มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2421
“พันธุอัคคีไร้เจตน์อยู่ด้านในนี่แหละ”ไป๋เฟยชิงใช้นิ้วชี้ไปทางหลุมพลางพูด
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็สังเกตเห็นหินแก้วม่วงที่ตกหล่นอยู่ในละแวกใกล้เคียงหลุมเช่นกัน ภายในหินแก้วเหล่านั้นเหมือนมีลายเส้นที่เปลวไฟกำลังลุกลาม ซึ่งมันก็คือสมบัติประเภทหนึ่งที่สามารถทำให้อัคคีเทพเลื่อนระดับได้ กรองแก้วนภาอัคคีม่วง
เล่ากันว่ากรองแก้วนภาอัคคีม่วงนี้ มีเพียงสถานที่ที่มีอัคคีเทพพิเศษหล่อเลี้ยงถึงจะมีกรองแก้วนภาอัคคีม่วงกำเนิดพร้อมกับอัคคีเทพ ถึงแม้มันจะไม่ล้ำค่าอย่างพันธุอัคคีไร้เจตน์ก็ตาม แต่ก็เป็นทรัพย์สมบัติของธาตุไฟ
“ดูจากสภาพนี้แล้ว พันธุอัคคีไร้เจตน์ดวงนี้น่าจะเติบโตถึงระดับอัคคีเทพระดับหกแล้ว เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถเก็บมาได้?”หลัวซิวถาม
ไป๋เฟยชิงมองหลัวซิวรอบหนึ่ง “เจ้าคงไม่ได้จะเปลี่ยนใจหรอกกระมัง?”
เมื่อหลัวซิวได้ยินคำพูดดังกล่าว จึงยิ้มอย่างเรียบนิ่ง “พันธุอัคคีไร้เจตน์ดวงหนึ่งยังไม่ถึงขั้นทำให้ข้าคืนคำสัญญาหรอกนะ หากเจ้ามีปัญญาเก็บมันไปละก็ พันธุอัคคีก็ต้องตกเป็นของเจ้าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
สำหรับคำพูดนี้ของหลัวซิวนั้น ไป๋เฟยชิงต้องเข้าใจอยู่แล้วว่าเขาหมายความว่าอย่างไร อย่างไรเสียแม้นผลการฝึกตนของนางจะเป็นจักรพรรดิเทพช่วงปลาย ทว่าการที่จะเก็บอัคคีเทพระดับหกไปนั้น ยังห่างไกลไม่น้อยเลย ความหมายแฝงก็คือหากนางไม่มีความสามารถที่จะเก็บพันธุอัคคีไปได้ละก็ เช่นนั้นหลัวซิวก็จะลงมือ
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ไป๋เฟยชิงจึงไม่พูดอะไรอีก มีแสงทองสาดส่องลงมาจากหอคอยเทวสีทองแผ่คลุมทั้งร่างกายนางไว้ ก่อนที่นางจะกระโดดเข้าไปในหลุมที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
หลัวซิวไม่ได้แย่งกับนาง เขาเดินไปด้านหน้าแล้วเก็บกรองแก้วนภาอัคคีม่วงที่อยู่บริเวณหลุมขึ้นมา เนื่องจากนี่เป็นข้อตกลงที่ทั้งสองตกลงกันไว้แล้ว
จำนวนกรองแก้วนภาอัคคีม่วงที่ตกอยู่บริเวณหลุมมีไม่มาก แต่ก็มีสิบกว่าก้อนอยู่ คุณภาพก็ค่อนข้างแย่ไปหน่อย ดังนั้นหลัวซิวจึงกระโดดเข้าไปในหลุมเช่นกัน คุณภาพของกรองแก้วนภาอัคคีม่วงที่อยู่ใกล้พันธุอัคคีไร้เจตน์มากกว่าต้องดีกว่าอยู่แล้ว
ภายในหลุมไม่มืดแต่อย่างใด มีเปลวไฟสีม่วงเข้มดวงหนึ่งลอยอยู่กลางนภา หลัวซิวเห็นว่าไป๋เฟยชิงกำลังกระตุ้นหอคอยเทวสีทองอย่างสุดกำลังสามารถ พยายามเก็บอัคคีเทพดวงนี้เข้าไปในหอคอยเทว
อัคคีเทพมีวิญญาณ เมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังจะเก็บตนเองไป เปลวไฟสีม่วงเข้มจึงสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างรุนแรง ก่อนจะมีเปลวไฟหลายดวงตลบฟุ้งออกมาพันธนาการหอคอยเทวสีทองเอาไว้
หอคอยเทวสีทองเป็นของขลังของไป๋เฟยชิง ด้านบนมีตราประทับตัวสำนึกวิญญาณของนาง ภายใต้การแผดเผาจากพันธุอัคคีไร้เจตน์ ทำให้สีหน้าของนางดูขาวซีดเล็กน้อย ชุดกระโปรงที่อยู่บนตัวกลายเป็นเถ้าธุลีภายในพริบตา ทำให้เรือนร่างที่งดงามนั่นของนางปรากฏตรงหน้าหลัวซิวอย่างหมดเปลือกอีกครั้ง
วินาทีนี้ ภายใต้การแผดเผาจากออร่าพันธุอัคคีไร้เจตน์ ร่างกายไป๋เฟยชิงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เหมือนดั่งโลหะผสมที่ถูกเผาจนแดง ทว่านางกลับไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้แม้แต่น้อย ทุ่มสุดกำลังสามารถ ให้หอคอยเทวสีทองเข้าใกล้พันธุอัคคีไร้เจตน์อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว หลัวซิวก็ทราบแล้วว่าไป๋เฟยชิงต้องสามารถเก็บพันธุอัคคีไร้เจตน์ไปได้อย่างแน่นอน แม้นมันจะยากลำบากก็ตาม แต่การที่จักรพรรดิเทพช่วงปลายคนหนึ่งสามารถเก็บอัคคีเทพระดับหกดวงหนึ่งไปได้นั้น ก็ถือว่าเก่งกาจมาก ๆ แล้ว
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง จู่ ๆ ออร่าแผดเผาที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็อ่อนลงเยอะมาก พันธุอัคคีไร้เจตน์ถูกไป๋เฟยชิงเก็บเข้าไปในหอคอเทวแล้ว ส่วนหลัวซิวก็เก็บกรองแก้วนภาอัคคีม่วงที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จนเกลี้ยงเช่นกัน
ได้รับพันธุอัคคีไร้เจตน์มาสำเร็จ ถึงแม้สีหน้าของไป๋เฟยชิงจะดูขาวซีดเล็กน้อยเหมือนป่วยก็ตาม แต่อารมณ์นางกลับดีใจเป็นอย่างยิ่ง นางหยิบแหวนวงหนึ่งออกมายื่นให้หลัวซิวโดยไม่ลังเลใจแล้วพูด: “นี่คือของชดเชยที่ตกลงกับเจ้าไว้ ขอบคุณเจ้านะที่ช่วยให้ข้าได้รับพันธุอัคคีไร้เจตน์ดวงนี้”