มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2634
แต่หลัวซิวมีความทรงจำของไท่ซ่างฉิง แค่วรยุทธ์ประเภทหนึ่งที่เขาเอาออกมาอย่างเรื่อยเปื่อยก็แข็งแกร่งกว่าเคล็ดตรีภพโกลาหลมาก ๆ แล้ว ดังนั้นเมื่อมองจากจุดนี้ การที่วังเซียนมหาวาลขอวรยุทธ์นั้น กลับทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่า
เคล็ดกลั่นร่างตรีภพไม่มีค่าอะไรสำหรับหลัวซิว ก่อนที่เขาจะยกมือโบกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็มีม้วนหยกชิ้นหนึ่งบินไปทางตันเม่ย
ตันเม่ยยื่นมือออกไปรับแล้วใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจภายใน จากนั้นก็มีรังสีแห่งความตะลึงปรากฏบนใบหน้าที่งดงามนั่น
เนื่องจากภายในม้วนหยกวรยุทธ์ที่หลัวซิวให้นาง ถึงขั้นมีวิชาจิตในการบรรลุสู่เทพมารระดับเจ็ดบันทึกอยู่ด้วย นี่คือวรยุทธ์เทพระดับเจ็ดอย่างนั้นหรือ!
วรยุทธ์ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ยุคก่อน ๆ ในอดีตริเริ่ม มากสุดแค่สามารถฝึกถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เท่านั้น มหาจักรพรรดิยุทธ์ส่วนมากล้วนเดินทางไปยังโลกมหาศักดิ์ผ่านเส้นทางดารา แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถบรรลุเป็นเทพมารระดับเจ็ดได้เสมอไป มาตรแม้นว่าบังเอิญโชคดีบรรลุถึงแดนเทพมารระดับเจ็ด การที่จะริเริ่มวรยุทธ์เทพระดับเจ็ดนั้น ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากถึงมากที่สุดเช่นกัน
เนื่องจากการริเริ่มวรยุทธ์มันยากลำบากกว่าการฝึกวรยุทธ์เป็นพันเป็นหมื่นเท่าเลย!
ตันเม่ยเก็บม้วนหยกเข้าที่ ก่อนจะตอบกลับอย่างไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย: “ข้าจักกลับไปรวบรวมกำลังคนบัดเดี๋ยวนี้เลย ปิงหยูก็อยู่ในเผ่าจี้นี่แหละ หวังว่าท่านชายซิวหลัวจะสามารถชี้แนะปัญหาด้านการฝึกตนให้นางได้นะเจ้าคะ”
“เช่นนั้นก็จักขอเฝ้ารอคอยเหล่าผู้เพื่อนยุทธ์จากวังเซียนมหาวาลมาเยือนด้วยความเคารพนะขอรับ”หลัวซิวยิ้มพลางตอบกลับ
ตันเม่ยไม่ได้พูดอะไรมาก หันหลังแล้วจากไป ความเสี่ยงและโอกาสคงอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การที่วังเซียนมหาวาลกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้นั้น พวกเขาก็ย่อมมีทางหนีทีไล่ของตนเองอยู่แล้ว ถึงแม้เผ่าจี้จะพ่ายแพ้ วังเซียนมหาวาลก็มีหนทางเอาตัวรอดอยู่
เมื่ออาศัยเคล็ดกลั่นร่างตรีภพที่ได้รับมา วังเซียนมหาวาลก็มีแต่จะยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
อะไรที่ควรจัดแจงหลัวซิวก็จัดแจงเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ทุกอย่างจึงทำได้เพียงรอศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่มาเยือนแล้วล่ะ
วันนี้ มีเงาดำสองร่างออกจากแดนปริศนาเผ่าจี้ ซึ่งเงาดำทั้งสองร่างนั้นก็คือหลี่ยู่และเย่ห้าวหราน
พวกเขาทั้งสองไม่ใช่ร่างผันของหลัวซิวอีกต่อไปแล้ว แต่ได้รับคุณธรรมและชีวิตที่เป็นของตนเองจากหลัวซิวอย่างแท้จริง
