มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2891 สบายใจเฉิบ

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2891 สบายใจเฉิบ

มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2891

เจ้าเมืองต้าฮวงไม่พูดอะไรอีก เช่นนั้นทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็ยิ่งไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวแทรก

สายตาของฮวงจวินจ้องมองหลัวซิวอย่างเยือกเย็น ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วแบมือออก “เอามา”

แม้จะเป็นเพียงเงาลวงตัวสำนึก ไม่มีผลการฝึกตนใด ๆ ปะปนอยู่ ทว่าอำนาจบารมีของผู้แกร่งเลิศแห่งยุคนั้นลึกล้ำมิอาจคาดเดา ทำให้บรรดาผู้แข็งแกร่งที่นั่งอยู่รอบข้างหลัวซิวต่างรู้สึกถึงพลังกดดันอันมหาศาล

“เอาอะไร?” หลัวซิวท่าทางสงบนิ่ง สบตากับฮวงจวินอย่างไม่เกรงกลัว มีผู้แข็งแกร่งโลกยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่าเขาบนโลกใบนี้ แต่ไม่มีผู้ใดที่สามารถสั่นคลอนเขาหลัวซิวได้ด้วยการอาศัยเพียงพลังกดดัน

อำนาจบารมี พลังกดดันที่ว่า มีต้นกำเนิดมาจากพลังของตัวธรรมเท่านั้น ส่วนตัวธรรมของหลัวซิวนั้นแข็งแรงไร้ที่เปรียบ ทนทานมิอาจทำลายได้!

“ถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังคิดทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกหรือ? เจ้ามอบหอคอยฮวงดั้งเดิมออกมาเอง ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า มิเช่นนั้น……”

ฮวงจวินพูดยังไม่ทันจบ กลับถูกหลัวซิวโบกมือตัดคำพูด เห็นเพียงเขายิ้มอ่อน ๆ มองฮวงจวินด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “มิเช่นนั้นอย่างไร?”

ระหว่างที่พูดนั้น ร่างของหลัวซิวยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เหยียดตรงไม่ขยับเขยื้อน กล่าวอย่างเย้ยหยัน: “หอคอยฮวงยอมรับข้าเป็นผู้ครอบครอง จะว่าไปแล้วข้าถึงเป็นนายของหอคอยฮวง ผู้เป็นนายอย่างข้าอัญเชิญหอคอยฮวงถึงสองครั้งต่างก็ถูกท่านขัดขวางเอาไว้ ท่านรู้หรือไม่ว่าสองครั้งนี้เกือบทำให้ข้าต้องตายเต๋าสลาย?”

“ข้ามิได้ให้ท่านคืนหอคอยฮวงให้ข้า ท่านกลับมาถามเอาหอคอยฮวงดั้งเดิมกับข้าอย่างหน้าไม่อาย? หนังหน้าของผู้แกร่งเลิศอย่างท่านช่างด้านทนยิ่งกว่าการป้องกันของหอคอยฮวงมากนัก!”

หลัวซิวมีท่าทีบีบคั้น ดุเดือดก้าวร้าว ไม่มีความเคารพนอบน้อมเพราะอีกฝ่ายคือฮวงจวินอยู่เลยสักนิด

“เจ้าอยากตายหรืออย่างไร?”

เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับกล้าพูดกับตนเองเช่นนี้ ฮวงจวินจึงรู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าชาติก่อนหลัวซิวก็เป็นผู้สูงส่งเช่นกัน แต่ก็เป็นเพียงผู้สูงส่งขั้นปฐมภูมิเท่านั้น ไม่อาจเทียบกับผู้แกร่งเลิศอย่างเขาได้เลย

สำหรับสถานะอาณากระบี่หวูจี๋ ด้วยสถานะตำแหน่งของฮวงจวิน ก็ยิ่งไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

“ตายงั้นหรือ?” หลัวซิวหัวเราะเสียงดัง ฮึกเหิมลำพอง กล่าวอย่างเยาะเย้ย: “ต่อให้ท่านคิดอาศัยผลการฝึกตนมาสังหารข้า แค่อาศัยเงาลวงตัวสำนึกที่ไร้ซึ่งผลการฝึกตน ท่านจะเอาอะไรมาสังหารข้า?”

“เจ้าคนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าล่วงเกินผู้สูงส่ง ช่างสมควรตายยิ่งนัก!”

โจว๋ชิวที่อยู่ด้านข้างในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ของฮวงจวินได้ตวาดขึ้นมาเสียงดัง ซัดฝ่ามือเข้าหาหลัวซิว

เขาอยากประลองฝีมือกับหลัวซิวมานานแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไม่สมปรารถนาเนื่องจากการมาของเจ้าเมืองต้าฮวง พอลงมือในตอนนี้ จึงแฝงไว้ด้วยเจตนาฆ่า มิได้ยั้งมือเลยสักนิด

“แดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลาง!”

ทันทีที่โจว๋ชิวลงมือ ก็ทำให้ใครหลายคนสีหน้าเปลี่ยนไป จักต้องรู้ว่าโจว๋ชิวผู้นี้ได้รับขนานนามว่าบุรุษหนุ่มจักรพรรดิเทพ ใช้เวลาฝึกตนยังไม่ถึงสามพันปี

อัจฉริยะที่อายุยังน้อยเช่นนี้สามารถฝึกฝนจนบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดได้ก็เพียงพอทำให้ผู้คนตกตะลึงกันแล้ว ยิ่งกว่านั้นเขายังบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลาง!”

แม้แต่ฮวงหวูจี๋เองก็ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าพรสวรรค์ความสามารถของโจว๋ชิวผู้นี้อยู่เหนือตนเอง เขาฝึกตนมาเป็นเวลานานมากกว่าโจว๋ชิว แต่ก็เพิ่งบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นปฐมภูมิได้อย่างตะเกียกตะกายมาเมื่อไม่นานนี่เอง

เมื่อเห็นโจว๋ชิวลงมือ ฮวงหวูจี๋เพิ่งคิดก้าวออกไป แต่กลับถูกหลัวซิวกดหัวไหล่เอาไว้

“ไสหัวกลับไป!”

เห็นเพียงหลัวซิวนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างสบายไม่รีบร้อน เขาไม่ได้ลุกขึ้น เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อเท่านั้น กลุ่มก้อนพลังอันมหาศาลก็ได้ทะลักออกมา สะเทือนจนเกิดระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนขึ้นมาในอนัตตา

ทันใดนั้นเอง อนัตตาเกิดการสั่นคลอนอยู่หลายครั้งจนนับไม่ถ้วน ทุกครั้งที่สั่นคลอนล้วนมีกลุ่มก้อนพลังอันรุนแรงถาโถมขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน

หลังจากก้อนพลังกลุ่มนี้เกิดเป็นระลอกคลื่นทับซ้อนกันขึ้นมาหลายครั้งอย่างนับไม่ถ้วนภายใต้แรงสั่นสะท้าน ก็ได้กระแทกเข้ากับฝ่ามือที่ซัดเข้ามาของโจว๋ชิว

สวบ!

ลำแสงสายหนึ่งได้ลอยออกไป เป็นร่างของโจว๋ชิวนั่นเอง หลัวซิวสะบัดแขนเสื้อเพียงครั้งเดียว ก็ถูกกระแทกจนลอยออกไปเสียแล้ว

“ก็แค่ตัวตลกคนหนึ่ง ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าข้าอีกหรือ?”

หลัวซิวหัวเราะเยาะ กวัดแกว่งแขนเสื้อ หยิบจอกสุราที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา แล้วกล่าวอย่างเรียบ ๆ

ชั่วขณะนั้น ทั่วทั้งห้องโถงเงียบสงบไปทันควัน!

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเมือต้าฮวง หรือเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนฮวง รวมทั้งผู้สูงส่งคนอื่น ๆ วินาทีนี้ต่างพากันไหวหวั่น

นั่นเป็นผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงกลางเชียวนะ และยังเป็นศิษย์สืบทอดของฮวงจวิน ย่อมโดดเด่นกว่าผู้ที่อยู่ในแดนเดียวกันคนอื่น ๆ กระทั่งที่ว่ามีความสามารถที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดช่วงปลายอีก

แต่กลับถูกหลัวซิวเพียงสะบัดแขนเสื้อก็ลอยปลิวออกไป แล้วหลัวซิวผู้นี้อยู่ในแดนใดกันแน่?

จากข้อมูลที่กองกำลังต่าง ๆ มีอยู่ในมือ ผลการฝึกตนของหลัวซิวยังไม่บรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดถึงจะถูก!

