มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2642
หลังจากตกตะลึงไปชั่วขณะ สีหน้าท่าทางของซือถูเซิ่งเจี๋ยก็ได้เคร่งขรึมขึ้นมาอย่างสุดขีด เป็นไปไม่ได้ที่เผ่าจี้จะมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้อยู่
ไม่สิ นี่ไม่ใช่คน! แต่เป็นรูปปั้นบรรพบุรุษของเผ่าจี้!
ในเมื่อเขาดึกดำบรรพ์กล้าแตะต้องเผ่าจี้ ก็ย่อมได้ตรวจสอบและทำความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของเผ่าจี้มาก่อนอยู่แล้ว แดนปริศนาเผ่าจี้เองก็เคยมีคนนอกเข้าไปมาก่อน เป็นธรรมดาที่จะรู้เรื่องรูปปั้นบรรพบุรุษ และรู้ว่ารูปปั้นพวกนั้น ก็คือรากฐานของเผ่าจี้
เพียงแค่แต่ไหนแต่ไรมา รูปปั้นบรรพบุรุษทั้งสามที่แข็งแกร่งที่สุด เผ่าจี้มิเคยได้ใช้มาก่อน
“ตาย!”
ซือถูเซิ่งเจี๋ยลุกพรวดขึ้นมาจากเกี้ยว ผลการฝึกตนปลุกปั่นกรูเกรียวขึ้นมารอบกาย ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์ที่อยู่บนศีรษะได้กลายเป็นเหมือนดั่งอุกกาบาตขึ้นมาในทันที พุ่งเข้ามาหาหลัวซิว
ในเมื่อเข้าสัมผัสได้ถึงอันตรายแล้ว คำพูดที่บอกว่าให้หลัวซิวลงมือก่อนในเมื่อสักครู่ ก็ย่อมจะจริงจังไม่ได้
“เจ้าแห่งเขาดึกดำบรรพ์ก็แค่ขยะที่พูดเหมือนผายลมเท่านั้น”
หลัวซิวเย้ยหยัน ยกมือชี้ไปยังซือถูเซิ่งเจี๋ย หัวไปหาจี้หวูชวงที่อยู่ด้านข้าง กล่าว: “หวูชวง ฆ่าเขาเสีย”
ทันใดนั้นเอง เงาร่างของจี้หวูชวงก็หายไป เหลือเพียงรังสีดาบที่เปล่งประกายสายหนึ่งทิ้งเอาไว้ในอากาศ
ในสายตาของซือถูเซิ่งเจี๋ย เหมือนเขาได้สูญเสียโลกทั้งใบไป ในสายตาของเขา เหลือเพียงรังสีดาบที่สายหนึ่ง ได้กลายเป็นโลกทั้งใบ
วินาทีนี้ โลกทั้งใบไร้ซึ่งสีสัน ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์ที่ถูกซือถูเซิ่งเจี๋ยมองว่าเป็นที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุด เพียงชั่ววินาที ก็ได้ถูกรังสีดาบฟันลงที่ตรงกลาง ขาดออกเป็นสองส่วน แสงสว่างหม่นหมองลง แล้วร่วงหล่นจากท้องฟ้า
ไม่เพียงเท่านี้ อานุภาพของรังสีดาบก็ยังไม่ลดลง ฉีกท้องฟ้าให้แยกออกจากกัน กวาดฟันไปยังช่องอากาศที่อยู่ห่างออกไป
พลัวะ!
ร่างของซือถูเซิ่งเจี๋ยลอยขวางออกไปจากเกี้ยว เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากปากของเขา ในดวงตาเต็มไปด้วยความสะพรึงและหวาดหวั่น เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์จะถูกตัดออกเป็นสองส่วน
จากนั้น ร่างของซือถูเซิ่งเจี๋ยก็ได้สลายกลายเป็นผุยผงไปเช่นเดียวกัน เกี้ยวคันเดิมที่เขานั่งอยู่ถูกลมพัด ได้สลายกลายเป็นฝุ่นละออง
บนท้องฟ้า มีเพียงสตรีในชุดกระโปรงยาวนางนั้นที่ใช้นิ้วแทนดาบ โดดเด่นไร้เทียมทาน!
“ทะยานเซียน……”
หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว ๆ ในช่วงเวลาอันยาวนานมาแล้ว น้อยมาที่จะมีคนรับรู้พลังดาบที่อัศจรรย์เช่นนี้ เพราะคนส่วนมากที่ได้เห็นพลังดาบสายนี้ ล้วนได้ตายไปแล้ว
เซียน เป็นทำนานอันเก่าแก่ ว่ากันว่าในยุคไท่ชูเคยมีเทพมารได้ตามหาร่องรอยของเซียน ตำนานเล่าว่ากลายเป็นเซียนก็จะเป็นอมตะ อิสรเสรี
จี้หวูชวงความสามารถโดดเด่น ได้สร้างดาบทะยานเซียนขึ้นมา แม้กระทั่งคนที่มีพรสวรรค์อย่างไท่ซ่างฉิง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ว่าดาบนี้นั้นอัศจรรย์น่าทึ่งเพียงใด
เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เคยได้เห็นดาบทะยานเซียน กระทั่งที่ว่าจี้หวูชวงได้สลักความสัมผัสรู้ที่นางมีต่อดาบทะยานเซียนลงไปบนม้วนหยกและมอบให้กับเขาในตอนที่เป็นไท่ซ่างฉิง
พลังดาบนี้ มันน่าทึ่งมากเลยจริง ๆ เพราะนี่ไม่ใช่พลังอมตะที่เทพมารทั่วไปจะสามารถสัมผัสได้
เพียงดาบนี้ ได้ทำให้ซือถูเซิ่งเจี๋ยที่เมื่อครู่มั่นใจในตัวเอง มีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมถูกฟันจนกลายเป็นผุยผง ไม่เหลือแม้ร่าง วิญญาณแตกสลาย ภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์ซึ่งเป็นความภูมิใจของเขา ก็เป็นเหมือนอย่างเศษเหล็ก ถูกฟันสลายภายในดาบเดียว
ใช้พลังดาบนี้ออกไป ทำให้เงาร่างของจี้หวูชวงหม่นหมองลงเล็กน้อย เหมือนดั่งเซียนสาวที่กำลังจะโบยบินไป เงาร่างเลือนรางเล็กน้อย
นางหันไปหาหลัวซิว แม้จะเป็นดวงจิตเพียงเล็กน้อยที่นางทิ้งเอาไว้ในเผ่าจี้ แต่กลับเหมือนดั่งว่าดาบทะยานเซียน ได้ปลุกความทรงจำที่หลับใหลมาเป็นเวลานานส่วนหนึ่งของนางขึ้นมา
เงาร่างของนางพลันกะพริบ จากนั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของหลัวซิว ดวงตาเย็นชาไร้ความรู้สึกคู่นั้น จ้องมองใบหน้าหลัวซิวอย่างเหม่อลอย