มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2478
“ผู้อาวุโสทั้งสอง เจ้าหมอนี่เป็นผู้ใช้อำนาจแก่งแย่งรากแก่ยาเซียนต้นนั้นไปจากมือข้านี่แหละขอรับ”
หนุ่มเจ้าสำนักน้อยเห็นหลัวซิวปรากฏตัว จึงรีบใช้นิ้วชี้ไปทางเขาแล้วตะโกนเสียงดัง
กลุ่มคนที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลต่างก็พากันถอยหลังอย่างอดไม่ได้ ทำให้นอกงานประมูลเกิดเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ จ้าวมหาเทพสองคนและหนุ่มเจ้าสำนักน้อยยืนลอยอยู่กลางอากาศ หลัวซิวจูงมือเสี่ยวเจียงหมิงยืนอยู่ด้านล่างด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
“ไม่ว่ามึงจะเป็นผู้ใดก็ตาม มึงไม่สมควรมารุกรานเกาะเทียนเหอของเรา กูเป็นผู้อาวุโสของเกาะเทียนเหอ ทิ้งแหวนเก็บของของมึงไว้ จากนั้นก็ทำลายผลการฝึกตนทั้งหมดของมึงทิ้ง แล้วกูจักไว้ชีวิตมึงหนหนึ่ง”ผู้อาวุโสผมเทาขาวพูดอย่างเยือกเย็น มีพลังออร่าของผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพขั้น 3 แผ่กระจายออกมา
เกาะเทียนเหอคือสถานที่แบบใด หลัวซิวไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่ทว่าเขาก็ถือว่าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดกองกำลังใหญ่ทั้งหลายจากโลกาดาราต่าง ๆ ถึงเกรงกลัวเกาะเทียนเหอลึกซึ้งเช่นนี้ เนื่องจากจ้าวมหาเทพของเกาะเทียนเหอถึงขั้นสามารถเดินเตร่อยู่ในห้วงดาราระดับล่างได้ตามอำเภอใจ
และเป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง เกาะเทียนเหอถึงไม่ได้นำจอมยุทธ์จากโลกาดาราทั้งหลายมาไว้ในสายตา ดังนั้นวันทั่วไปพวกเขาถึงได้ก่อเรื่องอย่างอุกอาจ จองหองพองขนจนติดเป็นนิสัย สาเหตุที่ไม่ได้ลงมือในงานประมูลนั้น เกรงว่าก็น่าจะมองเห็นอะไรบางอย่างเช่นกัน รู้ว่าตัวเองรุกรานไม่ง่าย
ทว่าบัดนี้ผู้อาวุโสระดับจ้าวมหาเทพมาถึงแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจึงจองหองขึ้นมาในทันที หวังจะทำลายผลการฝึกตนของเขาโดยตรง และแย่งแหวนเก็บของของเขาไป
“น่าสนใจดีแฮะ เกาะเทียนเหอสินะ? ถึงขั้นสามารถทำให้แดนจ้าวมหาเทพมองข้ามการพันธนาการของจักรวาลฟ้าดิน เดินเตร่อยู่ในห้วงดาราระดับล่างได้”
หลัวซิวไม่ได้สนใจทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าแต่อย่างใด แต่เป็นการนำสายตาหันไปทางตำแหน่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลพลางพูด: “เทพธิดาเมี่ยวหลุน ไม่ทราบว่าสามารถเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเกาะเทียนเหอให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่?”
เหล่าเฒ่าประหลาดระดับกึ่งจ้าวมหาเทพแห่งโลกะดาราอัมพรเทวเจ้าเล่ห์มาก หลัวซิวไม่มีความคิดที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา ดังนั้นจึงสอบถามฉีเมี่ยวหลุนโดยตรง
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าฉีเมี่ยวหลุนชะงักงันเล็กน้อย ส่วนสีหน้าของเหล่าผู้อาวุโสแห่งสำนักไท่ฉือที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูย่ำแย่เล็กน้อยเช่นกัน เนื่องจากหากฉีเมี่ยวหลุนตอบคำถามของหลัวซิว เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการรุกรานเกาะเทียนเหอ
ปัจจุบัน เกาะเทียนเหอเฟื่องฟูถึงสุดขีดเสมือนดวงตะวันอยู่กลางฟ้า กองกำลังจากโลกาดาราทั้งหลายล้วนต้องดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ โดยการมองหน้าเกาะเทียนเหอ หากไม่ทันได้ระวัง ก็จะนำพาหายนะแห่งการล้มล้างมาให้แก่สำนักตระกูลตน
ฉีเมี่ยวหลุนก็ต้องเข้าใจผลลัพธ์นี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด นางรู้สึกว่าหลัวซิวไม่ได้เกรงกลัวเกาะเทียนเหอ ในทางตรงกันข้ามการที่เกาะเทียนเหอรุกรานหลัวซิวนั้น กลับเป็นสิ่งที่ทำให้หายนะใหญ่กำลังจะมาเยือนเกาะเทียนเหออย่างแท้จริง
แต่ฉีเมี่ยวหลุนก็ไม่กล้าดำเนินการตามสัญชาตญาณตนเช่นกัน ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตอบกลับคำถามของหลัวซิวโดยตรง แต่เป็นการใช้ตัวสำนึกส่งเสียงบอกว่า: “ท่านชายหลัว เกาะเทียนเหอเป็นกองกำลังที่เพิ่งอุบัติขึ้นมาในห้วงดาราระดับล่างเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีโลกาดาราสิบกว่าใบที่ถูกควบคุมโดยเกาะเทียนเหอ กองกำลังใหญ่ที่ถูกเกาะเทียนเหอล้มล้างก็มีเยอะมากเช่นกัน”
เมื่อได้ยินคำตอบดังกล่าว หลัวซิวก็ทราบแล้วว่าเกาะเทียนเหอต้องมีความลับแน่นอน การที่กองกำลังนี้ปรากฏกะทันหันนั้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน อีกทั้งสามารถมองข้ามข้อจำกัดของกฎจักรวาลฟ้าดิน อุบายเช่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้เช่นกัน
หลัวซิวเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวเด็ดขาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้รอให้ฝ่ายตรงข้ามลงมือด้วยซ้ำ เขาก็เป็นฝ่ายลงมือก่อนแล้ว ผนึกรวมพลังฝ่ามือขนาดใหญ่ออกมาโดยตรง แล้วขยำไปทางจ้าวมหาเทพขั้น 3 ที่พูดในเมื่อครู่นี้
“ไอ้คนไม่รู้จักความเป็นความตาย!”
เมื่อผู้อาวุโสแห่งเกาะเทียนเหอนั่นเห็นว่าหลัวซิวถึงขั้นลงมือโจมตีมาทางตนเองก่อน จึงมีจิตสังหารที่รวดเร็วและดุดันอย่างยิ่งระเบิดออกมาจากร่างเขากะทันหัน