เปิดวิถีเซียน กงล้อเทพวงหนึ่ง หลัวซิวไม่เปิดโปงคลื่นพลังผลการฝึกตนออกมาเอง ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ล้วนไม่อาจประเมินอย่างแน่นอนได้ว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวบรรลุถึงแดนไหนแล้วกันแน่

ในก่อนหน้านี้ โจว๋ชิวผู้ซึ่งมีจิตใจฮึกเหิมได้ยั่วยุหลัวซิว ทำให้ใครหลายคนต่างพากันรู้สึกเศร้าสลดแทนโจว๋ชิว หากไม่ใช่เพราะการมาถึงของเจ้าเมืองต้าฮวง เกรงว่าในเมื่อสักครู่ โจว๋ชิวผู้นึกว่าตัวเองเก่งกาจคนนี้คงหน้าแตกไปตั้งแต่แรกแล้วกระมัง?

“บังอาจ!”

ฮวงจวินโมโหขึ้นมา ตั้งแต่เขาได้ขึ้นเป็นผู้สูงส่งโลกร้างนับร้อยนับพันปีมานี้ ทั่วทั้งโลกร้างยังไม่เคยมีใครกล้าต่อต้านอำนาจบารมีของเขามาก่อนเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าลงมือกับลูกศิษย์ของเขาต่อหน้าเขา!

พบเพียงว่าเงาลวงตัวสำนึกเงานี้ของฮวงจวินจู่ ๆ ก็หายไป กลายเป็นลำแสงกระจายไปทั่วท้องฟ้า แล้วเข้าสู้ร่างของโจว๋ชิว

เงาลวงตัวสพนึกไม่มีผลการฝึกตนใด ๆ รวมอยู่ก็จริง แต่เขากลับสามารถเข้าประทับควบคุมร่างของโจว๋ชิวได้ เช่นนี้เมื่อมีร่างให้ประทับแล้ว เงาลวงตัวสำนึกสายนี้ของเขา ก็จะสามารถดึงผลการฝึกตนของร่างแท้ที่อยู่ห่างออกไปไกลร้อยล้านลี้มาใช้ได้!

ได้เห็นการเคลื่อนไหวของฮวงจวิน หลัวซิวก็มิได้ใส่ใจสักเท่าไรนัก เพราะทั้งหมดนี้อยู่ในความคาดเดาของเขาตั้งแต่แรกแล้ว

หากฮวงจวินไร้ซึ่งฝีมือ แล้วจะมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมให้เขามอบหอคอยฮวงออกไปได้อย่างไร?

“เดิมทีข้าไม่อยากฆ่าเจ้า แต่เจ้าดันรนหาที่ตายเสียเอง!”

โจว๋ชิวที่ถูกฮวงจวินประทับร่างเดินเหยียบอากาศเข้ามา ตอนนี้ร่างของเขาได้ถูกควบคุมโดยฮวงจวิน แม้แต่เสียงยังเกิดการเปลี่ยนแปลง

และที่สำคัญก็คือรัศมีพลังบนร่างของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด เพียงชั่วพริบตาก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าโจว๋ชิวในเมื่อสักครู่อีกหลายเท่า!

หลัวซิวมองดูเจ้าเมืองต้าฮวงแวบหนึ่ง ก็พบว่าสีหน้าท่าทางของท่านเจ้าเมืองผู้นี้ดูสับสนยิ่งนัก ราวกับว่าเนื่องจากเหตุผลบางอย่างสุดท้ายแล้วจึงไม่ได้ออกหน้ายับยั้งการกระทำของฮวงจวิน

“ตูมมม!”

รัศมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากลุ่มหนึ่งแผ่ซ่านออกมาจากร่างของโจว๋ชิว ฮวงจวินได้ชักนำพลังผลการฝึกตนจากร่างเดิมข้ามระยะทางหลายร้อยล้านลี้มา ทำให้ผลการฝึกตนร่างนี้ของโจว๋ชิวเพิ่มขึ้นถึงแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นสูงสุดภายในชั่วพริบตา!

