มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2467
เพราะฉะนั้นใช้เวลาเพียงสองปีเท่านั้น เสี่ยวเจียงหมิงก็บรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว
ด้านหนึ่งเป็นเพราะระดับวรยุทธ์ที่หลัวซิวถ่ายทอดให้ไม่ต่ำ ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเพราะมีความเกี่ยวข้องกับพรสวรรค์ที่ไม่เลวของตัวเสี่ยวเจียงหมิงเอง
จักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล ระดับของพิภพถูกแยกแยะอย่างชัดเจน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าปัญญาพรสวรรค์ของจอมยุทธ์ในพิภพต่ำจะแตกต่างจากจอมยุทธ์ในพิภพสูง อันที่จริงอัจฉริยะจำนวนมากในพิภพต่ำก็มีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน แต่ทว่าถูกจำกัดโดยสภาพแวดล้อมทรัพยากร และวรยุทธ์พลังอมตะในพิภพต่ำ ดังนั้นจึงยากที่จะประสบความสำเร็จเท่านั้นแหละ
พรสวรรค์วิถียุทธ์ของเสี่ยวเจียงหมิงสูงกว่าท่านพี่เขาช่าจื่อเยียนมาก ๆ ยิ่งกว่านั้นคือเพียงพอที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่แล้ว
เนื่องจากตัวหยั่งรู้ที่พังทลายแล้วยังไม่ได้ซ่อมแซม ตัวหยั่งรู้ในตอนนี้ของหลัวซิวพังยับเยินมาก บัดนี้พลังตัวสำนึกที่สามารถใช้งานได้ก็เทียบเท่าระดับมกุฎเทพช่วงปลายเท่านั้น
ตราบใดที่ศักยภาพยังไม่ฟื้นฟูกลับคืนสภาพเดิมโดยสิ้นเชิง หลัวซิวไม่มีความคิดที่จะย้อนกลับไปมหาโลกายอดอัมพร ทันทีที่ศักยภาพอยู่ในช่วงอ่อนแอแล้วถูกศัตรูตัวฉกาจหมายตาไว้ละก็ มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน
เขาแค่จำเป็นต้องรอหินบรรพไท่ชูหล่อเลี้ยงชี่บรรพออกมาหนึ่งกลุ่มอยู่ที่นี่ ตัวหยั่งรู้ของเขาก็จะได้รับการซ่อมแซม ถึงครานั้นปัญหาทุกอย่างก็จะถูกแก้ไขอย่างราบรื่นเอง
ถ้าเกิดให้หินบรรพไท่ชูหล่อเลี้ยงชี่บรรพออกมาเอง ต้องใช้เวลาประมาณร้อยปีเป็นต้นไป แต่หลัวซิวกลับทราบอยู่ว่าการหล่อเลี้ยงชี่บรรพนั้น แท้จริงแล้วหินบรรพไท่ชูต้องดูดซับกฎพละกำลังในจักรวาลฟ้าดิน ขอแค่สามารถตามหาสมุนไพรเพิ่มพลังต่าง ๆ ก็สามารถทำให้ระดับความเร็วในการหล่อเลี้ยงชี่บรรพออกมาเร็วขึ้น
ออกมาจากตำหนักวัฏสงสาร หลัวซิวกวาดตามองดูรอบ ๆ ดาราแห่งกาลเวลายังคงรกร้างอ้างว้างเหมือนเคย
เขาจึงรู้สึกทอดถอนใจเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ ครั้นเมื่อเขามาถึงดาราแห่งกาลเวลาครั้งแรก นึกอย่างไรก็นึกไม่ถึงที่นี่จะเป็นสถานที่ที่เทียนหย่งเคยพักอยู่อาศัย
หินบรรพไท่ชูเป็นสมบัติฝึกตนที่ไม่สามารถประมาณค่าได้ เป็นเพียงเพราะเขาบอกว่าจะกลับชาติมาเกิด เทียนหย่งก็เลือกที่จะเชื่อเขาโดยที่ไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย และยิ่งเข้ามาในจักรวาลกันดารขณะที่ใกล้จะสิ้นอายุไข ทิ้งแดนเทวนิรันกาลไว้เพียงเพราะรอคอยให้เขากลับมาเยี่ยมนางหนหนึ่ง……
ความผูกพันนี้ได้ก้าวข้ามกาลเวลาหลายร้อยล้านปี หนักอึ้งยิ่งกว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์นับแสนลูก!
ออกมาจากดาราแห่งกาลเวลา เมื่อหันหน้ากลับไป ดาราแห่งการเวลาก็หายไปแล้ว นอกเสียจากว่าอยู่ในช่วงเวลาพิเศษ ดาราแห่งกาลเวลาดวงนี้ถึงจะปรากฏโดยธรรมชาติ ปกติแล้วมันจะอยู่ในสภาวะซ่อนเร้นตลอด ทำให้ผู้คนไม่สามารถตามหามันได้
ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดาราแห่งกาลเวลามากที่สุดก็คือดารามังกรครามยักษ์ อดีตหลัวซิวก็เคยมาที่นี่เช่นกัน
ดารามังกรครามยักษ์ตั้งอยู่ในเขตพรมแดนระหว่างโลกะดาราอัมพรเทวและโลกะดาราคุนหลุนที่ติดต่อกัน ในวันธรรมดาจะมียอดฝีมือวิถียุทธ์จำนวนมากเดินทางมายังที่แห่งนี้ นอกจากดาราแห่งกาลเวลาที่ลึกลับแล้ว ในละแวกใกล้เคียงของอาณาจักรดาราที่ดารามังกรครามยักษ์คงอยู่ ก็มีสถานที่ฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์อื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งมีโอกาสสมบัติคงอยู่ไม่น้อย
ทันทีที่มาถึงดารามังกรครามยักษ์ ก็ได้ยินจอมยุทธ์จำนวนมากของที่นี่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเรื่องหนึ่งอยู่
ช่วงที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนกับว่าเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์จะพาคนเข้าไปสำรวจในแดนปริศนาที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง และได้รับโอกาสสมบัติจำนวนมากจากด้านใน เพราะฉะนั้นช่วงนี้จึงมียอดฝีมือวิถียุทธ์จำนวนมากจากแดนต่าง ๆ มารวมตัวกันในเมืองมังกรครามยักษ์ เนื่องจากเมืองมังกรครามยักษ์จะจัดงานประมูลครั้งหนึ่ง!
เมืองมังกรครามยักษ์คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในดารามังกรครามยักษ์ เจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ก็เป็นเจ้าของดารามังกรครามยักษ์เช่นกัน เล่ากันว่าเขาคือผู้แข็งแกร่งแดนมกุฎเทพขั้นสูงคนหนึ่ง และมีคนบอกว่าผลการฝึกตนของเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์บรรลุถึงแดนกึ่งจ้าวมหาเทพแล้ว แม้แต่พวกกองกำลังใหญ่ชั้นยอดก็ไม่กล้ามารุกรานเมืองมังกรครามยักษ์ง่าย ๆ
อีกทั้งยิ่งมีข่าวลือบอกว่าความเป็นมาของดารามังกรครามยักษ์ เกิดจากมีมังกรดึกดำบรรพ์ตัวหนึ่งนอนหลับใหลอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดมังกรตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่เหลือเชื่อแน่นอน