หางตามองเห็นสภาพใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิมของเสี่ยวเจียงหมิง เห็นได้ชัดเจนเลยว่างานประมูลที่บรรยากาศเร่าร้อนถึงขั้นสุดนี่ เป็นประสบการณ์ที่หาพบได้ยากสำหรับเสี่ยวเจียงหมิง
มีรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่งปรากฏตรงมุมปากหลัวซิว หากเสี่ยวเจียงหมิงมีความสุขกับงาน ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ได้รับดอกผลอะไรเลย
“ข้าคิดว่าทุกท่านก็น่าจะตั้งตารอคอยของประมูลชิ้นต่อไปมาก ๆ เช่นกัน นี่คืออาวุธสงครามชิ้นหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นอาวุธสงครามระดับจ้าวมหาเทพที่สมบูรณ์แบบด้วย หลังจากผ่านการวินิจฉัยชี้ขาดยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า มาตรแม้นว่าอาวุธสงครามชิ้นนี้อยู่ในมหาโลกาพันสาม ก็สามารถพูดได้เลยว่าเป็นอาวุธสงครามจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอด!”
ซ่งเฉิงเอ่ยปากพูดอีกครั้ง ทำให้งานประมูลฮึกเหิมขึ้นมาอีกไม่น้อย
สำหรับจอมยุทธ์แล้ว ของขลังอาวุธสงครามเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจมากที่สุดอย่างไร้ข้อสงสัยเลย เนื่องจากหากมีของขลังอาวุธสงครามที่พลานุภาพทรงพลัง เมื่ออยู่บนสนามรบและการเข่นฆ่ามันจะเกิดประสิทธิผลในลักษณะชี้ขาด ยิ่งกว่านั้นคือมีโอกาสข้ามขั้นประลองกับผู้ที่แดนอยู่เหนือตนได้สูงมาก ๆ ด้วย
และสิ่งที่ทำให้ผู้คนหวั่นไหวมากกว่านั้นคือ นี่คืออาวุธสงครามจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอดหนึ่งชิ้น นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
ในห้วงดาราระดับล่าง แม้แต่จ้าวมหาเทพยังไม่มีเลย พวกมหากองกำลังชั้นยอดที่กล่าวถึงนั้น อย่างมากสุดการมีภัณฑ์ล้ำจ้าวมหาเทพชั้นกลางและชั้นสูงก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ซึ่งยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเคยมีอาวุธสงครามจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอดปรากฏ
นี่จึงทำให้คนจำนวนมากรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้นว่าตกลงเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์เจอแดนปริศนาอะไรกันแน่ และได้รับโอกาสอะไรจากด้านใน?
ในเมื่อเขาสามารถนำสิ่งของที่ดีเลิศเช่นนี้ออกมาประมูลมากมายขนาดนี้ อย่างนั้นก็หมายความว่าสมบัติและโอกาสที่เขาได้รับมานั้น มีมูลค่าสูงกว่าของพวกนี้อีกมิใช่หรือ?
ในส่วนของเรื่องที่ว่าเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์บรรลุถึงจ้าวมหาเทพแล้วหรือไม่นั้น นี่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับกองกำลังทั้งหลายเช่นกัน เนื่องจากถูกจำกัดโดยกฎจักรวาลฟ้าดิน ซึ่งไม่อนุญาตให้จ้าวมหาเทพปรากฏในห้วงดาราระดับล่าง ตั้งแต่โบราณกาลมา ในห้วงดาราระดับล่างก็เคยมีอัจฉริยะปรากฏมากมายเช่นกัน และล้วนฝึกตนถึงแดนจ้าวมหาเทพหรือแดนที่สูงกว่าในมหาโลกาพันสาม ทว่าพวกเขาล้วนไม่มีทางย่างกรายลงมาในโลกามนุษย์ ด้วยเหตุนี้จึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานภาพของห้วงดาราระดับล่างมากเท่าไหร่นัก
แต่ถ้าเกิดเจ้าเมืองมังกรครามยักษ์ได้รับสมบัติทรัพยากรจำนวนมาก เช่นนั้นเมืองมังกรครามยักษ์ก็มีโอกาสพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และนี่ต้องไม่มีทางช่วยเรื่องดีสำหรับกองกำลังใหญ่ชั้นยอดอื่น ๆ อยู่แล้ว
อาวุธสงครามจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอดถูกเอาออกมาแล้ว มันคือหอกเทวสีม่วงทองล้วนเล่มหนึ่ง ลักษณะภายนอกดูโบราณเรียบง่ายและยิ่งใหญ่
เมื่อเห็นหอกเทวเล่มนี้ ก็ทำให้หลัวซิวนึกถึงหอกยุทธ์มังกรดำอย่างอดไม่ได้ ซึ่งเขาได้มอบหอกยุทธ์เล่มนั้นให้จีเสี่ยวจื่อไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็สังเกตเห็นความเร่าร้อนเล็กน้อยได้จากแววตาเสี่ยวเจียงหมิงเช่นกัน เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาชอบหอกเทวเล่มนี้มาก ๆ แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลการฝึกตนของเขาแล้ว บัดนี้เขายังไม่สามารถควบคุมมันได้
“ชอบหรือ? หากชอบละก็ เดี๋ยวพี่จักซื้อให้เจ้าเป็นอย่างไร?”หลัวซิวยิ้มพลางถาม
เมื่อได้ยินคำพูดของหลัวซิว แววตาของเสี่ยวเจียงหมิงก็เป็นประกายขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่เขากลับส่ายหน้าอย่างรู้จักคิดมาก ๆ พลางตอบกลับ “หอกเล่มนี้ต้องแพงมากแน่ ๆ ข้าไม่เอาแล้วขอรับ”
อายุเสี่ยวเจียงหมิงไม่มาก แต่ก็มีสิบกว่าขวบแล้ว ถึงช่วงอายุที่ค่อนข้างรู้จักคิดแล้ว มูลค่าของหอกยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพเล่มหนึ่งสูงมากจนไม่สามารถประมาณค่าได้ มาตรแม้นว่าพี่หลัวซิวจะซื้อให้ตัวเอง ก็ไม่มีปัญญาซื้อได้แน่นอน
“เจ้าบื้อ พี่หลัวซิวของเจ้าไม่ขาดแคลนแก้วเทวแค่นั้นหรอก หากเจ้าชอบละก็ เดี๋ยวพี่จะซื้อให้เจ้าเอง”หลัวซิวยิ้มพลางตอบกลับ
“ไม่ขอรับ ข้ารู้ว่าพี่หลัวซิวดีต่อข้า ทว่าผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของข้ายังต่ำมาก ๆ อนาคตคอยข้าฝึกถึงแดนจ้าวมหาเทพและใช้มันได้แล้วค่อยว่ากันอีกทีเถิดขอรับ”ขณะที่เสี่ยวเจียงหมิงพูดคำพูดเหล่านี้ เขาก็ละสายตาจากหอกเทวม่วงทองอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
หลัวซิวยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร อาวุธสงครามจ้าวมหาเทพขั้นสุดยอดชิ้นหนึ่งไม่ค่อยมีค่าสำหรับเขา จากทรัพย์สินที่อยู่ภายในแหวนเก็บของของเขา มาตรแม้นว่าเป็นภัณฑ์ล้ำจักรพรรดิเทพเขาก็มีปัญญาซื้อได้