“ฮวงจวิน ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”

เจ้าเมืองต้าฮวงไม่ออกหน้า หลัวซิวก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ต้องอาศัยตัวเองเป็นคนจัดการ เห็นเพียงเขาลุกขึ้นอย่างช้า ๆ แววตาสว่างแวววาว จ้องมอง ‘โจว๋ชิว’ ที่เดินเหยียบอากาศเข้ามาด้วยเจตนาของการต่อสู้

ก็จริงอยู่ว่าผลการฝึกตนของฮวงจวินแข็งแกร่งมาก แต่แดนการฝึกตนของโจว๋ชิวก็ให้เห็นอยู่แค่นั้น พลังผลการฝึกตนที่ร่างของเขารับได้มีขีดจำกัด จักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นสูงสุด นับว่าถึงขีดจำกัดแล้ว

“ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดยโสโอหังเช่นเจ้ามาก่อนเลย”

หลังจากได้ฟังคำพูดของหลัวซิว ฮวงจวินก็อดไม่ได้ที่จะชะงักงันเล็กน้อย เห็นเพียงชุดคลุมของเขาสั่นสะท้าน พลังอำนาจแพร่กระจาย แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยัน: “แม้ข้าจะยอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ด้วยผลการฝึกตนในตอนนี้ของเจ้าคิดจะมาอวดดีอยู่ต่อหน้าข้ายังห่างไกลอีกนัก แม่ว่าอาศัยร่างนี้ข้าสามารถแสดงพลังผลการฝึกตนออกมาได้แค่ในระดับจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นสูงสุด แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะต้านทานได้”

เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนต่างไหวหวั่นสั่นคลอน พูดได้ว่าไม่มีผู้ใดเห็นว่าหลัวซิวจะสามารถเอาชนะได้เลยในขณะนี้

เพราะตอนนี้หลัวซิวได้ปลดปล่อยคลื่นพลังผลการฝึกตนออกมาเองแล้ว เป็นกระแสพลังผลการฝึกตนในระดับมกุฎเทพวัฏจักรหกช่วงปลายเท่านั้นเอง

นอกจากนี้เนื่องจากเพิ่งข้ามผ่านทัณฑ์มาได้ไม่นาน พลังผลการฝึกตนของเขาจึงยังไม่มั่นคงเท่าไรนัก

อีกอย่างฮวงจวินเป็นถึงผู้แกร่งเลิศที่ยืนอยู่เหนือมวลชน เขาลงมือด้วยพลังผลการฝึกตนแดนจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขั้นสูงสุด พลังการต่อสู้ไม่ด้อยไปกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดโดยทั่วไปอย่างแน่นอน

กล่าวโดยไม่ลังเล บนร่างของ ‘โจว๋ชิว’ ในเวลานี้แผ่ซ่านไปด้วยรัศมีพลังมหาศาล แม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดซึ่งอยู่ที่นี่หลายคนต่างก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดัน!

พลังผลการฝึกตนของทั้งสองนั้นแตกต่างกันมาก ทว่าหลัวซิวกลับไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลยสักนิด สายตาของเขาจับจ้อง ‘โจว๋ชิว’ ที่อยู่ตรงข้ามอย่างสงบมาตลอด

“การกระทำสำคัญกว่าคำพูด ท่านขัดขวางข้าอัญเชิญหอคอยฮวงถึงสองครั้ง เช่นนั้นวันนี้ข้าจะต้องเก็บดอกเบี้ยกับท่านหน่อยแล้ว!”

ระหว่างที่พูดนั้น หลัวซิวก็ก้าวเท้าเดินออกมา แสงเซียนสลัว ๆ สายแล้วสายเล่าลอยออกมาจากร่างของเขา จากนั้นได้กลายเป็นลำแสงเจิดจรัสพุ่งกระฉูด แสงเซียนครอบคลุมอยู่ทั่วร่าง ลึกลับทรงพลัง!

“ช่างเป็นรัศมีพลังเต๋าที่ลึกซึ้งทรงพลังยิ่งนัก เขาฝึกฝนวิถีใดกันแน่?”

ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ รวมทั้งบรรดาผู้แข็งแกร่งต่างพากันไหวหวั่นสั่นคลอน แต่อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นเพียงผู้แข็งแกร่ง ยังมิได้บรรลุถึงแดนประมุขเต๋า ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจเข้าใจความลึกซึ้งมหัศจรรย์ของวิถีเซียนได้ จึงเป็นธรรมดาที่จะมองไม่ออกถึงความพิเศษของรัศมีพลังเต๋าของหลัวซิว เนื่องจากเป็นวิถีเซียนที่เขาได้บุกเบิกสร้างมันขึ้นมาเอง!

วิถีเซียนนั้น อยู่เหนือธรรมดั้งเดิม!

และก็เพราะอาศัยความแข็งแกร่งของพลังวิถีเซียน ด้วยผลการฝึกตนในตอนนี้ของหลัวซิวถึงได้มีพลังต่อสู้ที่ทัดเทียมได้กับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปด!

ตอนที่ผลการฝึกตนของเขายังไม่ข้ามผ่านทัณฑ์ เขาสามารถต่อสู้เผชิญหน้ากับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดได้ แต่ก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย

แต่หลังจากเขาได้ข้ามผ่านทัณฑ์ตอนอยู่นอกเมืองต้าฮวงโบราณ พลังการต่อสู้ของเขาก็ได้รุดหน้าขึ้นมาอีกขั้น มีความสามารถในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรแปดขั้นปฐมภูมิอย่างแท้จริง!

“สรรพเข้าล็อกเดิม!”

ทันทีทันใด หลัวซิวก็ได้ลงมือแล้ว ขั้นตอนวาดตราประทับทั้งหมดสำเร็จโดยเร็ว แสงเซียนลอยขึ้นมาระหว่างฝ่ามือของเขา เสียงเซียนสายหนึ่งปรากฏ ผนึกรวมอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นดาบเซียนเล่มหนึ่ง!

“อัมพรเทวไร้สิ้น!”

ฮวงจวินเองก็ได้อาศัยร่างของโจว๋ชิวแสดงพลังอมตะออกมา แสงเทวไร้ขอบเขตแพร่กระจาย เห็นเพียงอนัตตาจมหาย อัมพรเทวปรากฏ เหมือนดั่งว่าในพลังอมตะมีมหาโลกาใบหนึ่งแปรผันขึ้นมา รัศมีพลังมหาศาล

ทว่าฮวงจวินกลับฝึกฝนธรรมเวชกาลร้างเป็นหลัก สัมผัสรู้กฎทวยเทพธรรม เพราะที่เขาฝึกฝนนั้นคือวิถีแห่งสวรรค์ ย่อมต้องสัมผัสรู้วิชาทวยเทพเป็นธรรมดา เพื่อแสวงหาโอกาสทะลวงแดนประมุขเต๋า

ส่วนเต๋าที่เขาฝึกฝนนั้น อย่างไรเสียก็อยู่ในขอบเขตของวิถีเทพมาร ซึ่งลึกซึ้งมหัศจรรย์น้อยกว่าวิถีเซียนมากนัก!

“ผลัวะ!”

กระบี่เซียนร่วงหล่นลง ฉีกอัมพรเทวอีกเป็นเสี่ยง ๆ ในชั่วพริบตา มหาโลกาพังทลาย ทุกสรรพสิ่งบนโลกสลายสูญ กลายเป็นความโกลาหล กลายเป็นความว่างเปล่า

ดวงตาคู่นั้นของ ‘โจว๋ชิว’ ถลึงกลมโต เต็มไปด้วยแววของความไม่อยากจะเชื่อ เห็นเพียงดาบเซียนฟันลง ร่างของเขาค่อย ๆ แตกสลายไปภายใต้แสงเซียน กลายเป็นเถ้าธุลี!

“นี่…….เป็นไปไม่ได้!……”

จิตตั้งของฮวงจวินเองก็เต็มไปด้วยความตะลึงเกรงกลัวเช่นเดียวกัน ที่เขาตกตะลึงนั้นคือหลัวซิวที่มีผลการฝึกตนในแดนมกุฎเทพวัฏจักรหกสามารถระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ออกมาได้ และที่ยิ่งทำให้เขาเกรงกลัวก็คือ อัจฉริยะเช่นนี้หากเติบโตขึ้นมา หอคอยฮวงที่อยู่ในมือของเขา เกรงว่าคงต้องเปลี่ยนเจ้าของแล้ว!

“เจ้าจักต้องตาย!”

ภายในแสงเซียน ร่างของโจว๋ชิวได้สลายไปโดยสิ้นเชิง และตัวสำนึกของฮวงจวินก็หายไปตาม แต่เสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอันเด็ดเดี่ยว กลับดังก้องวกวนอยู่ข้างหูของหลัวซิว

“ข้ากลัวท่านหรือ?”

หลัวซิวหัวเราะเยาะ แสงเซียนที่แผ่ซ่านอยู่ทั่วร่างถูกเก็บลงไปอีกครั้ง เขาค่อย ๆ นั่งกลับลงไปบนที่นั่งของตนเอง ราวกับว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ท่าทางสบายใจเฉิบ

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท