถึงแดนจ้าวมหาเทพได้นั้นก็มีไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้นของอย่างสมุนไพรมังกรสามสีจึงมีไม่พอต่อความต้องการมาโดยตลอด
ถึงแม้จะไม่สามารถตามหาปรมาจารย์ยาเซียนที่เหมาะสมที่สามารถทำการกลั่นสกัดให้มันกลายเม็ดยาเซียน แต่การกินสมุนไพรมังกรสามสีโดยตรงแล้วฝึกตน ก็สร้างประสิทธิผลด้านการชุบได้ไม่น้อยเช่นกัน
“สามารถหาซื้อสมุนไพรมังกรสามสีที่ใดได้บ้าง?”หลัวซิวขมวดคิ้วพลางถามต่อ
“ตอบกลับท่านผู้อาวุโสขอรับ ทุกร้านค้าในตลาด เกรงว่าคงไม่มีร้านใดกักตุนสินค้าเลยขอรับ”เจ้าของร้านตอบกลับด้วยความกระวนกระวายเล็กน้อย
“แล้วสามารถตามหาสมุนไพรมังกรสามสีที่ใดในดาราเมฆาทมิฬได้บ้าง?”
แท้จริงแล้วการที่เขาถามเช่นนี้นั้น ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากของอย่างสมุนไพรมังกรสามสีไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์ธรรมดาทั่วไปสามารถพบเจอได้อย่างแน่นอน ผู้คนที่มาตามหาสมบัติในตลาดบนดาราเมฆาทมิฬมีเยอะมาก ๆ ทว่าส่วนมากล้วนแต่งกายปิดบังโฉมหน้าอยู่บริเวณขอบนอก ของอย่างสมุนไพรมังกรสามสี ต้องเข้าไปในส่วนลึกของเขาผีเก้าแห่งดาราเมฆาทมิฬถึงจะพบเจอ
อีกทั้งถ้าเกิดมีคนทราบว่าสถานที่ใดมีสมุนไพรมังกรสามสี เช่นนั้นคนเหล่านั้นก็คงไปเก็บเกี่ยวเองตั้งนานแล้ว แล้วจะมีทางบอกเขาได้อย่างไรเล่า?
ในขณะที่หลัวซิวรู้สึกว่าเจ้าของร้านต้องส่ายหน้าปฏิเสธอยู่นั้น กลับเห็นเพียงฝ่ายตรงข้ามหยิบม้วนหยกออกมาหนึ่งชิ้น แล้วพูดอย่างเคารพรอบคอบ: “ในเขาผีเก้าแห่งดาราเมฆาทมิฬมีสมุนไพรมังกรสามสีอยู่ขอรับ ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งได้บันทึกอยู่บนม้วนหยกชิ้นนี้แล้ว หวังว่าจะสามารถช่วยเหลือท่านผู้อาวุโสได้นะขอรับ”
การกระทำนี้ของเจ้าของร้านทำให้หลัวซิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยอยู่ ดังนั้นเขาจึงถามข้อสงสัยในใจออกมา “ในเมื่อเจ้าทราบว่าสถานที่ใดมีสมุนไพรมังกรสามสี เหตุใดจึงไม่ไปตามหาด้วยตนเองเล่า?”
ถึงแม้ผลการฝึกตนของเจ้าของร้านดังกล่าวจะเป็นเพียงมกุฎเทพ ทว่าถึงแม้เขาจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวสมุนไพรมังกรสามสีกลับมาได้ แต่ขอแค่ทราบตำแหน่งที่ตั้ง ก็สามารถไปเชิญจ้าวมหาเทพให้ช่วยลงมือได้ เชื่อว่าเมื่อมีสิ่งยั่วยวนอย่างสมุนไพรมังกรสามสี จ้าวมหาเทพจำนวนมากต้องยินดีมาช่วยเหลืออย่างแน่นอน
“ท่านผู้อาวุโสน่าจะเพิ่งมาดาราเมฆาทมิฬครั้งแรกใช่หรือไม่ขอรับ?”เจ้าของร้านยิ้มพลางอธิบายว่า: “สถานที่ตั้งของสมุนไพรมังกรสามสีนั่นก็ไม่ใช่ความลับยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่นัก ขอแค่เร่ร่อนพเนจรอยู่ในดาราเมฆาทมิฬมาเป็นเวลานาน คนจำนวนมากล้วนทราบสถานที่ดังกล่าวอยู่ขอรับ”
“แต่ทว่าสถานที่แห่งนั้นอันตรายมากเกินไป เมื่อผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพช่วงปลายบุกรุกเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้วโอกาสตายก็สูงถึงเก้าในสิบเลย บางครั้งผู้ที่โชคดีมีชีวิตรอดออกมาได้ ก็ได้รับสมุนไพรมังกรสามสีกลับมาหนึ่งถึงสองต้นอยู่ขอรับ แต่คนส่วนมากล้วนตายอยู่ภายใน”
ฟังจากคำพูดของเจ้าของร้านดังกล่าว มีเพียงจักรพรรดิเทพเท่านั้นถึงจะสามารถบุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่ที่มีสมุนไพรมังกรสามสีเจริญเติบโต และสำหรับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพแล้ว สมุนไพรมังกรสามสีก็ไม่ค่อยมีประโยชน์มากเท่าไหร่นัก เหมือนดั่งของไร้ค่า จึงไม่มีทางไปสนใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ในส่วนของจ้าวมหาเทพที่ต้องการยาเซียนประเภทนี้นั้น เมื่อบุกรุกเข้าไปแล้วอัตราการตายก็สูงมาก ๆ ดังนั้นถึงได้ทำให้สมุนไพรมังกรสามสีเป็นสิ่งที่หายากและมีน้อยมาก ๆ
หลัวซิวรู้สึกพึงพอใจต่อคำตอบนี้ของเจ้าของร้านมาก เขารับม้วนหยกมาโดยไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะหยิบขวดหยกออกมาหนึ่งขวดแล้วโยนออกไปพลางพูด: “ของสิ่งนี้ให้เจ้าก็แล้วกัน”