มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2454
ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ชื่อเสียงของตระกูลเทพสงครามโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว กองทัพใหญ่นับแสนกวาดล้างโลกหล้า ล้มล้างกองกำลังใหญ่ระดับจ้าวมหาเทพไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
เมื่อเปรียบเทียบกับความวุ่นวายอันเกิดจากภัยสงครามของสถานที่อื่น ๆ แล้ว ฝั่งเผ่าจี้กลับสงบนิ่งมากมาโดยตลอด มีข่าวลือเล่ากันว่าหัวหน้าเผ่าจี้ปิดขังเตรียมพร้อมที่จะทลายสู่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว ทันทีที่สำเร็จละก็ เกรงว่ามหาโลกายอดอัมพรคงต้องเปลี่ยนผู้กุมอำนาจแล้ว!
นอกเหนือจากนี้แล้ว การฝึกตนของเหยียนเยว่เอ๋อร์ เหยียนซีโรว่ ช่าจื่อเยียน จีเสี่ยวจื่อและหนิงหานยู่ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ต่างพากันออกไปสั่งสมประสบการณ์ด้านนอก
ช่าจื่อเยียนไม่ได้ออกไปพร้อมผู้อื่น นางออกจากแดนปริศนาเผ่าจี้แล้วสั่งสมประสบการณ์คนเดียว นางอยากออกจากมหาโลกายอดอัมพร เพื่อไปโลกะดาราอัมพรเทวเที่ยวหนึ่ง
ครั้งก่อนนางทราบมาจากปากหลัวซิวว่าเสี่ยวเจียงหมิงติดอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งสถานที่แห่งนั้นก็อยู่บนโลกะดาราอัมพรเทวนี่แหละ นางมักจะรู้สึกว่าหลัวซิวมีเรื่องราวบางอย่างปิดบังตัวเองอยู่ ฉะนั้นนางจึงจะเดินทางไปที่นั่นด้วยตนเองเที่ยวหนึ่ง
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มียาและทรัพยากรจำนวนมากที่หลัวซิวจัดเสนอให้ บวกกับประสิทธิผลของมหาค่ายสีมาเพลา ผลการฝึกตนของนางก็บรรลุถึงมกุฎเทพช่วงปลายแล้ว
นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าปัญญาของตนเองไม่สูงแต่อย่างใด หากไม่มีการช่วยเหลือจากหลัวซิว แล้วอาศัยแค่ตัวนางเองละก็ ชั่วชีวิตนี้การที่สามารถฝึกตนถึงแดนราชาเทพได้นั้นก็ถือเป็นขีดจำกัดแล้ว หากไม่ได้อยู่ในมหาโลกา แต่อยู่ในโลกเสวียนเทียนในตอนแรก จากพรสวรรค์ของนางใช่ว่าจะสามารถบรรลุเป็นเทพฟ้าได้เสมอไป
หากพูดถึงเรื่องปัญญาพรสวรรค์ นางเทียบเคียงกับคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบกายหลัวซิวไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นขณะที่ฝึกตนนางจึงขยันเป็นพิเศษ เนื่องจากอนาคตนางไม่อยากให้ศักยภาพของตนอ่อนมากเกินไป จนส่งผลให้ยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกลจากหลัวซิว
นางชอบหลัวซิว แท้จริงแล้วครั้นเมื่อถูกหลัวซิวช่วยชีวิตไว้ในป่าลมสายฟ้าแห่งโลกเสวียนเทียน เงาร่างของชายหนุ่มเมื่อปีนั้นก็ได้ประทับลงไปในหัวใจนางแล้ว
แต่นางกลับสัมผัสได้อยู่ว่าหลัวซิวมองนางเป็นพี่สาวคนหนึ่งจริง ๆ เนื่องจากครั้นเมื่ออยู่ในโลกแสงดาว ตนดูแลเขาค่อนข้างดี
เพราะฉะนั้นช่าจื่อเยียนจึงซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจมาโดยตลอด แต่แค่นึกไม่ถึงเลยว่าต่อมาจะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น และนางก็สามารถสัมผัสได้เช่นกันว่าช่วงระยะความต่างระหว่างตนและหลัวซิวก็ยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกลออกไป
เดิมทีนางล้มเลิกความหวังไปแล้ว แต่กลับไม่นึกเลยว่าหลัวซิวจะช่วยนางออกมาจากที่อับจนครั้งแล้วครั้งเล่า นางรู้สึกว่าตัวเองทำได้เพียงทุ่มฝึกตนอย่างสุดกำลังสามารถ เพื่อหวังว่าอนาคตจะสามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง
นอกจากหลัวซิวแล้ว ผู้ที่นางวางใจไม่ได้มากที่สุดก็คือเจียงหมิงแล้ว
แม้แดนมกุฎเทพช่วงปลายในมหาโลกายอดอัมพรยังไม่ถือเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอด แต่ถ้าเกิดในหมู่ผู้สั่งสมประสบการณ์อยู่ด้านนอกละก็ ถือเป็นยอดฝีมือที่หาพบได้ยากแล้ว อย่างไรเสียผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพเป็นต้นไปไม่ได้พบเจอบ่อยเช่นนั้น
สำหรับมหาโลกายอดอัมพรแล้ว โลกะดาราอัมพรเทวคือห้วงดาราระดับล่าง เนื่องจากระยะทางห่างไกลกันมาก ๆ เพราะฉะนั้นจึงทำได้เพียงนั่งเรืออนัตตาไป
จินเฮ่าซิงคือสถานีหยุดพักของเรืออนัตตามหาโลกายอดอัมพร ซึ่งตั้งอยู่ในแถบริมขอบห้วงดารา
ตั้งแต่ออกจากแดนปริศนาเผ่าจี้เป็นต้นมา ช่าจื่อเยียนก็มาถึงที่นี่แล้วซื้อป้ายบัญชาการที่ใช้ขึ้นเรืออนัตตามาหนึ่งชิ้น
……
ระยะเวลาสิบกว่าปี ถึงแม้จะไม่มีการช่วยเสริมจากสีมาเพลาก็ตาม แต่มีทรัพยากรที่ล้ำค่าอย่างชี่บรรพไท่ชู สามารถพูดได้เลยว่าการพัฒนาของหลัวซิวนั้นก้าวล้ำมาก
เขาพบว่าผลการฝึกตนของตัวเองบรรลุถึงแดนมกุฎเทพขั้นสูงแล้ว เมื่อดูดซับชี่บรรพไท่ชูต่อ ผลการฝึกตนก็ไม่มีการยกระดับขึ้นเลยแม้แต่น้อย นอกเสียจากว่าเขาจะสามารถบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพ
หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าการที่ตัวเองอยากบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพนั้น มันไม่ได้ง่ายเหมือนดั่งที่จอมยุทธ์ทั่วไปสามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นคือระดับความยากในการบรรลุของเขา ยากเย็นยิ่งกว่าจ้าวมหาเทพขั้นสูงบรรลุเป็นจักรพรรดิเทพเสียอีก