มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2924 แดนผู้สูงส่ง

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2924 แดนผู้สูงส่ง

มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2924

เข้าสู่ดินแดนแห่งซากปรักหักพังเซียนเพื่อตามล่าหาสมบัติในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างส่งผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้ามาฝ่ายละร้อยคน ยกเว้นหลัวซิวที่ไม่เหมือนคนอื่น ผู้ที่เข้าสู่ดินแดนแห่งซากปรักหักพังเซียน อย่างน้อยก็เป็นผู้ที่มีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงปลาย และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าสูงสุด

“บูม!”

วินาทีที่อีกฝ่ายโจมตีเขา หลัวซิวก็ไม่ลังเลที่จะตอบโต้กลับ เขาไม่ได้ใช้ของขลังอาวุธเทพใด ๆ เพราะสำหรับคู่ต่อสู้มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ร่างเนื้อของเขาคืออาวุธที่ใช้ได้ดีที่สุด

แสงเซียนงดงามส่องประกายบนผิวกายของเขาและพลังอมตะของสรรพวิถีล้วนว้างก็ถูกใช้โดยตรง สีหน้าของนักยุทธ์ที่ใช้วายุพิโรธเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเพราะดาบลมของเขาถูกขัดขวาง และรู้สึกได้ด้วยซ้ำว่ายิ่งเข้าใกล้ เขายิ่งรู้สึกว่าพลังเกณฑ์เต๋าที่ตนใช้นั้นจะอ่อนแอลงมากขึ้น

“นี่คือพลังอมตะอะไรกัน?”

ภายใต้ไร้ลักษณ์ สรรพสิ่งล่าถอย การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง

และไม่ใช่แค่เขา สีหน้าของนักยุทธ์ สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงที่นำโดยศิษย์พี่สวีก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน เพราะตัดสินจากพลังของการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงกลางธรรมดา อย่างน้อยเขาก็เคยพบผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงสุดมากมายมาก่อน ต่างไม่แข็งแกร่งเท่าคนๆนี้

“ถอย!”

ศิษย์พี่สวีตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขายกมือขึ้นและตบน้ำเต้าสีเหลืองลูกใหญ่ที่หลังของเขา แสงสีเหลืองลอยออกมาจากน้ำเต้า กลายเป็นดาบแสงและฟันไปทางหลัวซิว ราวกับว่าเขาต้องการช่วยโจมตีหลัวซิวแล้วให้หลัวซิวหยุดการโจมตีเพื่อช่วยชีวิตศิษย์ในสำนักเดียวกันไว้

ในเวลาเดียวกัน คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ศิษย์พี่สวีต่างก็ถอยกลับ เพื่อช่วยเหลือศิษย์พี่สวีของพวกเขา

“โครม!”

เสียงคำรามทื่อๆ ดังขึ้น แสงใบมีดที่เกิดจากแสงสีเหลืองกระเด็นกลับไปด้วยหมัดของหลัวซิว แต่การเคลื่อนไหวของมือของเขาไม่ได้หยุดลง หมัดของเขาต่อยออกไปบดขยี้ชายหนุ่มที่ลอบโจมตีให้ระเบิดเป็นหมอกเลือด

เพียงหมัดบดขยี้เดียว อนัตตาถูกทำลาย ตรีภพหลุดรอดออกมาเล็กน้อย ทำให้รูม่านตาของศิษย์พี่สวีคนนั้นหดตัวลงในทันใด

“ช่างเป็นร่างเนื้อแข็งแกร่งนัก!”

จากสายตาของศิษย์พี่สวี สามารถเห็นได้ว่าอีกฝ่ายมีความเชี่ยวชาญในวิถีกลั่นร่างและได้ฝึกฝนร่างเนื้อจนเทียบได้กับมหาเศษณ์มหาจักรพรรดิยุทธ์

“หึ่ง!”

ในชั่วพริบตา ร่างของหลัวซิวก็สั่นสะท้านชั่วขณะ จากนั้นก็หายไปในทันที และในชั่วพริบตาต่อมา เขาก็ข้ามผ่านระยะทางหลายสิบลี้อย่างกระทันหันและมาตรงหน้าศิษย์พี่สวี

“เทเลพอร์ต?”

ศิษย์พี่สวีหน้าซีดด้วยความตกใจอีกครั้ง แม้จะกล่าวว่าคนที่เชี่ยวชาญเต๋าปริภูมิก็สามารถใช้เทเลพอร์ตได้ แต่ถ้าอยากแสดงวิธีนี้ต่อหน้าเขา ก็หมายความว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ฝึกฝนไปจนถึงแดนธรรมดั้งเดิมสำเร็จแรก

มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญปริภูมิ แม้ว่าผลการฝึกตนจะต่ำกว่าตัวเขาเล็กน้อย แต่ก็เป็นศัตรูที่เก่งกาจอย่างแน่นอน

บูม!

หลัวซิวโจมตีได้เร็วกว่ามาก เพราะเขาไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญเรื่องเต๋าปริภูมิเท่านั้น แต่ยังฝึกฝนวิถีความเร็วอีกด้วย

เขาปล่อยหมัดออกโดยตรง ศิษย์พี่สวีก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วพอที่จะใพลังวิถีป้องกันได้ทันเวลา ก่อตัวเป็นชั้นแสงสีเหลืองบนพื้นผิวร่างกาย

ร่างหนึ่งบินออกมาและร่างที่บินออกไปคือศิษย์พี่สวีแน่นอน เขาบินออกไปหลายร้อยลี้ ร่างทั้งหมดของเขาถูกฝังเข้ากับกำแพงภูเขาเกิดรอยประทับรูปร่างมนุษย์ไว้

ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะยาวนาน แต่จริงๆ แล้ว มันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ตั้งแต่ชายหนุ่มผู้เชี่ยวชาญเต๋าวายุลอบโจมตี ไปจนถึงหลัวซิวฆ่าเขา จากนั้นศิษย์พี่สวีถูกโจมตีกระเด็นออกไป กระบวนการทั้งหมดเป็นเวลาหายใจเข้าออกสามครั้งเท่านั้น

นี่คือการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งวิถียุทธ์ เพียงเวลาสั้นๆ ความเป็นความตายก็ถูกตัดสิน ความแตกต่างระหว่างผู้เหนือกว่าและผู้ด้อยกว่า!

มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าคนอื่น ๆ ที่มาจากสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงเช่นศิษย์พี่สวี ต่างตกใจและมองหลัวซิวด้วยความตกตะลึงด้วยสายตาสยองขวัญ

ต้องรู้ว่าศิษย์พี่สวีของพวกเขาสามารถติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าทั้งหมดในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง ด้วยผลการฝึกตนของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงปลาย เขาสามารถโดดเด่นอยู่ท่ามกลางมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าจำนวนมากได้ ซึ่งได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของศิษย์พี่สวีเองแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความแข็งแกร่งนี้ เขาก็ยังถูกต่อยกระเด็นโดยนักยุทธ์โลกร้างตรงหน้านี้ และระดับผลการฝึกตนของชายผู้นี้เพียงแค่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงกลางเท่านั้น?

หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่พอใจกับผลลัพธ์ของหมัดเมื่อครู่นี้ เพราะเขาต่อสู่กับนักยุทธ์ในแดนเดียวกันมาโดยตลอด ผลคืออีกฝ่ายจะตายทุกครั้งในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะผลการฝึกตนของตนเองจะสู้ขึ้นเรื่อย ๆช่องว่างระหว่างนักยุทธ์ ในแดนเดียวกันกับเขาก็ไม่ใหญ่เหมือนเมื่อก่อน

สำหรับสถานการณ์นี้ หลัวซิวได้เตรียมพร้อมในใจมานานแล้ว เพราะคนที่สามารถฝึกฝนจนถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า แต่ละคนก็ไม่ได้อ่อนแอ แต่เป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจ

แน่นอนว่าหากใช้พลังการต่อสู้อย่างเต็มที่ หลัวซิวก็มั่นใจว่าจะสังหารได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่สำหรับหลัวซิว คู่ต่อสู้ในระดับนี้ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอให้เขาโจมตีอย่างอย่างจริงจัง

“ตายซะ!”

เสียงเฉยชาของหลัวซิวส่งไปยังหูของคนจากสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง เดิมทีทั้งสองฝ่ายก็เป็นศัตรูกัน หากพวกเขาพบกันในดินแดนแห่งซากปรักหักพังเซียนก็จะเป็นจุดจบที่ตายไปข้างหนึ่ง

“หนี!”

“แยกกันหนี!”

หลายคนหน้าซีดด้วยความตกใจ จากนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นมา ทุกคนใช้พลังอมตะในการหลบหนีที่เร็วที่สุดของตน หนีไปอย่างลนลานไปคนละทิศละทาง

มีบทเรียนของศิษย์พี่สวีอยู่ตรงหน้า ในเวลานี้ ไม่มีใครเลือกที่จะต่อต้าน เพราะพวกเขาทุกคนรู้ว่าการต่อต้านนั้นไร้ความหมายอย่างแน่นอน

“วิชาเซียนสิบช่อง!”

หลัวซิวไม่แปลกใจเลยที่คนเหล่านี้เลือกที่จะหลบหนี ตามด้วยการกระตุ้นของพลังแห่งวิถีแห่งเซียนในร่างกาย ร่างเงาหลายร่างบินออกจากร่างกายของเขา หลังจากที่แต่ละร่างเงาออกจากร่างกายก็มีแสงเซียนผนึกรวมกันอย่างต่อเนื่อง แล้วกลายเป็นหนึ่งเดียว

เดิมทีนี่เป็นวรยุทธเซียนสืบทอดของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง แต่ในขณะนี้ หลัวซิวใช้มันเพื่อจัดการกับผู้คนของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง

ผลลัพธ์ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ ด้วยความแข็งแกร่งของหลัวซิวเขาที่ใช้วิชาเซียนสิบช่องอีกครั้ง หากยังให้มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าเหล่านี้หนีไปได้ งั้นจะดูเหมือนว่าเขาไร้ความสามารถเกินไป

รวมทั้งศิษย์พี่สวีคนนั้นด้วย หลังจากสังหารคนเหล่านี้แล้ว ในมือหลัวซิวก็มีแหวนเก็บของเพิ่มขึ้นมาหกวง

ความมั่งคั่งของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าคนหนึ่งก็ยังคงร่ำรวยนัก ยาเซียนและวัสดุวิเศษมากมายที่กองเป็นภูเขา และจำนวนของหินบรรพไท่ชูที่เก็บไว้ในแหวนเก็บของก็น่ามองเช่นกัน

เพราะหลังจากฝึกฝนถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมพร้อมสำหรับบรรลุแดนผู้สูงส่ง และหากต้องการก้าวไปสู่​​แดนผู้สูงส่ง หินบรรพไท่ชูเป็นทรัพยากรที่ขาดไม่ได้

“โดยทั่วไปแล้ว หลังจากผลการฝึกตนบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ใช้หินแก้วดั้งเดิมก็ยากมากนักในการเพิ่มผลการฝึกตน ได้แต่ใช้หินบรรพไท่ชูเท่านั้นหรือทานยาเซียนระดับวัฏจักรเก้า

“จำนวนนักกลลั่นยาระดับสูงสุดนั้นมีน้อยนัก อัตราความสำเร็จของการกลั่นยาก็ไม่สูง วัตถุดิบก็หายากด้วย ดังนั้นยาเซียนระดับวัฏจักรเก้าขึ้นไปจึงขาดแคลนอยู่เสมอ เม็ดหนึ่งก็ได้มายากลำบาก

ตามแผนที่บนม้วนหยก เขาเลือกทิศทางหนึ่งที่กำลังไป หลัวซิวก็ได้วางแผนสำหรับการกฝึกฝนในอนาคตของตนด้วย

ในวิถีกลั่นยา ความสำเร็จสูงสุดในชาติที่แล้วของเขาคือระดับวัฏจักรเก้า แม้ว่าชาติก่อนเขาจะถึงแดนผู้สูงส่ง แต่ระดับของการกลั่นยายังไม่ถึงระดับที่สามารถกลั่นยาเซียนแดนผู้สูงส่งระดับวัฏจักรสิบ

แม้ว่าในชาตินี้เขาจะได้รับคัมภีร์โอสถ ความสำเร็จในการกลั่นยาของเขาก็สูงกว่าในชาติที่แล้วมาก แต่ในปัจจุบัน เขาสามารถกลั่นยาเซียนวัฏจักรเก้าได้ แต่ยังไม่สามารถกลั่นยาเซียนวัฏจักรสิบได้

ในแหวนเก็บของมียาเซียนวัฏจักรสิบที่มกุฎเต๋าหวูจี๋ขอจากบรรพจารย์ฮวงเมื่อคราวที่แล้ว มียาเซียนเหล่านี้ค่อนข้างมาก ตามหลักแล้วก็เพียงพอสำหรับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงหลายคนบรรลุถึงแดนผู้สูงส่งแล้ว

แต่หลัวซิวรู้ตัวดี เขารู้ดีว่าเขาแตกต่างจากนักยุทธ์อื่น ๆ ยาเซียนวัฏจักรสิบเกือบร้อยเม็ดเหล้านี้ อาจไม่เพียงพอสำหรับเขาที่จะบรรลุไปสู่แดนผู้สูงส่ง

โดยทั่วไปแล้ว ตั้งแต่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นปฐมภูมิถึงช่วงกลาง สำหรับอัจฉริยะทั่วไปหินบรรพไท่ชูหนึ่งแสนก้อนก็เพียงพอแล้ว แต่หลัวซิวใช้ยาเซียนวัฏจักรเก้าเกือบพันเม็ดถึงจะสำเร็จ ถ้าเปลี่ยนเป็นหินบรรพไท่ชู ก็เท่ากับว่ามากกว่าหนึ่งล้านขึ้นไป!

ตอนนี้เขาต้องการบรรลุจากแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงกลางไปสู่ช่วงกลาง หลัวซิวคาดว่าไม่มียาเซียนวัฏจักรเก้าห้าพันเม็ดขึ้นไปต้องไม่สำเร็จแน่ สำหรับหินบรรพไท่ชู ก็ต้องการประมาณสิบล้านก้อนแล้ว

หินบรรพไท่ชูนับสิบล้าน เป็นจำนวนที่น่ากลัว ต้องรู้ว่าตอนที่เขาบรรลุถึงแดนผู้สูงส่งในชาติที่แล้ว เขาแค่ใช้ไปมากกว่าเจ็ดล้านก้อนในครั้งเดียวเท่านั้น

หลังจากผ่านไปกว่าสองชั่วโมงกว่าโดยไม่นักยุทธ์ก็ปรากฏขึ้นภายในระยะกระแสสัมผัสตัวสำนึกของหลัวซิวมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เขาเข้าใจว่าเขากำลังเข้าใกล้ตำแหน่งของสมบัติซากปรักหักพังเซียนมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพราะไม่เพียงแต่ที่ได้แผนที่จากมกุฎเต๋า คนอื่นๆ ก็สามารถได้รับเช่นกัน

“รากเซียนน้ำไฟ…”

ดวงตาของหลัวซิวหรี่ลงเล็กน้อย หลังจากที่เขาเข้าสู่ดินแดนแห่งซากปรักหักพังเซียน เขาก็ตรงไปหาสมบัติที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ซึ่งก็คือรากเซียนน้ำไฟ

เขามีขวดเซียนอัคคีหลอมจิตแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ให้ความสำคัญกับกงล้อเซียน ที่สามารถเลื่อนขั้นเป็นภัณฑ์เซียนนัก และความเป็นไปได้ในไข่มุกสาสน์เต๋าที่มีพลังแห่งการสืบทอดนั้นต่ำมาก ด้วย เพราะพลังของชาวเซียนนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะยังรักษาไว้ตามกาลเวลาเนิ่นนานที่ผ่านไป สำหรับพลังอมตะวิถีแห่งเซียนพลังอมตะแลวิชาที่อาจจะมีอยู่นั้น มูลค่ายิ่งลดลงไปอีก

ดังนั้น ในบรรดาสมบัติทั้งสามชิ้นในซากปรักหักพังเซียน สิ่งที่หลัวซิวให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ รากเซียนน้ำไฟต้นนี้

เพราะรากเซียนต้นนี้ เป็นโอสถเซียนต้นหนึ่ง หากใช้มันอย่างดี อาจได้รับโชคลาภกลายเซียนจากมัน

แน่นอน กลายเซียนยังห่างไกลเกินไปสำหรับหลัวซิว เขาคิดถึงสถานการณ์โดยรวม ถ้าเขาสามารถทำให้อาจารย์ของเขากลายเซียน ฝ่ายของตนจะชนะหายนะนี้ครั้งนี้อย่างแน่นอน ถ้าอาจารย์ไม่กลายเซียนผลลัพธ์ก็จะกลับกัน

“บูม!”

ทันใดนั้น ความผันผวนอย่างรุนแรงของพลังวิถีส่งมาจากด้านหน้า หลัวซิวเงยหน้าขึ้นมอง เห็นมือสีดำขนาดใหญ่บดขยี้ผ่านมาเหมือนหินโม่ บดขยี้ร่างหลายร่างที่บินอยู่บนท้องฟ้าให้กลายเป็นว่างเปล่าในทันที

กระแสวังวนปรากฏขึ้น จากนั้นร่างกำยำที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำก็เดินออกมา ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยออร่าพลังเต๋าของผู้แข็งแกร่งแดนผู้สูงส่ง

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นผู้แกร่งเลิศระดับเจ้ายุทธจักรลงมือแล้ว นักยุทธ์หลายคนที่บินผ่านที่นี่เมื่อครู่นี้ที่ถูกฆ่านั้นล้วนเป็นนักยุทธ์จากฝ่ายโลกร้าง

เมื่อหลัวซิวเห็นผู้แกร่งเลิศระดับเจ้ายุทธจักรที่ปรากฏตัวขึ้น ในเวลาเดียวกัน อีกฝ่ายก็มองมายังหลัวซิว แม้ว่าจะมีหมอกสีดำปิดกั้นเขา แต่หลัวซิวก็ยังรู้สึกได้ว่าบนใบหน้าของอีกฝ่ายต้องมีความดูถูกเหยียดหยาม กำลังใช้สายตาที่มองผู้อ่อนแอมองเขาอย่างเย้ยหยัน

“คาดไม่ถึงว่ายังจับปลาตัวเล็กได้หนึ่งตัว ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าน่าจะเป็นอัจฉริยะวิถีเซียนข้างโลกร้าง หลัวซิว?”

หมอกสีดำม้วนตัวอย่างต่อเนื่องกลายเป็นใบหน้าสีดำขนาดใหญ่แล้วปรากฏขึ้นในอากาศ มองไกลออกไปเหมือนภูเขา ก้มหน้ามองหลัวซิวที่เหมือนมดตัวจิ๋ว ความกดดันแผ่ออกมา ทรงพลังและน่ากลัว

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท