มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2509
ในชั่วพริบตา แสงเกือบยี่สิบดวงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของทุกคนโดย ต่างเผชิญหน้ากัน
ฝ่ายตรงข้ามมีคนมากกว่า หลัวซิวและพวกเขาทั้งหมดผลการฝึกตนคือระดับจ้าวมหาเทพขึ้นไป แต่อีกฝ่ายคนที่เป็นผู้นำ สวมชุดคลุมสีดำ ผิวเหลืองซีดเซียว และสีหน้าขรึมโหดเหี้ยม แผ่ออร่าผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพให้เล็ดลอดออกมา
“จักรพรรดิเทพ!”
เมื่อสัมผัสถึงออร่าผลการฝึกตนของบุคคลผู้นี้ พระโอรสจ้านเทียน มู่จื่อเซียวและคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว
พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่ากองกำลังของห้วงดาราระดับล่าง จะมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพจักรพรรดิ
โดยสัญชาตญาณ ทุกคนมารวมตัวกันรอบๆ หลัวซิว เพราะหลัวซิวเป็นคนเดียวในหมู่พวกเขา มีข่าวลือว่าเขามีพลังการต่อสู้ที่เทียบได้กับจักรพรรดิเทพ
“สามารถทำลายค่ายกลของข้าได้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นปรมาจารย์ค่ายกลคนหนึ่ง?” เสียงของชายชุดดำแหบแห้งราวกับเสียงร้องของอีกา ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัด
“เป็นแค่ปรมาจารย์ค่ายกลเท่านั้นเอง ไม่น่าพูดถึง” หลัวซิวพูดเสียงเรียบ ๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของชายชุดดำเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล้าที่จะบอกว่าปรมาจารย์ค่ายกลเป็นเพียง คนๆนี้เป็นไปมหาปรมาจารย์ค่ายกลหรือไง?
เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายทำลายค่ายกลอัคคีเทพเบญจธาตุของเขาได้อย่างง่ายดาย ชายในชุดดำรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้จริง ๆ
ยิ่งกว่านั้น เขาพบว่าคนที่ทำลายค่ายกลของเขามีผลการฝึกตนเพียงมกุฎเทพขั้นสูงสุดเท่านั้น เทพมารระดับสามคนหนึ่ง จะเป็นมหาปรมาจารย์ค่ายเทพระดับ 5 ได้อย่างไร?
ความคิดต่าง ๆ แวบเข้ามาในหัวของเขา และชายในชุดดำเดาว่าหลัวซิวคือผู้เก่งกาจที่ซ่อนผลการฝึกฝนที่แท้จริงของตนไว้ เอาจจะไม่อ่อนแอกว่าตัวเขาเอง และค่ายกลอาจจะแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเอง
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่โจมตีทันทีเมื่อมาถึง เพราะเขาไม่เคยทำอะไรที่เขาไม่แน่ใจ
“ตอนนี้ดาราเสวียนหมิงเป็นดินแดนของเกาะเทียนเหอของพวกข้า ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดพวกเจ้าถึงบุกเข้ามา?” ชายในชุดดำถามด้วยน้ำเสียงต่ำ
“ใครบอกว่าดาราเสวียนหมิงเป็นดินแดนของเกาะเทียนเหอของพวกเจ้า ข้าได้ยินได้ว่าเดิมทีดาราเสวียนหมิงเป็นดาวหลักของโลกาดาราเสวียนหมิง? เกาะเทียนเหอพวกเจ้าแย่งชิงที่อยู่ของคนอื่นยังกล้าพูดอย่างมั่นใจอีก” หลัวซิวเบะปากและพูด
พระโอรสจ้านเทียนและคนอื่น ๆ ไม่พูด เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดคุยกับผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพ กระโดดออกไปพูดอะไรอย่างหุนหันพลันแล่น กลับทำให้ตัวเองอับอาย
หลัวซิวกลายเป็นผู้นำของคนกลุ่มนี้โดยไม่รู้ตัว
“ฮึ่ม โลกของวิถียุทธเคารพผู้แข็งแกร่ง เกาะเทียนเหอของเรานั้นแข็งแกร่ง และเราครอบครองดาวเสวียนซิงก็เป็นการสมควร” ชายในชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
หลัวซิวยิ้มอย่างดูถูก “อย่าเอาแต่พูดถึงเกาะเทียนเหอของพวกเจ้า ถ้าข้าเดาไม่ผิด พวกเจ้าคือผู้อยู่เบื้องหลังเกาะเทียนเหอใช่ไหม? พวกเจ้าน่าจะมาจากโลกมหาศักดิ์แปดด้าน?”
“เหอะเหอะ เพื่อนคนนี้รู้ดีและเดาที่มาของเราได้”
ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น ตามมาด้วยระลอกคลื่นในปริภูมิที่ไม่ไกล และร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากตรงนั้น
นี่คือชายหนุ่มที่หล่อเหลาหาที่เปรียบมิได้ สวมผ้าสีม่วงลื่น มีรูปภูเขา แม่น้ำ ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปักอยู่และมีเครื่องหมายสีทองระหว่างคิ้วของเขา เหมือนดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ เมื่อมองดวงอาทิตย์เล็กดวงนั้นก็จะรู้สึกถึงออร่าที่แข็งแกร่ง
“ท่านชาย!”
“คารวะท่านชาย!”
เมื่อชายชุดดำเห็นชายหนุ่มชุดสีม่วง เขาก็ทำความเคารพด้วยสีหน้าเคารพอย่างรวดเร็ว และเหล่าจ้าวมหาเทพที่อยู่ข้างหลังเขาก็คุกเข่าคารวะเช่นกัน
ชายหนุ่มยิ้มและโบกมืออย่างใจเย็น จากนั้น ชายชุดคลุมสีดำและเหล่าจ้าวมหาเทพก็ลุกขึ้นและพูดว่าขอบใจท่านชาย
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกน้องของชายหนุ่ม และเขาเป็นนายที่อยู่เบื้องหลังเกาะเทียนเหอ