ระหว่างพวกเขาและหลัวซิวมีความสัมพันธ์ที่เยื่อใยแน่นแฟ้น แต่ก็สามารถพูดได้ว่าพวกเขาต่างไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกันแล้ว
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ผลการฝึกตนของหลี่ยู่และเย่ห้าวหรานก็มีการพัฒนาเร็วมากเหมือนกัน ต่างฝึกตนถึงแดนจ้าวมหาเทพ ในมหาโลกาพันสามมีน้อยคนมากที่ทราบตัวตนและความเป็นมาที่แท้จริงของพวกเขา
อ้างอิงจากคำสั่งของหลัวซิว หลี่ยู่ได้เดินทางไปยังมหาโลกะมรณะ และตามหาสำนักจักรพรรดิมรณะจนเจอ เขามีสิ่งของที่ถือเป็นหลักฐานยืนยันของหลัวซิว จึงได้รับการต้อนรับจากมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิด้วยตนเอง
“เผ่าจี้ตกยากลำบาก จึงอยากให้ข้าช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ? เหตุใดสหายหลัวจึงไม่เดินทางมาด้วยตนเองเล่า?”
ในมือมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิกำลังกำหยกหนึ่งชิ้น ซึ่งด้านบนมีตราประทับของหลัวซิว มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิต้องคุ้นเคยต่อพลังออร่าของหลัวซิวดีอยู่แล้ว
ตั้งแต่ได้รับกรองแก้วมรกตดั้งเดิมเป็นต้นมา เขาก็เริ่มปิดขังเช่นกัน ปัจจุบันผลการฝึกตนฟื้นฟูกลับไปสู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายแล้ว ยิ่งกว่านั้นคือขาดอีกเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น ก็สามารถฟื้นฟูกลับคืนสู่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงแล้ว
อดีตเขาเคยสัมผัสความแข็งแกร่งของเขาดึกดำบรรพ์ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่มีความคิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่เขาดึกดำบรรพ์ร่วมมือกับกองกำลังอื่น ๆ เข้าปราบปรามเผ่าจี้ในครั้งนี้
แน่นอนอยู่แล้วว่าครั้นเมื่อเขาเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูง ก็เคยเสียเปรียบให้กับเขาดึกดำบรรพ์มาแล้ว แม้นศักยภาพ ณ ปัจจุบันของเขาจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อปีนั้นเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่คิดว่าเมื่อสำนักจักรพรรดิมรณะร่วมมือกับเผ่าจี้แล้ว จะสามารถต่อกรกับเขาดึกดำบรรพ์ได้ มากไปกว่านั้นคือไม่ได้มีเพียงเขาดึกดำบรรพ์เท่านั้น ยังมีตระกูลสำนักจักรพรรดิขั้นสุดยอดอื่น ๆ อีกด้วย
“ท่านชายให้ผู้น้อยฝากคำพูดหนึ่งให้ท่านมหาจักรพรรดิยุทธ์ ท่านชายกล่าวว่าในเมื่อรังพลิกตกลงมาแล้ว จักไม่มีไข่ที่ไม่แตก หากเขาดึกดำบรรพ์ล้มล้างเผ่าจี้สำเร็จ จากบุญคุณความแค้นระหว่างท่านมหาจักรพรรดิยุทธ์และเขาดึกดำบรรพ์ ท่านคิดว่าสำนักจักรพรรดิมรณะจะสามารถนอนตาหลับได้อย่างสบายใจจริง ๆ หรือ?”
หลี่ยู่พูดด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง “ท่านชายยังกล่าวอีกด้วยว่าเขาดึกดำบรรพ์ทำตัวเอิกเกริกยิ่งใหญ่เช่นนี้ จุดประสงค์ไม่มีทางมุ่งเป้ามาที่เผ่าจี้อย่างเดียวเท่านั้น แต่จักมุ่งเป้าไปที่ทั้งห้วงดาราที่มหาโลกาพันสามคงอยู่!”
