มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2498
ผลการฝึกตนทั้งหมดแทบจะสูญเสียไปเก้าส่วนภายในเสี้ยววินาทีเดียว เพลาไหลรวยก็เหมือนหลุมดำที่มองไม่เห็นก้น หลัวซิวจำเป็นต้องถ่ายเทผลการฝึกตนเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน ถึงจะสามารถทำให้มันยืนหยัดได้ยาวนานขึ้น
มิฉะนั้นทันทีที่เพลาไหลรวยสลายหายไป ชายผมแดงนั่นต้องกลับมาเป็นอิสระอีกครั้งแน่นอน จากผลการฝึกตนที่แข็งแกร่งของเขา หลังจากมีการเตรียมป้องกันแล้ว หลัวซิวก็จะลงมือบรรลุเป้าหมายอีกครั้งได้ยากมาก
“เผาผลาญพลังและเลือด!”
หลัวซิวเผาผลาญพลังและเลือดอย่างไม่ลังเลใจ ปัจจุบันเขายึดกุมกฎชีวิตขั้น 9 สามารถเผาผลาญพลังและเลือดบนร่างกายเก้าส่วนพร้อมกัน การเผาผลาญพลังและเลือดทุกหยด ล้วนสามารถมอบผลการฝึกตนที่มากมายมหาศาลให้แก่เขา และใช้วิธีการดังกล่าวมาประคองการบริโภคของเพลาไหลรวย
ร่างกายของชายผมแดงถูกเพลาไหลรวยทำให้หยุดนิ่ง ส่วนเงาร่างของหลัวซิวนั้นกลับเดินเตร่อยู่ในเพลาไหลรวยกระบี่ร่องฟ้าปรากฏในมือ พลางค่อย ๆ ประชิดใกล้ชายผมแดงทีละก้าว
“มึงจะทำอะไร!?”
เมื่อเห็นว่าหลัวซิวเดินตรงมาทางตัวเอง สีหน้าอารมณ์ของชายผมแดงก็ดูเข้มงวดขึ้นมา เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ไม่มีการอำพรางใด ๆ จากตัวฝ่ายตรงข้าม
หลัวซิวไม่ได้ตอบกลับฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งเขารู้สึกว่าคำถามของฝ่ายตรงข้ามก็เป็นคำถามไร้สาระเช่นกัน ดำเนินการมาถึงขั้นนี้แล้ว นอกจากกูจะฆ่ามึง แล้วกูจะทำอะไรได้อีกล่ะ?
“มึงรู้หรือไม่ว่ากูคือผู้ใด? มึงกล้าฆ่ากูหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลัวซิวยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ตน น้ำเสียงของชายผมแดงก็ยิ่งดุดันมากขึ้น ไม่สุขุมอีกต่อไปแล้ว
ฟึ่บ!
หลัวซิวเบื่อที่จะพูดแม้แต่พยางค์เดียว ฟาดฟันกระบี่ร่องฟ้า แสงกระบี่เหมือนดั่งผ้าไหมสีขาว ก่อนจะมีศีรษะหนึ่งลอยขึ้นพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูด
ถึงแม้ชายชุดแดงจะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิเทพ พลังเทพป้องร่างของเขาก็ต้านทานความเฉียบคมของกระบี่ร่องฟ้าไม่ได้ เนื่องจากกระบี่เทพเล่มนี้คืออาวุธเทพระดับเก้า และยิ่งเป็นอาวุธสงครามมกุฎเทพระดับเก้า!
เมื่ออยู่ภายใต้สภาวะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถขัดขืนได้ การที่กระบี่ร่องฟ้าจะฉีกกระชากเกราะป้องกันและร่างกายของเขานั้น มันเป็นเรื่องที่ง่ายไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ไม่มีความลังเลใจใด ๆ หลัวซิวฟาดฟันกระบี่ผ่าศีรษะของชายผมแดงออก แล้วเอาช่องจิตที่ผนึกรวมมาจากวิญญาณดั้งเดิมของเขามา อัคคีเทพลุกโชนอยู่กลางฝ่ามือ แผดเผาเศษปณิธานที่หลงเหลืออยู่ในช่องจิตให้ดับสลายไป
อั่ก!
หลัวซิวอ้าปากแล้วกระอักเลือด เพลาไหลรวยหายไปแล้ว สีหน้าของเขาก็ดูขาวซีดอย่างยิ่ง
เขาสูญเสีญผลการฝึกตนไปเยอะเกินไปจริง ๆ ณ บัดนี้วินาทีนี้ สภาวะของเขาอ่อนแอถึงขีดสุดแล้ว ยื่นมือไปเก็บแหวนเก็บของและศพของชายผมแดงขึ้นมา ผันร่างเป็นแสงกลภายในชั่วลมหายใจเดียว ก่อนจะหายไปจากห้วงดาราที่อยู่ห่างไกลออกไป
ในตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลออกไป ซ่งเฉิงมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ศึกการต่อสู้ระหว่างหลัวซิวและชายผมแดงนั้น สามารถพูดได้เลยว่าทำให้เขาได้เปิดหูเปิดตามาก โดยเฉพาะศึกการต่อสู้ของทั้งสองคนที่ทำให้ห้วงดาราขนาดใหญ่ถูกทำลายล้าง สภาพพังยับเยิน มีจิตสังหารและกฎที่รวดเร็วและดุดันอย่างยิ่งตลบฟุ้งไปทั่วทุกสารทิศ
ผันร่างเป็นแสงกลบินอยู่ในห้วงดาราอย่างรวดเร็ว หลัวซิวรู้สึกว่าสติของตัวเองยิ่งอยู่ยิ่งเลือนลาง วินาทีนี้สภาวะของเขาอ่อนแอถึงขีดสุด ผลการฝึกตนแทบจะแห้งเหือดไปหมดไม่ว่า ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่เกิดจากการเผาผลาญพลังและเลือดเก้าส่วนยิ่งทำให้เขาอยากนอนสลบไสลไปตั้งแต่วินาทีนี้เลย
เขาหยิบยาเซียนรักษาตัวและฟื้นฟูร่างต่าง ๆ ออกมาจากแหวนเก็บของโดยสัญชาตญาณ ฤทธิ์ยาที่เข้มข้นบริสุทธิ์แพร่กระจายในร่างกาย ร่างกายเขาก็เหมือนดินที่แห้งเหือด ดูดซับพลังทั้งปวงอย่างบ้านระห่ำ
……
หลังจากผ่านไปสามเดือน บนดาวเคราะห์ที่รกร้างว่างเปล่าดวงหนึ่ง หลัวซิวที่มีกฎรัศมีเทวลอยวนเป็นเกลียวอยู่รอบกายก็ค่อย ๆ ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา
ครั้งนี้แค่สูญเสียผลการฝึกตนไปค่อนข้างเยอะ ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นการฟื้นฟูจึงไม่ยากปานครั้งก่อน
ภายในแหวนเก็บของของชายผมแดงมีโอสถแก่นแท้อยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นโอสถแก่นแท้ระดับห้าด้วย บวกกับยาที่หลัวซิวกลั่นเอง ปัจจุบันจึงฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพปกติโดยสิ้นเชิงแล้ว