“เราไปกันเถอะ!”
บรรพอาจารย์ตระกูลหงระงับจิตสังหารในใจเอาไว้ อย่างไรเสียตระกูลหงก็เป็นผู้เสนอการแข่งขันในครั้งนี้ก่อน เมื่ออยู่ภายใต้การเป็นประจักษ์พยานของกองกำลังทั้งหลาย ในเมื่อหงเว่ยตายอยู่บนเวทีประลองยุทธ์แล้ว ตระกูลหงก็ไม่มีเหตุผลเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลยด้วยซ้ำ
ยิ่งกว่านั้นคือต่อให้ลงมือ ตระกูลหงก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าจะสามารถเอาชนะเผ่าจี้ได้ ดังนั้นนอกจากกลืนความแค้นในครั้งนี้ลงท้องไปแล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นให้เลือกได้เลย
เมื่อผ่านศึกการต่อสู้ในครั้งนี้ไป สามารถพูดได้เลยว่าทำให้ทุกคนได้พบเห็นรู้จักกับอุบายที่ทรงพลังของท่านชายซิวหลัวนี่
อดีตในโลกาภายนอกจะมีคำเล่าลือต่าง ๆ นานาที่เกี่ยวข้องกับท่านชายซิวหลัวแพร่หลายไปทั่ว ทว่าผู้ที่เคยเห็นเขาลงมืออย่างแท้จริงกลับมีไม่มากนัก
ไม่ว่าผลการฝึกตนของตัวเขาเองจะอยู่แดนใด การที่เขาสามารถล้มล้างตำหนักเสินหยู สังหารนายแห่งตระกูลหงอย่างหงเว่ยได้นั้น ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีศักยภาพที่แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิเทพขั้นสูงทั่วไป
ในโลกของการฝึกยุทธ์ ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ศักยภาพต่างหากที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์
มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้านายแห่งเผ่าจี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจสักทีว่าเหตุใดตระกูลเทพสงครามถึงเลือกที่จะติดตามหลัวซิว ชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวมากเกินไปจริง ๆ เพิ่งบรรลุถึงแดนจ้าวมหาเทพก็สามารถสังหารจักรพรรดิเทพขั้นสูงแล้ว อนาคตหากเขาบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพ เช่นนั้นแม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแล้วมิใช่หรือ?
หากคอยเขาบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ เช่นนั้นเมื่อเดินทางไปยังโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดแล้ว ก็สามารถครอบครองตำแหน่งเล็ก ๆ ได้เช่นกันมิใช่หรือ?
เผ่าจี้อยากย้อนกลับไปยังโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด ซึ่งมันถูกลิขิตไว้แล้วว่านี่คือเส้นทางที่ยากลำบากหนักหนาและยาวนานมาก มาตรแม้นว่าปัจจุบันนายแห่งเผ่าจี้จะกลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว เขาก็ไม่คิดว่าเผ่าจี้มีศักยภาพในการย้อนกลับไปยังโลกมหาศักดิ์ ทว่าเขากลับมองเห็นความหวังบนตัวหลัวซิว
หงเว่ยดับสลายสูญสิ้น ตระกูลหงถอนกำลังออก ชื่อเสียงของท่านชายซิวหลัวได้โด่งดังไปทั่วมหาโลกาพันสามอีกครั้ง ซึ่งไม่มีผู้ใดไม่รู้จักเขาเลย
อย่างที่ทุกคนทราบกัน ปัจจุบันนายแห่งเผ่าจี้กลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว ส่วนผู้ติดตามคนหนึ่งที่เหมือนดั่งยักษ์จิ๋วที่อยู่ข้างกายหลัวซิวก็มีศักยภาพระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็เท่ากับในเผ่าจี้มีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่มองเห็นภายนอกสองคน
หากบวกกับหลัวซิวอีกคนหนึ่ง เขาสามารถสังหารจักรพรรดิเทพขั้นสูง มาตรแม้นว่าศักยภาพจะไม่สามารถเทียบเคียงกับมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้ แต่ก็ต่างกันไม่มากแน่นอน มีศักยภาพในการเจริญเติบโตที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
บัดนี้คนจำนวนมากถึงจะรู้สำนึกอย่างกะทันหันว่า ถึงขั้นมีกองกำลังที่ทรงพลังอย่างยิ่งรวมตัวกันอยู่ข้างกายหลัวซิวโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว
พลทหารและม้าของกองกำลังทั้งหลายก็ต่างถอยกลับแล้ว ณ แดนปริศนาเผ่าจี้ นายแห่งเผ่าจี้ได้จัดงานเลี้ยงที่หรูหราใหญ่โต เพื่อแสดงความยินดีที่หลัวซิวคว้าชัยจากการแข่งขันในครั้งนี้
ภายในแดนปริศนาเผ่าจี้มีถ้ำที่เป็นของหลัวซิวโดยเฉพาะ หลังจบจากงานเลี้ยง เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็กลับมาในถ้ำพร้อมกับหลัวซิว เหยียนซีโรว่รู้สึกเขินอายจนใบหน้าที่เรียวบางแดงก่ำ นางก็ถูกเหยียนเยว่เอ๋อร์ลากกลับมาด้วย
ทันทีที่กลับมา เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็กระโจนเข้าไปในอ้อมอกหลัวซิวอย่างอดใจรอไม่ไหว จากนั้นก็จูบหลัวซิวอย่างบ้าระห่ำ
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มัวเหน็ดเหนื่อยกับการวิ่งเต้นบากบั่น มีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยมาก ๆ นางก็ไม่ทราบเช่นกันว่าการกลับมาในครั้งนี้ หลัวซิวจะอยู่ต่อได้นานเท่าไหร่ และไม่ทราบเช่นกันว่าหากเขาจากไปอีกครั้ง เขาจะกลับมาอีกเมื่อไหร่
เมื่อเปรียบเทียบกับอารมณ์ที่เร่าร้อนดั่งไฟของเหยียนเยว่เอ๋อร์แล้ว หน้าของเหยียนซีโรว่กลับบางมาก ๆ ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำเพราะความเขินอาย เมื่อเห็นลักษณะท่าทีที่รักใคร่สุดซึ้งจนแยกจากกันไม่ได้ระหว่างหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ นางก็ไม่ทราบเช่นกันว่าควรทำตัวอย่างไรดี
“อื้ม……”
หลัวซิวจับมือของเหยียนซีโรว่เอาไว้ แล้วดึงตัวนางเข้าไปในอ้อมอกตนเอง เขาก็ไม่ได้เพลิดเพลินกับความรู้สึกระหว่างสามีภรรยามานานมาก ๆ แล้ว
ในขณะที่การแสดงสุดตื่นเต้นซาบซึ้งของหนึ่งมังกรสองหงส์กำลังจะเริ่มขึ้นอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังมาจากนอกถ้ำ
“ท่านชายซิวหลัว มารบกวนเรื่องดี ๆ ของเจ้า เจ้าไม่โทษข้าหรอกกระมัง?”
ขณะที่เสียงดังกล่าวสะท้อนมา ชายที่อยู่ในชุดคลุมยาวสีเทาก็ทลายตัวต้องห้ามของถ้ำโดยตรง แล้วยืนอยู่ภายในถ้ำของหลัวซิว