เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 13

ตอนที่ 13

13.ซ่อมบ้าน

ที่พี่ชายจากหมู่บ้านเดียวกันกล่าวมาเช่นนี้ คล้ายว่ามิได้มี เจตนามุ่งร้าย หรือแม้กระทั่งยกยอปอปั้น ทว่าสำหรับหลี่วเจิน เมื่อมาได้ยิน ก็รู้สึกไม่ชอบใจ หญิงสาวจึงพูดขัดขึ้น “ท่านทั้ง สองคนอุตส่าห์ทุ่มเททำงานหนัก ประเดี๋ยวข้าจะไปซื้อเนื้อมา ทำอาหารดี ๆ ให้กินเป็นมื้อเที่ยงนะ”

ฮูหยินของท่านนี้ ออกจากห้องโถงเมื่อไร ก็เข้าครัวเมื่อนั้น รี? “[1] พี่ชายหมู่บ้านเดียวกันเอ่ยเย้าคู่สามีภรรยา พลาง

หัวเราะดังลั่น

หลิ่วเจินระบายยิ้ม แต่พอเห็นกู้หรูเฟิงมีหน้าตาขัดเขิน หญิงสาวจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปอย่างแนบเนียน

..

อาหารที่เก็บสำรองไว้สำหรับครอบครัว คงไม่สามารถ เอาออกมาเลี้ยงรับรองแขกได้แน่ ทว่าเงินสำหรับซื้ออาหารก็ หามีไม่ ดังนั้นหลิ่วเจินจึงไปหาพี่ใช่ นางมีปิ่นปักผมอันหนึ่งซึ่ง ได้มาตอนแต่งงาน ถึงแม้ไม่ค่อยมีราคาค่างวดนัก ทว่าก็ดูสวย ดี

พี่ใช่ออกปากชมชอบปิ่นอันนี้มาหลายหน นางจึงขายให้ผู้ อื่นแต่โดยดี เมื่อได้เงินมา 2 ตำลึง ก็เอาเงินที่ได้ไปซื้อเนื้อและ สุรามา ซึ่งเนื้อกับปลาเป็นของที่แทบไม่เคยพบเห็นในบ้านนี้

ยามประกอบอาหารมื้อเที่ยง หญิงสาวเอามือลูบคลำเงินที่เหลือในตัว จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม หญิงสาวรู้สึกถึง ความเปรี้ยวฝาดในจิตใจ บางทีนั่นเป็นเพราะ นางไม่เคยมีชีวิต ที่น่าเช่นนี้มาก่อน

ยามอยู่ในยุคสมัยใหม่ นางเคยเจอความทุกข์ยากลำบาก มามากมาย ทว่าก็ยังสามารถมองเห็นความหวังในชีวิต ซึ่งดู คล้ายไม่มีที่สิ้นสุด

ยามนี้หลิ่วเจินกล่าวได้เพียงว่า ตนเองโชคดีนักที่เก็บชีวิต กลับคืนมาได้ เช่นนั้น…จงพอใจในสิ่งที่มีอยู่เถิด

บ้านหลังน้อยไม่ใหญ่โต มีเนื้อที่น้อยกว่า 40 ตารางหมี่ มี การวางเตียงไว้ชิดผนังด้านทิศตะวันออก ข้าง ๆ เตียงมีโต๊ะ กลมเก่า ๆ ๆ เว้าๆแหว่ง ๆ วางอยู่ และก็ไม่พบสิ่งใดอีก ส่วน ฟากตรงข้ามทำเป็นครัว ที่กล่าวว่าเป็นครัว อันที่จริงก็แค่มีเตา อันหนึ่งตั้งอยู่ และเวลาปรุงอาหารจะมีทั้งเขม่าควันทั้งไอน้ำ ลอยฟุ้งออกมา ยามนี้บริเวณนี้ถูกปรับปรุงใหม่แล้ว มีการก่อ ผนังเล็ก ๆ คั่นกลางไว้ ซึ่งทำให้ดูคล้ายมีการแบ่งส่วนแยกเป็น ภายในและภายนอก

สำหรับตรงมุมของผนังบ้านทั้งสี่ด้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ ๆ ลม ชอบทะลุลอดเข้ามาได้นั้น ก็ถูกขัดจนเรียบ อย่างน้อยที่สุดก็ แน่ใจได้ว่าจะไม่หนาวจนแข็งตายในเหมันต์ฤดูแน่ ส่วนพื้นผิว ผนังก็ถูกเช็ดล้างจนขาวขึ้นมาก และดูเหมือนใหม่เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเนื้อที่ในบ้านจะเล็กแสนคับแคบ แต่โชคดีที่เจิน ยังพึงพอใจ

สำหรับลานบ้านเล็ก ๆเช่นนั้น แม้กระทั่งรั้วก็ถูกซ่อมแซมใหม่ให้เชื่อมติดกันอีกครั้ง รั่วทั้งหมดไม่ทรุดโทรมง่อนแง่น และจวนจะพังแหล่มิพังแหล่อย่างแต่ก่อนแล้ว ทั่วทั้งลานเล็ก ๆ เมื่อมองจากด้านนอกเข้ามา แลดูสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ เรียบร้อยดี ตัวบ้านนั้นยังถูกมุงด้วยกระเบื้องมุงหลังคาอย่าง แน่นหนาเพื่อกันลมเข้า ซึ่งมองดูแล้วคล้ายเกล็ดปลาตามที่เห็น ในบ้านหลังอื่น ๆ

การซ่อมแซมบ้านครั้งนี้ ใช้เวลาสองวันจึงแล้วเสร็จ ช่วง ระหว่างซ่อม พอตกกลางคืนเมื่อถึงเวลาเข้านอน หน้าต่างก็ ต้องเปิดไว้ตลอด เพราะฉะนั้นกล่าวได้ว่า การซ่อมบ้านในฤดู หนาว ช่างทรมาทรกรรมดีแท้

หลิวเจินรู้สึกว่าร่างกายตนเองอึดทนดีไม่เลว เหตุผล ประการหนึ่งก็เพราะ นางคุ้นชินกับความทุกข์ยากมาแต่ไหนแต่ โร

ทว่ากู้หรูเฟิงนั้นต่างออกไป อาศัยความทรงจำที่ไม่ปะติด ปะต่อและจากการสนทนากัน คนผู้นี้คล้ายตระกูลเพิ่งประสบ เคราะห์กรรมมาเพียงไม่นาน ส่วนตัวเขาเองต้องหลบหนีออก มา และระเหเร่ร่อนมาไกลจนถึงสถานที่แห่งนี้

เพราะผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านนี้ เห็นอีกฝ่ายเป็นบัณฑิต จึง ไปเสาะหาบ้านว่างหลังเล็ก ๆ ที่ไม่มีเจ้าของให้เขาอยู่อาศัย เพียงแต่ช่างน่าสงสารนัก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาไม่ทันไร ก็ ถูกหลิ่วเจินผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมถูกตาต้องใจ ตามมาด้วยการ มอมยาจนสลบ แล้วปืนเตียงกู้หรูเฟิง และมีขาวบ้านใน หมู่บ้านมาเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงาน ซึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้ว
อนิจจาเพียงผ่านพ้นไปไม่ถึงสองวันครึ่งของช่วงข้าวใหม่ ปลามัน ทั้งสองเริ่มทะเลาะเบาะแว้งกัน นั่นคือ อยู่ในช่วงครึ่ง เดือนที่หลิ่วเจินเดินทางผ่านมาพอดี จนนางได้เข้ามาสวมร่าง ฝ่ายหญิงแทนในที่สุด

ที่บ้านนี้ไม่เลี้ยงสุนัข มีแค่แม่ไก่สองตัวที่ถูกเลี้ยงไว้

ทุก ๆ วันหลิ่วเจินจะคอยเฝ้าดูแม่ไก่สองตัว พร้อมกับ น้ำลายไหลไปด้วย วันนี้หลังออกไปให้

อาหารแม่ไก่มา นางก็ง่วนอยู่กับงานบ้านไปพักใหญ่ ทันใดนั้นก็พลันรู้สึกว่าวันนี้ไม่เห็นกู้หรูเฟิงเลย

ที่บ้านมีลานหน้าบ้านและหลังบ้าน หลิ่วเจินอยู่ในลาน หน้าบานตลอดเวลา และก็คิดว่า

อีกฝ่ายคงเดินจากไปทางลานหลังบ้าน

หญิงสาวไม่เคยคิดว่าคนผู้นี้จะจากไปอย่างเงียบ ๆเช่นนี้

หลิ่วเจินยืนอยู่ในห้องที่ว่างปล่า หญิงสาวพ่นลมหายใจ ออกมาอย่างขุ่นมัว อันที่จริง แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คนสองคนมี ปฏิสัมพันธ์กันได้ไม่กี่วัน มิตรภาพก็ยังไม่ถึงขั้นลีกซึ้ง หนำซ้ำ

ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้ากันได้ดีไปเสียทั้งหมด การแยกย้ายไปตาม

ทางของตนตั้งแต่เนิ่น ๆ นับว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน

(1] เปรียบเปรย ถึงสตรีที่เก่งกาจทั้งงานนอกบ้าน และ

งานในบ้าน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน