เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน – ตอนที่ 46

ตอนที่ 46

46.ขึ้นเขา

มีเงินไม่มากพอให้ใช้สอยตามใจชอบ ก็ต้องคอยดิ้นรนหามา หากไม่ใช้เงินลงทุน ก็ต้องใช้แรงกายเป็นทุน

“ข้าจะขึ้นเขากับเจ้า” กู้หรูเฟิงเอ่ย

หลิวเจินจ้องหน้ากู้หรูเฟิงเขม็ง พลางวางตะเกียบลง “ท่าน ยังต้องพักอยู่ที่บ้านให้มาก ๆ อย่าทำให้ข้าวุ่นวายเป็นดี และ ก็ห้ามตามข้าไปด้วย ขาท่านยังไม่หายดีเลย หากยังตามขึ้นเขา คงไม่แคล้วรนหาที่ตาย”

นี่แสดงว่านางต้องการหลบเลี้ยงเขา เห็นเขาเป็นตัวถ่วงรี?

ทว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่อยากอุทิศกำลังกายอันพอจะมี อยู่บ้าง คอยช่วยเหลืออะไรเล็ก ๆ น้อยๆ ไม่อยากให้นางต้อง มาตรากตรำทำงานหนักแบบนี้ตามลำพัง ไม่เพียงเท่านั้น ชีวิต เขาพึ่งพาหลิ่วเจินทุกอย่าง อย่างไรเสียก็ควรตอบแทนกลับคืน บ้าง

ชั่วเวลาไม่นานมานี้ หลิ่วเจินปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี เขา คอยรำลึกอยู่ในใจเสมอ

“ทว่าเจ้าเดินขึ้นเขาไปเองคนเดียว มันอันตรายมากนะ มี คนไปเพิ่ม ก็ยิ่ง…

กู้หรูเฟิงยังพูดไม่ทันจบ หลิ่วเจินก็ส่งสัญญาณห้าม หาก ท่านไป ข้าก็ต้องมาคอยดูแลท่าน คราวก่อน ท่านก็พูดแบบนี้ แล้วเป็นไงเจอคบติเหลเคือนไปได้คอกมา คชานี้ไม่ได้แลหรอก พูดไปก็ฟังไม่ขึ้น หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นจริง ๆ จะ กลายเป็นว่าข้าจงใจฆาตกรรมสามี และคงจะล้างมนทินไม่ได้ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ตาม และอย่างน้อยก็มีเด็กสาวตัวน้อย คนหนึ่งที่อยากสังหารข้าจริง ๆแน่”

เด็กสาวตัวน้อยที่หลิ่วเจินหมายถึงก็คือเซียงเช่า หากกู้หรู เฟิงเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ เซียงเช่าคงอยากปลิดชีพนางเป็น แน่ แล้วยิ่งตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางคมเขี้ยวของ พายุข่าวลือต่าง ๆ นา ๆ แล้วแต่จะเสกสรรปั้นแต่งตามใจชอบ ซึ่งสามารถกลบทั้งสองคนจนมิดได้

ดีที่สุดคืออย่าไปสร้างปัญหาเพิ่มอีกในอนาคตอันใกล้นี้

“เจ้าต้องไปเองด้วยรี?” กู้หรูเฟิงตระหนักแล้วว่า หลิ่วเจิน คงไม่ปล่อยให้เขาไปด้วยแน่ แต่เขาก็ยังหวังว่าหลิ่วเจินจะ คล้อยตาม ต่อให้รออีกฝ่ายอยู่ที่ตีนเขา เขาก็เอา

หลิ่วเจินพยักหน้าโดยไม่ลังเล ทำให้ความหวังสุดท้าย ของกู้หรูเฟิงพังครืน

“เช่นนั้น เจ้าจะให้ข้าอยู่ที่บ้านรอเจ้ากลับมาหรือ?” กู้หรู เฟิงถาม

“ย่อมเป็นเช่นนั้น อีกอย่าง อยู่บ้านท่านก็ปัดกวาดเช็ดถู บ้านให้สะอาด และก็กวาดหิมะข้างนอกด้วย – หลิ่วเจินกล่าว คำพูดนี้ออกมาอย่างไม่เกรงใจกันเลย นางมีหน้าที่ทำงานนอก บ้าน ส่วนเขามีหน้าที่ทำงานในบ้าน

ก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกตินี้

ปกติตำแหน่งงานในบริษัทมันก็โยกย้ายสับเปลี่ยนกันได้อยู่แล้ว

“เจ้าคนเดียว จะกลับมาพร้อมข้าวของมากมายบนหลังได้ อย่างไร?” หากเจ้าแบกไม่ไหว ไม่เช่นนั้นก็ให้ข้าช่วยดีหรือไม่? กู้หรูเฟิงถาม

หลิ่วเจินไม่อยากสนใจกู้หรูเพิงที่คอยเข้าชี้อีกแล้ว “ข้าไม่ อยากตอบคำถามท่านแล้ว ท่านกำลังกังขาในความสามารถ ของข้าละสินะ

แล้วจะทำไม? เลิกดูถูกผู้หญิงเสียทีได้ไหม?

ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก็พบว่าความสามารถของตนเองมี จำกัด กลับมาแต่ละที ก็ขนวัตถุดิบมาได้ทีละนิดเช่นนี้ หากเกิด ต้องการผลิตปริมาณมาก ๆขึ้นมา ย่อมทำไม่ได้ ในเมื่อเป็น แบบนี้ การใช้กลยุทธ์การตลาดแบบกระตุ้นความอยากของ ลูกค้า[1] นับเป็นวิธีที่ไม่เลวเลย

พอหลิ่วเจินขบคิดถึงตรงนี้ ก็เริ่มคิดว่าทำอย่างไรจะให้ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นที่รู้จักของผู้คน? เหนืออื่นใด ในยุคสมัยใหม่ มี การทดลองใช้กลยุทธ์การตลาดแบบกระตุ้นความอยากของ ลูกค้า ซึ่งวิธีแบบนี้มักทำให้รายได้เพิ่มเป็นสองเท่า

แม้จะกล่าวได้ว่าการขายของให้ชาวบ้านโดยใช้วิธีนี้นับ ว่าไม่ดีนัก แต่ตราบใดที่ราคาตั้งไม่เหวี่ยงจากราคาปกตินัก ก็ ไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด

ภายหลังกู้หรูเฟิงพูดมาอีกคำหนึ่ง หลิ่วเจินก็ไม่ฟังอีก หญิงสาวยังคงตั้งหน้าตั้งตากินอาหารต่อไป
ตกทำการเตรียมข้าวของที่ต้องใช้สำหรับ การขึ้นเขาในวันพรุ่งนี้ ขณะที่กู้หรูเฟิงเองก็คอยตามอง อีกฝ่าย ด้วยอยากเข้าไปช่วยเหลือ แม้นกายเขาจะอ่อนแอ แต่ ใจนั้นเต็มร้อยนะ

ในครั้งแรกหญิงสาวขนของกลับมาหนึ่งตระกร้า ครั้งนี้ นางอยากลองเอาไปเพิ่มอีกหนึ่งตระกร้า ส่วนหนึ่งเก็บไว้กินเอง ส่วนหนึ่งเอาไปขาย ภายในหัวหลิ่วคิดแก้ว คำนวณแผนการทุกรูปแบบ

?” กู้หรูเฟิงเห็นหลิ่วเจินจมอยู่ในคิด จึงร้อง

เรียก

หลิ่วเจินจึงหลุดจากภวังค์ แล้วมองว่างเปล่า “มีอันใด?”

Hunger Marketing กลยุทธ์ให้ ลูกค้า เป็นวิธีสร้างความเร้าใจให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการ สิ่งนั้นอย่างที่สุดจนถึงขั้นแย่งกันซื้อสินค้าหรือบริการ และบ่อย ครั้งที่วิธีการนี้จะกระตุ้นผู้บริโภคให้ซื้ออารมณ์” ไม่ใช่ “เหตุผล” กลยุทธ์นี้จึงมักถูกนำมาใช้เพื่อความเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตออกมาในปริมาณ จำกัด ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกว่าสินค้านั้นเป็นของหายาก

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

เจ้าชายที่มีเสน่ห์ของฉัน

แคว้นอันเป็นแคว้นที่ได้ชื่อว่าเป็นปึกแผ่นมั่นคง และมั่งคั่ง อย่างที่สุด แต่เรื่องทั้งหมดนี้ หาได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับชาว บ้านในแถบหุบเขาต้าชานเลย หุบเขาอันสลับซับซ้อนนี้ เป็นที่หลบซ่อนของบรรดานกและ สัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มากมายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้คน แทบไม่กล้าเข้าไปเยือน แม้กระทั่งพรานป่าฝีมือฉมัง ก็ยัง ต้องเข้าไปเป็นกลุ่ม กลุ่มละสองคนบ้าง สามคนบ้าง บาง ครั้งบางคราพวกเขาอาจต้องฝังร่างไว้ในปากของเหล่า หมาป่า ดังนั้นผู้คนที่กล้าย่างกรายเข้าไปจริง ๆ จึงมีน้อย เสียยิ่งกว่าน้อย บรรดาชาวบ้านที่ตั้งรกรากในแถบเชิงเขา ต่างต้องดิ้นรน หาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่พึ่งพิงผืนดินเนื้อที่ไม่กี่หมู่เพื่อเลี้ยง ดูคนทั้งครอบครัว กล่าวได้ว่าหากผู้ใดไม่ทำไร่ ก็ย่อมไม่มี กิน ถึงกระนั้น พืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ส่วนใหญ่ ยังต้องถูกแบ่ง ไปจ่ายภาษีอีกปีไหนจะมีกินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์ เมตตาเป็นสำคัญ อีกไม่ช้า ก็จะถึงเวลาหิมะตกหนักปกคลุมหุบเขาอีกครา แต่ละครอบครัวล้วนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม ลามเลียไปทั่วทุกหย่อม หญ้า “ลองคิดดูสิ เมื่อถึงยามหิมะปกคลุมไปทั่วภูเขา เรา จะไม่มีอะไรยาไส้ไปสามถึงสี่เดือนเลยนะเพลานี้ทั้งบ้าน เหลือข้าวอยู่เพียงครึ่งไห แล้วอย่างนี้จะอยู่รอดต่อไปไหว รี ท่านก็เอาแต่วาดรูปอยู่นั่นแหละ กู้หรูเฟิง…ท่านจะทำตัว เป็นคุณชายตระกูลสูงไปถึงไหน!” ฝ่ายหญิงตวาดแว้ด พลางกวาดกระดาษและแท่นหมึกบนโต๊ะลงพื้นจนน้ำหมึก สาดกระเซ็นไปทั่ว มิหนำซ้ำแท่นหมึกยังแตกกระจายเป็น เสี่ยงๆอีกด้วย บุรุษร่างผอมบาง มีนามว่ากู้หรูเฟิง เขามีใบหน้าซูบ ขาวซีด แถมบนใบหน้าปรากฏรอยแผลเป็นเด่นชัด ซึ่งมี ลักษณะเป็นเส้นสายสีดำตั้งตรง แต่ถึงกระนั้นที่หว่างคิ้วยัง ปรากฏความสง่างาม ให้เห็นอยู่รางๆ เมื่อชายหนุ่มเห็นข้าวของที่ถูกกวาดกระจายลงพื้น ให้รู้สึกปวดใจนัก ใคร่อยากจะเก็บขึ้นมา ทว่าในเสี้ยวเวลา นั้น ความปวดร้าวเสียดแทงพลันวาบขึ้นมาบนขา ประหนึ่ง ถูกเข็มที่มแทงนับพันเล่ม ทำให้ชายหนุ่มอดนิ่วหน้าไม่ได้ แต่ทั้ง ๆ ที่เจ็บปวดสุดแสน ก็ยังสามารถมองเห็นเค้าหน้า หล่อเหลาคมคายนั้นได้ องคาพยพทั้งห้าก็แสนวิจิตร ซึ่ง เป็นความงดงามที่ไม่ควรปรากฏให้เห็นในหมู่บ้านชายขอบ แห่งนี้เลย ชายหนุ่มหายใจหอบ “ข้าคิดวาต 2 ภาพนี้ แล้วจะ ลองเอาไปเร่ขายดู เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินมาซื้ออาหารได้ บ้าง” หญิงสาวส่งสายตาดูแคลนไปให้ “ภาพวาดนี่มี ประโยชน์อันใดรี? เอาไปกินเอาไปดื่มก็ไม่ได้ ซ่างโง่เง่าเต่า ตุ่นอะไรเยี่ยงนี้! ทำไมข้าถึงได้แต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องอย่าง ท่านได้นะ? !” กู้หรูเฟิงมีสีหน้าหม่นหมอง คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยาม นี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เขาเอ่ยอย่างอัดอั้น “เช่นนั้นแล้ว ก่อน เจ้าแต่งให้ข้า ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้าทำไร่ไม่เป็น อีกทั้งยัง สุขภาพไม่ดี “ว่าอย่างไรนะ เอาแต่กล่าวหาข้า ตัวท่านเองก็ไม่ได้ ดีไปกว่ากันเลย ยังจะมาตำหนิข้าอีกรี?” ฝ่ายภรรยาทำหน้า นิ่วส่งสายตาเย็นชาไปให้เดิมทีนางได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อน หวานน่ารักมาแต่กำเนิด แต่ถ้าได้โกรธขึ้นมาละก็ ดวงตา จะเหลือกขวาง ใบหน้าดูคล้ายนางมารร้ายข่างข่มขวัญ ผู้คนยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มหน้า ด้วยความเบื่อหน่ายเหลือแสน “หากเจ้าอยากไปจากข้าข้าก็จะให้เจ้าไป” “เพ้ย ท่านนี่..วาจาเน่าเหม็นน่าละอายเช่นนี้ ก็ยัง กล่าวออกมาได้ ข้าแต่งให้ท่านแล้ว ร่วมเรียงเคียงหมอน กับท่านแล้ว ท่านจะให้ข้าแต่งออกไปกับใครได้อีกรี?! ” หญิง สาวแสนคับแค้นใจนางนั่งแปะลงบนพื้น พลางร่าไห้เสียง ดัง “สวรรค์ข่างไม่มีตาจริง ๆ ไยถึงส่งบุรุษไร้ค่าเช่นนี้มา เป็นสามีข้าด้วย? มิหนำซ้ำยังไม่รู้จักรับผิดชอบ แต่งกับข้า แล้ว ก็ยังทำผิดต่อข้า! ปล่อยให้ข้าอดมือกินมื้อ! ซ้ายังจะทิ้ง ข้าไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่เห็นท่านมักชอบส่งสายตาให้เชี ยงเช่าที่ลานหลังบ้าน คิดจะหาคนใหม่ละสิ!” ฝ่ายภรรยาเอาแต่ร่ำไห้และพร่ำรำพันต่าง ๆนาๆ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วยาม ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่ง อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ผู้นั้นคือหลิ่วเจิน แน่นอน ยามนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเธอ เพราะว่าเธออยู่ในรูปวิญญาณนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน