มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 2926 รากเซียนหายาก

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2926 รากเซียนหายาก

มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2926

“หลัวซิว”

ในบรรดาผู้สูงส่งทั้งสามที่มายังฝั่งโลกร้าง หนึ่งในนั้นคือเจ้าเมือง ฮวงเจิ้นเทียนแห่งเมืองต้าฮวงโบราณ

ส่วนอีกสองคนที่เหลือล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งของชนเผ่าฮวง คนหนึ่งเป็นผู้สูงส่งช่วงกลาง ส่วนอีกคนเป็นผู้สูงส่งช่วงปลาย

พวกเขาเพิ่งมาถึง จากนั้นก็มีมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าของชนเผ่าฮวง ใช้ตัวสำนึกส่งเสียง บรรยายเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ให้ผู้สูงส่งทั้งสามฟังโดยละเอียด ทันใดนั้นเอง สายตาของพวกฮวงเจิ้นเทียนทั้งสามที่มองหลัวซิว ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในทันที

ฮวงเจิ้นเทียนคิดไม่ถึงเลยว่า เด็กหนุ่มคนนี้ ที่เมื่อหลายร้อยปีก่อนยังเรียกลูกชายของตนว่าสหาย ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับเดียวกับตนเองแล้ว

ไม่ อันที่จริงต้องพูดว่า เขาอยู่เหนือตนเองแล้ว เพราะแม้แต่บรรดาบรรพอาจารย์ระดับประมุขเต๋าที่เขาเคารพ ดูเหมือนยังต้องปฏิบัติตัวต่อหลัวซิวด้วยความเกรงใจ

“ไม่เสียแรงที่เป็นศิษย์ของมกุฎเต๋าหวูจี๋”

ผู้สูงส่งของชนเผ่าฮวงอีกสองคนที่เหลือหันสบตากัน พวกเขาคิดว่าการที่หลัวซิวสามารถมีความสามารถที่แข็งแกร่งระดับนี้ได้ เป็นเพราะเขาเป็นศิษย์ของมกุฎเต๋า

“ผู้เพื่อนยุทธ์ เชิญ”

ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งช่วงปลายของชนเผ่าฮวง ที่มีผลการฝึกตนสูงที่สุดผู้นั้น เป็นชายวัยกลางคนที่ดูธรรมดา เขายกมือขึ้นคารวะหลัวซิวอย่างเคารพนบนอบ และเว้นพื้นที่ตรงที่นั่งด้านข้างให้

เมื่อหลัวซิวเห็นพฤติกรรมของอีกฝ่าย ก็ไม่ได้ทักทายอย่างสุภาพ กลับเดินตรงเข้าไป และยืนร่วมกับผู้สูงส่งทั้งสามคนทันที

ทุกคนล้วนเหะเหินเดินฟ้า ตำแหน่งของผู้สูงส่งทั้งสาม อยู่สูงขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงฐานะและศักดิ์ศรีของผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่ง

และในตอนนี้ หลัวซิวใช้แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้สูงส่งแล้ว !

ในขณะเดียวกันนี้ หลัวซิวก็สัมผัสได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา สายตาเหล่านี้มาจากผู้สูงส่งทั้งสามคที่อยู่ในค่ายศัตรู

หนึ่งในนั้น แน่นอนว่าเป็นผู้สูงส่งของเผ่ามังกรไท่ชู ที่ถูกหลัวซิวโจมตีจนถอยร่นไปด้วยตนเองเมื่อครู่ ส่วนอีกสองคนที่เหลือ คนหนึ่งคือผู้สูงส่งช่วงกลางของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง อีกคนหนึ่งคือผู้สูงส่งช่วงปลายของเผ่ามังกรไท่ชู ที่มีพระอาทิตย์สิบดวงห้อยอยู่เหนือศีรษะ !

เผ่ามังกรไท่ชู สายเลือดแบ่งออกเป็นหยินหยาง ผู้สูงส่งช่วงปลายผู้นี้ เป็นผู้แข็งแกร่งของเผ่ามังกรที่ครอบครอสายเลือดอัสดงโดยไม่ต้องสงสัย

หลัวซิวสัมผัสได้ถึงความภูมิฐานบนใบหน้า ของผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งของชนเผ่าฮวงทั้งสามที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่าเป็นลูกหลานของผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบในขณะที่มีผลการฝึกตนอยู่ในแดนระดับเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งของชนเผ่าฮวง ดูจะโดดเด่นกว่าเผ่ามังกรไท่ชู

แต่ความสามารถของทั้งสองฝ่ายก็ต่างกันไม่มาก เพราะทางฝั่งโลกร้าง มีหลัวซิวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน เด็กหนุ่มที่ไม่ใช่ผู้สูงส่ง แต่กลับรับมือได้ยากกว่าผู้สูงส่งธรรมดาเสียอีก

เจตนาฆ่าอันดุดันปรากฏขึ้นในแววตาของชายร่างยักษ์ผู้นั้น ซึ่งเป็นผู้สูงส่งระดับปฐมภูมิของเผ่ามังกรไท่ชู แต่กลับไม่ได้พุ่งเข้ามาสังหารอย่างผลีผลาม

ตอนนี้สายตาทุกคู่ ต่างจับจ้องมายังตำแหน่งที่รากเซียนน้ำไฟอยู่

ตรงนั้นเป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่ เพียงแต่ทะเลสาบแห่งนี้แปลกประหลาด ด้านหนึ่งเป็นหินลาวาร้อนระอุ เดือดปุด ๆ มีระดับความร้อนที่น่าตกใจ ส่วนอีกด้านหนึ่งกลับเป็นธารน้ำแข็งที่เย็นจัด แม้แต่พื้นที่ว่างโดยรอบก็ถูกแช่แข็ง

ครึ่งหนึ่งเป็นไฟ ครึ่งหนึ่งเป็นน้ำ ซึ่งช่วยเสริมคุณลักษณะทั้งสองประการของรากเซียนน้ำไฟได้อย่างแท้จริง

ในขณะเดียวกันนี้ สายตาของหลัวซิวก็สังเกตเห็นจุดศูนย์กลางของทะเลสาบน้ำไฟ มีพันธุ์ไม้ลักษณะคล้ายดอกบัวพลิ้วไหว เปล่งประกายแวววาวออกมา

ใบและรากของดอกบัวนี้มีสีแดงเพลิง กลีบดอกและเกสรกลับมีสีเหมือนหิมะ แดงขาวสลับกัน งดงามเป็นอย่างยิ่ง เหมือนสมบัติที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ประณีตราวกับคริสตัล

“โอสถเซียน !”

แค่มองจากไกล ๆ เพียงแวบเดียว หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะเผยความตกใจออกมาทางแววตา ในมือของเขาก็มียาเซียนระดับมหาศักดิ์อยู่ไม่น้อย แต่ออร่าพลังเต๋าที่แผ่ซ่านออกมา เมื่อเทียบกับรากเซียนต้นนี้แล้ว เหมือนกับนำวัชพืชมาเทียบกับยาเซียน

ยาเซียน โอสถเซียน ต่างกันเพียงหนึ่งคำ แต่กลับแตกต่างกันอย่างยิ่ง ไม่ใช่ของในระดับเดียวกันหรือโลกเดียวกันเลยสักนิด

“ช่างเป็นออร่าวิถีเซียนที่เข้มข้นยิ่งนัก”

หลัวซิวหรี่ตาลง รากเซียนน้ำไฟต้นนี้ ต้องทำให้คนมีโอกาสกลายเป็นเซียนได้อย่างแน่นอน หากเป็นมกุฎเต๋าที่ได้ฝึกธรรมเวชน้ำไฟดั้งเดิมและบรรลุถึงแดนบริบูรณ์แล้ว จะต้องอาศัยรากเซียนน้ำไฟต้นนี้ ก้าวข้ามสู่แดนเซียนได้ในบัดดลแน่นอน !

แต่มกุฎเต๋าที่อยู่ในจักรวาลสามโลกาก็มีเพียงไม่กี่คน แต่สิ่งที่ผู้สูงส่งทุกคนบำเพ็ญหลักล้วนเป็นธรรมเวชดั้งเดิมที่ค่อนข้างอยู่ในระดับสูง หรือพัฒนาออกไปจากวิถีเซียนแล้ว รากเซียนน้ำไฟต้นนี้ ไม่เหมาะกับมกุฎเต๋าคนใดทั้งนั้น

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ รากเซียนน้ำไฟก็ยากจะประเมินค่าได้ ในเมื่อไม่มีมกุฎเต๋าคนไหนที่จะใช้มันในการบรรลุแดนวิถีเซียนได้ หากได้มันมา จะต้องทำให้มกุฎเต๋ามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน !

แน่นอนว่า รากเซียนน้ำไฟใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ ทะเลสาบที่รากเซียนเติบโตอยู่นั้น มีพลังของวิถีเซียนน้ำไฟที่พลุ่งพล่านอยู่ พละเซียนน้ำไฟเกิดเป็นตัวต้องห้าม ถึงแม้มกุฎเต๋าจะเป็นผู้ลงมือ ก็ยากที่จะได้มาง่าย ๆ

ก่อนที่จะเข้าไปในสถานปรักเซียน หลัวซิวเคยได้ยินมกุฎเต๋าหวูจี๋พูดว่า สมบัติสามชิ้นของสถานปรักเซียนมีตัวต้องห้ามคอยคุ้มกันอยู่ และพลังของตัวต้องห้ามจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับแดนของผลการฝึกตนของคนผู้นั้น

หากผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าลงมือ พลังของตัวต้องห้ามจะขึ้นไปถึงระดับที่น่ากลัว แต่ถ้าหากเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเจ้าและผู้สูงส่งลงมือ พลังที่ตัวต้องห้ามปลดปล่อยออกมานั้นจะน้อยกว่ามาก

อย่างไรเสีย บรรดาเซียนในบุกโบราณต่างทิ้งสมบัติเอาไว้ที่นี่ จึงไม่มีทางสร้างสถานการณ์ที่ทำให้ถึงตายเอาไว้เด็ดขาด

ถึงแม้จะมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่หลัวซิวก็ยังคงไม่ผลีผลาม ผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งช่วงปลายของเผ่ามังกรไท่ชูโบกมือ ผู้แข็งแกร่งเผ่ามังกรของโลกาเทพไท่ชูหลายคนก็ขยับตัว และพุ่งตรงไปยังจุดที่รากเซียนน้ำไฟอยู่ในทันที

คนเหล่านี้ล้วนมีผลการฝึกตนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า เป็นหมากที่ถูกส่งออกไปเพื่อหยั่งเชิง

“เปรี้ยง !”

ตอนที่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ของโลกาเทพมังกรไท่ชูสองสามคนเข้าใกล้ทะเลสาบ พละเซียนน้ำไฟอันไร้ขอบเขตระเบิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน พลังเซียนหลายสายรวมตัวกันและปรากฏเป็นสัญลักษณ์ สัญลักษณ์เซียนไฟที่เหมือนเปลวไฟ สัญลักษณ์เซียนน้ำที่เหมือนเกล็ดหิมะ กลืนกินคนเหล่านี้เข้าไปในชั่วพริบตา

“โอ๊ย !”

เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวดังขึ้น ในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงอึดใจ ก็มีคนถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่านอยู่ภายในเซียนไฟ แม้แต่ร่างเนื้ออันแข็งแกร่งของเผ่ามังกร ก็ไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย

ส่วนคนที่เหลือกับถูกพลังของเซียนน้ำแช่แข็ง หล่นลงมาจากกลางอากาศดังตุบ และตกลงไปในส่วนลึกของธารน้ำแข็งโดยปราศจากชีวิต

เมื่อเห็นภาพนี้ คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตกใจ พลังของพละเซียนน้ำไฟน่ากลัวยิ่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้มาก

“ข้าขอลองดูหน่อย !”

มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าของชนเผ่าฮวงคนหนึ่งก้าวออกมา คนผู้นี้อยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูง ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าสู่ระดับผู้สูงส่งแล้ว

เขาเหาะเข้าไป ทันทีที่เข้าไปใกล้ก็ใช้ตัวต้องห้ามของพละเซียนน้ำไฟ พลังของตัวต้องห้ามปะทุออกมา ซึ่งมากกว่าพลังของผู้แข็งแกร่งแห่งโลกาเทพมังกรไท่ชูเหล่านั้นเมื่อครู่เสียอีก

ผู้แข็งแกร่งแห่งชนเผ่าฮวงผู้นี้ น่าจะเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นคนหนึ่ง พลังการต่อสู้ของเขาแทบจะเทียบเท่าผู้สูงส่ง หลัวซิวประเมินว่าตนเอง น่าจะมีความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าเขาเล็กน้อย

คนผู้นี้ฝืนตั้งรับการโจมตีของตัวต้องห้ามพละเซียนน้ำไฟ แต่เมื่อเขายิ่งเข้าไปใกล้รากเซียนน้ำไฟอีกหนึ่งก้าว พลังของตัวต้องห้ามก็เพิ่มสูงขึ้นในทันที ทำให้เขาหน้าถอดสี และรีบถอยร่นอย่างรวดเร็ว

“พรวด !”

แขนข้างหนึ่งของเขาถูกเซียนไฟเผาไหม้ เซียนไฟเป็นเหมือนกับกระดูกข้อเท้าตัวอ่อนแมลงที่ไม่อาจดับมอดลงได้ ดังนั้นผู้แข็งแกร่งของชนเผ่าฮวงผู้นี้ จึงตัดสินใจตัดแขนของตนเองอย่างเด็ดขาด

ในขณะเดียวกันนี้ หน้าอกของเขาก็ถูกพละเซียนน้ำโจมตีเข้า เกล็ดน้ำแข็งกระจายตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และแช่แข็งร่างกายของเขา

ผู้แข็งแกร่งของชนเผ่าฮวงผู้นี้ถอยกลับมา ตัดสินใจเสกของขลังออกมาโจมตีร่างกายของตนเองให้แตกละเอียดอย่างรวดเร็ว เลือดเนื้อที่แตกละเอียดรวมตัวกันอีกครั้ง และประกอบเป็นร่างกายขึ้นมาใหม่

สิ่งที่คนชนเผ่าฮวงฝึกเป็นส่วนใหญ่คือธรรมเวชกาลร้าง ถนัดในการกลั่นร่าง สถานการณ์เมื่อครู่ หากเป็นนักยุทธ์คนอื่นคงต้องตายอย่างแน่นอน แต่กลับกลับรักษาชีวิตเอาได้

“พลังของตัวต้องห้ามแข็งแกร่งเกินไปแล้ว”

ผู้แข็งแกร่งของชนเผ่าฮวงผู้นี้พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด เหตุการณ์ที่ผ่านไปเมื่อครู่ดูเหมือนจะรวดเร็ว แต่ที่จริงแล้วเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก

“ข้าจะไปลองดู”

ฮวงเจิ้นเทียนเจ้าเมืองร้างเดินออกไป ในขณะที่เขาเดินออกมานั้น ชายร่างยักษ์ซึ่งเป็นผู้สูงส่งปฐมภูมิของเผ่ามังกรไท่ชู ก็เดินออกมาด้วยเช่นกัน

ทั้งสองอยู่ในแดนผู้สูงส่งปฐมภูมิเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าต้องการประลองดู ว่าใครจะสามารถคว้ารากเซียนที่อยู่ในทะเลสาบมาครองได้

ฉึบ !

ผู้สูงส่งทั้งสองเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วที่พวกเขาพุ่งเข้าไป ก็เท่ากับความเร็วที่ถอยร่นออกมา แทบจะเหมือนกับเงาสะท้อนของวรยุทธ์ ฮวงเจิ้นเทียนถอยร่นกลับมาแล้ว แต่ร่างกายครึ่งหนึ่งถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

ชายร่างยักษ์แห่งเผ่ามังกรไท่ชู มีความสามารถที่เหนือกว่าฮวงเจิ้นเทียนเล็กน้อย แต่ก็ยืนหยัดได้เพียงไม่กี่อึดใจ เขาถึงขั้นต้องแปลงกายเป็นมังกรดำจึงจะหนีออกมาได้ เกล็ดมังกรบนตัวถูกเผาไหม้แทบไม่เหลือ เผยให้เห็นบาดแผลที่มีเลือดไหลซิบอยู่

จากนั้น ผู้สูงส่งช่วงกลางสองคน รวมไปถึงผู้สูงส่งช่วงปลายสองคนก็ลงมือด้วยตนเองแล้ว แต่ไม่ต่างไปจากที่คาดไว้ ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้รากเซียนที่อยู่ใจกลางทะเลสาบได้เลย

“มหาจักรพรรดิยุทธ์ซิวหลัวไม่ไปลองดูหน่อยหรือ ?”

มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงของชนเผ่าฮวงผู้นั้นหันมองหลัวซิว มีผลการฝึกตนในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าเช่นเดียวกัน แต่ผลการฝึกตนของหลัวซิวนั้นต่ำกว่าเขา หากว่ากันตามเหตุผลแล้ว พลังของตัวต้องห้ามที่ต้องเผชิญหน้า คงจะอ่อนกำลังกว่าเล็กน้อย แต่ความสามารถของหลัวซิวก็สูงกว่าเขา ดังนั้นท่ามกลางบรรดาคนทั้งหมด ผู้ที่พอมีความหวังจะนำรากเซียนมาได้ คงมีแต่เขาแล้ว

เขาสามารถนึกเช่นนี้ได้ คนอื่น ๆ ย่อมคิดออกเช่นเดียวกัน ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคนของโลกร้าง หรือจะเป็นคนของเผ่ามังกรไท่ชูและสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง สายตาทุกคู่ ล้วนจับจ้องไปที่เขา

คนของโลกร้าง แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ส่วนคนของเผ่ามังกรไท่ชูและสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง ย่อมเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอันเข้มข้น

หลัวซิวไม่จำเป็นต้องใช้สมองก็พอจะจินตนาการได้ว่า ทันทีที่เขาลงมือ คนของเผ่ามังกรไท่ชูและสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง จะต้องลงมือก่อความวุ่นวายอย่างแน่นอน ส่วนตัวเขาเอง หากคว้ารากเซียนมาได้ จะต้องกลายเป็นจุดสนใจในทันที

แน่นอนว่าหลัวซิวไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน ถึงแม้ความสามารถของเขาจะเทียบเท่ากับผู้สูงส่งปฐมภูมิ แต่ฝ่ายตรงข้ามยังมีผู้สูงส่งช่วงกลาง และยังมีผู้สูงส่งช่วงปลายอีกคนหนึ่งด้วย

ต่อให้ผู้สูงส่งทั้งสามของชนเผ่าฮวงจะลงมือปกป้องตน แต่การฝากความหวังไว้กับผู้อื่นเช่นนี้ หลัวซิวไม่เคยคิดจะทำมาก่อน

แต่จะให้ทิ้งรากเซียนน้ำไฟไปเช่นนี้ ก็ไม่ใช่นิสัยของหลัวซิว วิถีเซียนที่เขาฝึกคือวิถีไร้ลักษณ์ ไม่มีคุณลักษณะเฉพาะ หากเขาสามารถคว้ารากเซียนน้ำไฟมาและกลั่นแปรได้ อย่างน้อยก็จะอาศัยวิถีไร้ลักษณ์เปลี่ยนแปลงพลังของน้ำไฟคุณลักษณะให้ออกมาแข็งแกร่งขึ้นได้ และยิ่งมีความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน

รากเซียนต้นนี้เป็นโอสถเซียน และในขณะเดียวกันก็เป็นสมบัติ ก็ไม่มีใครกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวว่า โอสถเซียนสามารถนำมากลั่นยาได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ไม่อาจนำมาฝึกเซ่นเป็นของขลังได้ ?

“ได้ ข้าจะลองดู”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ในใจแล้ว หลัวซิวก็ตัดสินใจ อย่างน้อยหากมีอันตรายจริง ๆ ก็ใช่ว่าเขาไม่มีไพ่ไม้ตาย

ในเมื่อตัดสินใจลงมือแล้ว หลัวซิวก็ไม่คิดที่จะค่อย ๆ เข้าไปอย่างเชื่องช้า เขาขยับตัว และขึ้นไปลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือทะเลสาบในทันที

“เปรี้ยง !”

ในขณะที่เขาเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน ตัวต้องห้ามพละเซียนน้ำไฟก็ปะทุขึ้นมา เซียนไฟและเซียนน้ำที่ไร้ของเขตพลุ่งพล่าน ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท