“หากเจ้าต้องการทรัพยากรการฝึกตนที่ระดับขั้นสูงกว่า ข้าแนะนำให้เจ้าไปตามหาพวกโบราณสถานที่อยู่ในยุคเก่าแก่ ซึ่งมีเพียงไปโบราณสถานเก่าแก่เหล่านั้น ถึงจะเจอทรัพยากรสมบัติจำนวนมากที่หาพบได้แค่ในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด”นายแห่งเผ่าจี้พูดอย่างกะทันหัน
“โบราณสถานเก่าแก่?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของหลัวซิวก็เป็นประกายขึ้นมา หินบรรพไท่ชูที่เขาได้รับ ก็ได้รับมาจากตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งไม่ใช่หรือ? เมื่อมองจากความหมายบางอย่างแล้ว ตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งก็ถือเป็นโบราณสถานในยุคเก่าแก่เช่นกัน
หลัวซิวบอกลานายแห่งเผ่าจี้ ก่อนจะตัดสินใจออกไปด้านนอกหนึ่งรอบ
นายแห่งเผ่าจี้เป็นพูดย้ำเตือนเรื่องโบราณสถานเก่าแก่เขา แต่ทว่าการออกไปในครั้งนี้ของเขากลับไม่ได้ออกไปเพราะตามหาโบราณสถานเก่าแก่ หากโบราณสถานเก่าแก่ตามหาง่ายขนาดนั้นละก็ คงถูกผู้อื่นค้นพบไปตั้งนานแล้ว จักถึงตาเขาไปตามหาได้อย่างไรเล่า?
กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ไม่ใช่โบราณสถาน แต่เป็นคำว่าเก่าแก่!
อ้างอิงจากความรู้ของเขา ในยุคไท่ชูอันไกลโพ้น แท้จริงแล้วห้วงดารานี้ที่ถูกเรียกว่าจักรวาลกันดาร ไม่ค่อยต่างอะไรจากโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด เกณฑ์ฟ้าดินแตกต่างกันไม่มากนัก แต่ว่าปริภูมิในห้วงนี้แค่ไม่มั่นคงอย่างโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด
ทว่าตั้งแต่ยุคไท่ชูตลอดจนยุควัฏสงสาร เคยเกิดภัยพิบัติและศึกสงครามที่ยิ่งใหญ่มามากจนนับไม่ถ้วน และการเข่นฆ่าทั้งหมดนี้ส่วนมากเกิดขึ้นในจักรวาลกันดาร เพราะฉะนั้นถึงได้ส่งผลให้เกณฑ์ฟ้าดินในจักรวาลกันดารพังทลาย เมื่อพัฒนาจวบจนปัจจุบัน มากสุดก็แค่สามารถฝึกตนแดนเทพมารระดับหกเท่านั้น
แต่ในอดีตอันไกลโพ้น ก่อนที่เกณฑ์ฟ้าดินจะพังทลาย ต้องมีสมบัติทรัพยากรถูกหล่อเลี้ยงออกมาเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน ซึ่งสมบัติเหล่านั้น ส่วนมากจะถูกอำพรางอยู่ในเขตแดนที่ผู้คนไม่กล้าย่างกรายเข้าไปง่าย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นมหาโลกายอดอัมพรหรือมหาโลกาอื่น ๆ ก็หาพบสถานที่ที่เป็นทำนองนี้ได้เยอะมาก ยกตัวอย่างเช่นนิรยะเพชฌฆาตและหุบเขาหิมะเยือก
ก่อนจะออกเดินทางในครั้งนี้ หลัวซิวได้ไปแจ้งเหยียนซีโรว่และเหยียนเยว่เอ๋อร์โดยเฉพาะ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เขามักจะมองข้ามความรู้สึกของพวกนางอยู่เสมอ ตั้งแต่เข้าใจในจุดนี้แล้ว ไม่ว่าหลัวซิวจะทำเรื่องอะไร เขาก็จะแจ้งให้พวกนางทราบก่อนเสมอ
เหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่อยากออกเดินทางพร้อมกับหลัวซิวมาก ๆ แต่พวกนางก็ทราบเช่นกันว่าตนช่วยเหลืออะไรไม่ได้ หลัวซิวออกไปเพราะจะตามหาทรัพยากรมายกระดับผลการฝึกตน ส่วนพวกนางมีทรัพยากรจำนวนมากที่หลัวซิวจัดเสนอให้ หากไม่ตั้งใจฝึกตนดี ๆ ละก็ แล้วมันจะคุ้มแก่ความตั้งใจหวังดีที่สามีมอบให้ได้อย่างไร?
เพราะฉะนั้นเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่จึงระงับความไม่อยากจากในใจเอาไว้อย่างไม่ลังเลใจ ตัดสินใจฝึกตนอยู่ในแดนปริศนาเผ่าจี้ต่อ เนื่องจากหลัวซิวเคยบอกว่าอนาคตหากจะเดินทางไปโลกมหาศักดิ์ ถ้าศักยภาพอ่อนถึงมากเกินไปละก็ อนาคตเมื่อเดินทางไปโลกมหาศักดิ์พร้อมกับหลัวซิวแล้ว พวกนางไม่อยากกลายเป็นตัวถ่วงที่อยู่ข้างกายเขาหรอกนะ
การเดินทางในครั้งนี้ หลัวซิวก็ไม่ได้พาดูดจิตไป เมื่อมีลาร์อยู่ข้างกาย โดยส่วนใหญ่แล้วเขาแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้อภินิหารรวมร่างเลย อีกทั้งพรสวรรค์สายเลือดชนเผ่าราชันย์ของดูดจิตสูงมาก ๆ ก็จำเป็นต้องฝึกตนปิดขังเพื่อพยายามบรรลุถึงแดนที่สูงกว่าเช่นกัน
หลัวซิวเดินทางไปเทือกเขาลั่วหยุนก่อน ลาร์ออกมาจากมหาค่ายกักชีวีเทวโทษเวหากาลและติดตามเขามาก็ระยะหนึ่งแล้ว เขาเตรียมพร้อมที่จะกลับไปเพิ่มเสริมให้อุบายที่ตัวเองจัดวางไว้มั่นคงแข็งแรงมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
หลังจากทุกอย่างถูกจัดการอย่างเหมาะสมแล้ว หลัวซิวก็เรียกเรือรบจักรพรรดิเทพออกมา ก่อนจะบินตรงไปยังห้วงดารา
ในมือเขามีม้วนหยกแผนที่ดาวหนึ่งฉบับ ซึ่งด้านบนมีสถานที่ที่จอมยุทธ์ทั่วไปไม่กล้าสืบเท้าเข้าไปบันทึกอยู่เยอะมาก สถานที่เหล่านี้แม้แต่จักรพรรดิเทพยังต้องหลบเลี่ยง และมีสถานที่บางส่วนที่เคยมีคนได้รับทรัพยากรสมบัติล้ำค่าจากภายในเช่นกัน
หลัวซิวถูกเงาดำร่างหนึ่งสกัดกั้นเอาไว้ในห้วงดารา ฝ่ายตรงข้ามกำลังควบคุมของขลังในลักษณะที่สามารถโบยบินได้หนึ่งชิ้น