มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2716 เขากรองแก้วมรกตดั้งเดิม
เมื่อได้ยินว่าสามารถเข้าไปในแดนเทียนฮวง ก็มีความดีใจปรากฏบนใบผู้คนที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก เมื่อรวมหลัวซิวและลิ่งฮู๋จื่อเซวียนแล้ว ก็มีเพียงห้าร้อยกว่าคนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไปในแดนเทียนฮวง
ในบรรดาวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั้งสองแสนกว่าคน สุดท้ายเหลือเพียงห้าร้อยกว่าคนเท่านั้น จึงเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าการที่จะได้เป็นศิษย์ของตระกูลเทียนฮวงนั้น มันยากลำบากมากเพียงใด
แต่ว่าหากอยากเป็นศิษย์ของตระกูลเทียนฮวงจริง ๆ ยังต้องรอให้ออกมาจากแดนเทียนฮวงก่อน แดนเทียนฮวงเป็นดินแดนเก่าในยุคไท่ชู ถึงแม้จะไม่อันตรายปานแดนบรรพกาล แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ดี ๆ อย่างแน่นอน จำนวนคนที่เข้าไปมีห้าร้อยกว่าคน ผู้ที่สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้นั้น ยังจะน้อยกว่านี้อีก
ถึงแม้จะรู้ว่าแดนเทียนฮวงอันตรายก็ตาม แต่การคัดเลือกอัจฉริยะในทุก ๆ ครั้ง ก็จะมีวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่นับไม่ถ้วนมาเข้าร่วมอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากคนธรรมดาทั่วไปไม่กล้าเข้าไปในแดนบรรพกาล มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้าก็ต้องพิจารณาศักยภาพของตัวเองดี ๆ
แดนเทียนฮวงเป็นส่วนหนึ่งของแดนบรรพกาล ซึ่งมีโชคและโอกาสคงอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แดนเทียนฮวงถูกควบคุมอยู่ในกำมือตระกูลเทียนฮวง ทว่าตระกูลเทียนฮวงก็ไม่สามารถสำรวจทั้งแดนเทียนฮวงได้เช่นกัน
สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญที่สุดคือมีเพียงจอมยุทธ์ที่อยู่ต่ำกว่าเทพมารระดับเก้าเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปในแดนเทียนฮวงได้ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเข้าไปทำลายสมดุลในแดนเทียนฮวง การที่ทุกคนจะได้รับโชคโอกาสแบบใดนั้น ก็ล้วนขึ้นอยู่กับศักยภาพของตนเองแล้ว!
“นายท่าน ถูโยวหมิงและซูเสว่หลันจากไปแล้ว”
เมื่อลาร์บอกข่าวคราวนี้ให้หลัวซิว หลัวซิวไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนที่เขาจะเข้าไปในแดนเทพโบราณ เขาก็คาดเดาผลลัพธ์นี้ได้แล้ว
“โยวหมิงเอ๊ยโยวหมิง เจ้าต้องถูกสตรีนางนั้นหลอกถึงเมื่อไหร่ เจ้าถึงจะรับผิดแล้วพร้อมปรับแก้ไข?”
หลัวซิวส่ายหน้า ถูโยวหมิงถูกซูเสว่หลันหลอกแล้วจากไปง่ายเช่นนั้น ช่างทำให้เขารู้สึกผิดหวังจริง ๆ
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะรู้สึกผิดหวัง เขาก็กำชับให้ลาร์เอายันต์ทะลุฟ้าระดับแปดให้ถูโยหมิงหนึ่งชิ้น เพื่อเอาไว้คุ้มกันชีวิตตนเองอยู่ดี
ต่อมาวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศทั้งหมดที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก ล้วนนั่งเรือรบดาราของตระกูลเทียนฮวงมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งที่ตั้งของแดนเทียนฮวง
หากอิงจากหลักการทั่วไป ลาร์ไม่สามารถเดินทางไปยังแดนเทียนฮวงพร้อมกับหลัวซิวได้ ทว่าหลัวซิวกลับมีวิธีที่สามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบของผู้อาวุโสราชาเทพทั้งสี่อยู่
ตำหนักวัฏสงสารเป็นของวิเศษที่กลายมาจากเศษกงล้อวัฏจักรธรรม อาศัยระดับฝีมือด้านวิถีค่ายของหลัวซิว การที่จะนำตัวลาร์ซ่อนไว้ด้านในแล้วไม่ให้มีออร่าใด ๆ รั่วไหลออกมานั้น ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ขณะที่หลัวซิวเดินขึ้นบนเรือรบดารา เขาสัมผัสได้ว่ามีสายคู่หนึ่งได้จับจ้องมาทางตนเอง เขาจึงหันหน้ากลับไปทันที แล้วมองเห็นสายตาที่มีจิตสังหารอันรวดเร็วและดุดันของชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่อยู่ในหมู่คนที่อยู่ห่างไกลออกไป ผนึกมาทางตัวเอง
ชายวัยกลางคนนั่นไม่ใช่ผู้อื่น ซึ่งเขาก็คือถังกู่สง เจ้าสำนักแห่งสำนักสรรพอสูรนั่นเอง จากศักยภาพและภูมิฐานของสำนักสรรพอสูร ไม่มีวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศคนใดสามารถผ่านการคัดเลือกในรอบแรกได้เลย หลัวซิวเดินขึ้นเรือรบของตระกูลเทียนฮวง จึงต้องได้รับการคุ้มครองจากตระกูลเทียนฮวงอยู่แล้ว ถังกู่สงจึงทำได้เพียงถลึงตามองอย่างเดียว
หลัวซิวไม่ได้นำถังกู่สงมาใส่ใจ การเดินทางไปยังแดนเทียนฮวงในครั้งนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็ เขามีโอกาสเจอโชคโอกาสที่สามารถทำให้ตัวเองบรรลุถึงเทพมารระดับเจ็ดสูงมาก ถึงครานั้นหากมีผลการฝึกตนเทพมารระดับเจ็ด เมื่ออาศัยอุบายไพ่เด็ดที่ตัวเองยึดกุม ถึงแม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพมารระดับเก้าทั่วไป แต่ก็สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้แล้ว
บนเรือรบ ทุกคนล้วนมีห้องนอนเดี่ยวของตัวเอง ผ่านไปไม่นานนัก ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็มาถึงห้องนอนของหลัวซิว
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระเช่นกัน หยิบม้วนยกชิ้นหนึ่งออกมาวางตรงหน้าหลัวซิวแล้วพูด: “สหายหลัวดูม้วนหยกชิ้นนี้ก่อนได้”
หลัวซิวไม่ได้คาดหวังอะไร หยิบม้วนหยกขึ้นมาแล้วใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจ พบว่าด้านในมีแผนที่สลักอยู่หนึ่งรูป ตัวแผนที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง แต่ก็ดูร่องรอยเส้นทางต่าง ๆ ออกอยู่ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วลมหายใจ หลัวซิวก็จดจำทั้งแผนที่เอาไว้ได้แล้ว
“ตั้งแต่สิ้นสุดยุคมหาเทพเสินหวง จะมีการคัดเลือกอัจฉริยะในทุก ๆ หนึ่งร้อยปี ตระกูลลิ่งฮู๋ของเราก็เคยเข้าไปเช่นกัน จึงสลักวาดม้วนหยกชิ้นนี้ขึ้นมาโดยอ้างอิงจากความทรงจำ ตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายอยู่บนม้วนหยก มีภูเขาหินแก้วดั้งเดิมหนึ่งลูก!”
เมื่อเห็นว่ากำลังจะเดินทางไปแดนเทียนฮวงแล้ว ในที่สุดลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็บอกจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ของเขาออกมาสักที
“ภูเขาหินแก้วดั้งเดิม?”หลัวซิวยักคิ้วทีหนึ่ง เขาก็คิดว่าจะเป็นโชคโอกาสที่ยิ่งใหญ่เพียงใดซะอีก ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเพียงภูเขาหินแก้วดั้งเดิมลูกหนึ่งเท่านั้น
แต่ทว่าเมื่อลองคิดดี ๆ สำหรับผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนแล้ว ภูเขาหินแก้วดั้งเดิมหนึ่งลูกก็ถือเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ แล้ว ภูเขาหินแก้วดั้งเดิมมีทั้งเล็กและใหญ่ ทว่ามาตรแม้นว่าเป็นภูเขาหินแก้วดั้งเดิมที่เล็กที่สุด ก็มีหินแก้วดั้งเดิมเป็นสิบล้านก้อนอย่างแน่นอน
“กรองแก้วมรกตหรือกรองแก้วม่วง?”หลัวซิวถามอย่างเรื่อยเปื่อย
“กรองแก้วมรกต! หากเป็นกรองแก้วม่วงก็ดีสิ”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหลุดหัวเราะออกมา ภูเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมลูกหนึ่งก็หาพบได้ยากมากแล้ว เขาไม่เคยเพ้อฝันถึงภูเขากรองแก้วม่วงหรอกนะ
ในบรรดาหินแก้วดั้งเดิม ระดับของกรองแก้วมรกตต่ำที่สุด กรองแก้วม่วงดีกว่า และกรองแก้วโลหิตเป็นระดับชั้นยอด
“ขณะที่เข้าไปในแดนเทียนฮวง เราจะถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยการสุ่ม ถึงครานั้นเราค่อยไปเจอกันที่หุบเขาแห่งหนึ่งที่บันทึกอยู่บนแผนที่ม้วนหยก”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ส่วนหลัวซิวกลับกำลังคำนวณมูลค่าของภูเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมอยู่ในใจ อ้างอิงจากภูเขากรองแก้วมรกตลูกหนึ่งสามารถกำหนดแบ่งกรองแก้วมรกตออกเป็นสิบล้านก้อน ถึงแม้เขาและลิ่งฮู๋จื่อเซวียนจะแบ่งกันคนละครึ่ง เขาก็สามารถครอบครองกรองแก้วมรกตห้าล้านก้อนเช่นกัน
“เพียงพอที่จะสามารถทำให้ข้าฝึกถึงเทพมารระดับหกขั้นสูงแล้ว!”หลัวซิวหรี่ตาลง ทรัพยากรอย่างกรองแก้วมรกตดั้งเดิมดีเลิศกว่าโอสถแก่นแท้หนึ่งระดับ ผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับแปดส่วนมากล้วนใช้โอสถแก่นแท้ในการฝึกตน ผู้ที่มีปัญญาใช้กรองแก้วมรกตนั้นมีน้อยมาก
หลัวซิวไม่มีความคิดเห็นใด ๆ ต่อข้อเสนอแนะของลิ่งฮู๋จื่อเซวียน อดีตเขาเคยไปแดนบรรพกาลมาก่อนจริง ๆ สมบัติอย่างเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมนั้น เป็นสิ่งที่แทบจะสามารถหาพบได้ในทุกจุดของแดนบรรพกาล ขณะที่เป็นไท่ซ่างฉิง เขาเบื่อที่จะชายตาลงไปมองด้วยซ้ำ
ถึงแม้แดนเทียนฮวงจะเป็นดินแดนเก่าผืนหนึ่งในยุคไท่ชูที่ถูกแบ่งแยกออกมาจากแดนบรรพกาล หลัวซิวเชื่อว่าภายในต้องมีของล้ำค่าคงอยู่เยอะมากแน่นอน ซึ่งไม่ได้มีเพียงสมบัติระดับต่ำอย่างเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิมแน่นอน
หากไม่มีสิ่งใดที่มีค่าละก็ ไยมหาเทพเสินหวงจึงต้องทุ่มแรงกายแรงใจยกมันกลับมาด้วย?
ความเร็วในการโบยบินของเรือรบดารารวดเร็วมาก ๆ ในระหว่างนี้ ผู้อาวุโสราชเทพทั้งสี่ก็ไม่ได้มาหาหลัวซิวเช่นกัน ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ที่มีผลการประเมินดีที่สุดในการคัดเลือกรอบแรก แต่สำหรับพวกอาวุโสใหญ่ทั้งสี่แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้สนใจตัวเขามากเท่าไหร่นัก อย่างไรเสียใช่ว่ามีพรสวรรค์และศักยภาพแล้ว อนาคตจะสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้เสมอไป
หลังจากผ่านไปสามวัน เรือรบดาราก็มาถึงตระกูลเทียนฮวง
ตระกูลเทียนฮวงไม่ได้ตั้งอยู่บนดาราดวงใดดวงหนึ่ง แต่ตั้งอยู่ในแดนปริศนาแห่งหนึ่ง
แดนปริศนาที่กล่าวถึงนั้น ก็คือพื้นที่ปริภูมิที่ผู้แข็งแกร่งบุกเบิก มีฟ้าดินผืนหนึ่งแฝงซ่อนอยู่ภายใน ยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีผลการฝึกตนสูงเท่าไหร่ ปริภูมิแดนปริศนาที่บุกเบิกออกมาก็จะกว้างขวางมากเท่านั้น เกณฑ์ฟ้าดินที่แฝงซ่อนอยู่ภายในก็จะสมบูรณ์แบบมากกว่าด้วย
แดนปริศนาของตระกูลเทียนฮวงย่อมต้องเป็นปริภูมิที่มหาเทพเสินหวงบุกเบิกออกมาอยู่แล้ว ซึ่งตั้งอยู่ในจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล
ยิ่งกว่านั้นคือมหาเทพเสินหวงได้ย้ายพสุธาห้วงดาราผืนหนึ่งมานอกแดนปริศนาด้วย และทำการสร้างคูเมืองที่นี่ ซึ่งเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง ผู้คนส่วนมากที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็เป็นสมาชิกภายของตระกูลเทียนฮวงเช่นกัน ซึ่งไม่มีสิทธิ์เข้าไปในปริภูมิแดนปริศนา
ทุกคนลงมาจากเรือรบ จากนั้นก็รวมตัวกันอยู่บนสนามจัตุรัสแห่งหนึ่ง
“เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวงมาแล้ว!”
จากการที่มีเสียงตะโกนเสียงหนึ่งดังขึ้น ก็มีเงาร่างสูงโดดเด่นร่างหนึ่งที่ถูกปกคลุมอยู่ในรัศมีเทวที่แวววาวจับตาปรากฏบนแท่นบูชากลางสนามจัตุรัส
มีพลังออร่าที่แข็งแกร่งและมากมายมหาศาลแผ่กระจายออกมาจากตัวเขา แต่ทุกคนล้วนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าด้านหลังเขามีกงล้อเทพเจ็ดวง!
กงล้อเทพห้าวงคือราชันย์ กงล้อเทพหกวงคือมกุฎ กงล้อเทพเจ็ดวงคือจักรพรรดิ!
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวงท่านนี้อยู่ในแดนจักรพรรดิเทพเจ็ดวง!
“กราบคารวะเจ้าศักดิ์สิทธิ์!”
ทุกคนล้วนตะโกนเสียงดังพลางทำความเคารพ มาตรแม้นว่าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ทั้งสี่ที่พาพวกหลัวซิวมาถึงที่นี่ ก็ต่างทำความเคารพอย่างเคารพนอบน้อมเช่นกัน
เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวงยิ้มพลางพยักหน้า “ลำดับแรกขอแสดงความยินดีกับเหล่าวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกแล้วมาถึงที่นี่ บางทีสักวันในอนาคต ในบรรดาพวกเจ้าก็อาจจะมีคนกลายเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเทียนฮวงข้าได้เช่นกัน”
“ข้าก็ไม่อยากพูดคำพูดที่มันไร้ความจำเป็นแล้ว ข้าคิดว่าพวกเจ้าก็อยากเข้าไปในแดนเทียนฮวงเร็ว ๆ เช่นกัน คอยพวกเจ้ามีชีวิตรอดออกมาจากแดนปริศนา การที่พวกเจ้าจักเข้าร่วมตระกูลเทียนฮวงของข้าหรือไม่นั้น ล้วนขึ้นอยู่กับความสมัครใจของพวกเจ้าทุกคน!”
พอสิ้นเสียงเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวง ก็มีค่ายรัศมีดาราที่ใหญ่โตมโหฬารปรากฏกลางนภา และค่ายรัศมีดารานี่ก็คือทางเข้าของแดนเทียนฮวง
พวกหลัวซิวที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกแล้วมาถึงที่นี่ต่างไม่เข้าใจสถานการณ์เลย เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้ทำอะไรบุ่มบ่าม ทว่าเหล่าศิษย์แห่งตระกูลเทียนฮวงที่จะเข้าไปในแดนปริศนาในครั้งนี้ กลับลอยตัวขึ้นฟ้าหมดแล้ว ก่อนจะร่วงลงบนค่ายรัศมีดาราแล้วหายวับไป
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็ไม่ลังเลใจอีกต่อไป ต่างพากันบินขึ้นไป
หลัวซิวและลิ่งฮู๋จื่อเซวียนก็บินตามอยู่ด้านหลังกลุ่มคนด้วย เมื่อร่วงลงบนค่ายรัศมีดารา ก็มีแรงโคจรที่มากมายมหาศาลผนึกรวมมาจากทั่วทุกสารทิศ ถัดจากนั้นฟ้าดินก็เริ่มหมุน ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าห้วงเวลาเริ่มกลับตาลปัตรขึ้นมา
ระยะเวลาการวาร์ปในครั้งนี้ค่อนข้างยาว ตกลงแดนเทียนฮวงตั้งอยู่ที่ใดนั้น เป็นความลับหนึ่ง อิงจากระยะเวลาการวาร์ปที่สั้นและยาว หลัวซิวพอจะสามารถคาดการณ์ได้อยู่ว่าแดนเทียนฮวงน่าจะห่างจากตระกูลเทียนฮวงไกลมากจนไม่อาจเปรียบเทียบได้อย่างแน่นอน
หลังจากสิ้นสุดการวาร์ป หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงพลังออร่าที่โบราณเก่าแก่ สิ่งที่เขามองเห็นคือแผ่นดินใหญ่เก่าแก่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ทุกจุดเต็มเปี่ยมไปด้วยความรกร้างว่างเปล่า
“เป็นออร่าในยุคไท่ชูจริง ๆ ด้วย”
ความทรงจำของหลัวซิวคุ้นเคยต่อพลังออร่าพิเศษนี้มาก ๆ เนื่องจากพลังออร่าประเภทนี้คงอยู่แค่ในยุคไท่ชูเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย ๆ
เขาแผ่ขยายตัวสำนึกออกไป ก่อนจะแผ่คลุมพื้นที่บริเวณโดยรอบหนึ่งแสนไมล์อย่างรวดเร็ว เขาสัมผัสออร่าของจอมยุทธ์อื่น ๆ ไม่ได้เลย จึงแสดงให้เห็นเลยว่าพื้นที่ของแดนเทียนฮวงแห่งนี้กว้างใหญ่มาก ทุกคนล้วนถูกส่งไปยังสถานที่นิรนามโดยการสุ่ม
ถึงแม้เขาเมื่อชาติปางก่อนจะเคยไปแดนบรรพกาล แต่พื้นที่ในแดนบรรพกาลกลับกว้างขวางมากกว่า และยังมีสถานที่อีกหลายสถานที่ที่เขาไม่เคยไป เพราะฉะนั้นแล้วแดนเทียนฮวงนี่ก็เป็นเขตพื้นที่แปลกหน้าสำหรับหลัวซิวเช่นกัน
ก้าวเดินอยู่บนแผ่นดินใหญ่ที่รกร้างว่างเปล่านี้ หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน หลัวซิวก็มองเห็นป่าเขาที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ต้นไม้ของที่นี่สูงใหญ่มากจนเหลือเชื่อ ราวกับเสาเทวที่ค้ำสวรรค์อยู่ยังไงอย่างนั้น
พันธุ์ไม้ประเภทนี้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่สิ้นสุดยุคไท่ชูแล้ว จะหาพบได้แค่บนดินแดนเก่ายุคไท่ชู
มีแผนที่ที่ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนให้ผุดขึ้นมาในหัวหลัวซิว แต่แผนที่นี้ก็ไม่มีทางครอบคลุมทั้งแดนเทียนฮวง หลัวซิวไม่พบเอกลักษณ์สภาพพื้นดินที่ใกล้เคียงกับบนแผนที่เลย
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเขายังไม่เจอสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับแผนที่ มีเพียงเจอสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ถึงจะสามารถอ้างอิงจากแผนที่ แล้วพบทิศทางที่แม่นยำของภูเขากรองแก้วมรกตดั้งเดิม