มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2927
สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมา พลังของตัวต้องห้ามพละเซียนน้ำไฟ จะเปลี่ยนแปลงไปตามความแข็งแกร่งของผู้บุกรุก
ผลการฝึกตนของหลัวซิวคือมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงกลาง พลังของตัวต้องห้ามที่ระเบิดออกมา เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอลงไปไม่น้อย
แต่ความสามารถที่แท้จริงของหลัวซิวกลับเทียบเท่าผู้สูงส่ง การเคลื่อนไหวของเขาไม่หยุดลงแม้แต่น้อย แสงเซียนที่แผ่ซ่านออกมารอบตัวตัดขาดปริภูมิ ขัดขวางพละเซียนน้ำไฟเอาไว้ด้านนอก และรีบพุ่งตรงเข้าไปหารากเซียนที่อยู่ใจกลางทะเลสาบอย่างรวดเร็ว
“ขวางเขาไว้ !”
“ฆ่าเขา !”
“……”
เมื่อเห็นภาพนี้ ผู้สูงส่งของฝ่ายตรงข้ามก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป หลังจากเสียงออกคำสั่งของพวกเขา สมุนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าจำนวนมากต่างทยอยลงมือ พลังอมตะและของขลังอาวุธเทพจำนวนนับไม่ถ้วน ทะลุทะลวงผ่านสุญญากาศ พุ่งตรงเข้าสังหารหลัวซิวในทันที
“พวกเจ้าฝันไปเถอะ !”
แน่นอนว่าผู้สูงส่งทั้งสามของโลกร้าง ไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉย ๆ อย่างแน่นอน การต่อสู้ที่ชุลมุนปะทุขึ้นในทันที
ยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งที่รากเซียนน้ำไฟตั้งอยู่มากเท่าไร พลังของตัวต้องห้ามพละเซียนน้ำไฟก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น ตอนที่หลัวซิวเข้าไปยืนอยู่ใกล้ ๆ รากเซียนน้ำไฟ พละน้ำไฟที่พลุ่งพล่านอยู่ข้าง ๆ แข็งแกร่งถึงขนาดสังหารผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงได้ภายในชั่วพริบตาแล้ว
ถึงแม้ร่างเนื้อของหลัวซิวสามารถเทียบได้กับสมบัติมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่ตอนนี้เมื่อต้องตั้งรับกับความกดดันที่มหาศาล ก็จำต้องเสกเตาอลวนหวูจี๋ออกมาแขวนไว้เหนือศีรษะ จึงจะต้านทานการโจมตีของพละเซียนน้ำไฟได้
ตอนที่หลัวซิวยื่นมือออกไปคว้ารากเซียนน้ำไฟ ทันใดนั้นเอง ความรู้สึกอันตรายก็พุ่งตรงเข้าสู่หัวใจทันที จู่ ๆ พละเซียนน้ำไฟสองสายก็ปรากฏขึ้นมา เป็นสีแดงขาวสองสายเหมือนกับสายรุ้ง พันกันจนดูเหมือนกับกรรไกรขนาดยักษ์ และพุ่งตรงเข้าสังหารเขาในทันที
สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไป การโจมตีเช่นนี้เข้าไม่กล้าต้านทาน เพราะเขารู้สึกว่า ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงส่งช่วงกลาง หากต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ ก็มีโอกาสอย่างยิ่งที่จะจบชีวิตลงได้
แต่เขาคว้ารากเซียนน้ำไฟมาไว้ในมือได้แล้ว จึงไม่อาจยอมแพ้ในเวลาเช่นนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงกัดฟัน แล้วถอนรากเซียนน้ำไฟออกมาให้เร็วที่สุด และเก็บเข้าไปในกล่องหยกที่สลักค่ายกลตัวต้องห้ามเอาไว้เรียบร้อยแล้วในทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว ในขณะที่หลัวซิวเก็บรากเซียนน้ำไฟไป สายรุ้งสองเส้นที่พันกัน ก็พุ่งตรงเข้ามาสังหารเขาจนถึงศีรษะของเขาแล้ว
“ชิ้ง !”
เกิดเสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหว ประกายไฟจำนวนมากกระเซ็นไปทั่ว เตาอลวนหวูจี๋สะเทือนจนกระเด็นออกไปในทันที ภายใต้ผลกระทบที่ส่งผ่านเตาศักดิ์สิทธิ์มา ทำให้ร่างกายของหลัวซิวพลอยสั่นสะเทือนไปด้วยเช่นกัน ราวกับกระดูกทุกส่วนในร่างกายกำลังจะแตกสลาย
“หอคอยฮวง !”
ในช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตาย หลัวซิวไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเรียกหอคอยฮวงที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ออกมา เขากระโดดเข้าไปในหอคอยฮวง จากนั้นสายรู้งที่แปลงมาจากพละเซียนน้ำไฟ ก็พุ่งเข้าโจมตีหอคอยฮวงด้วยความดุร้ายอย่างถึงที่สุด
……
“รากเซียนน้ำไฟหายไปแล้ว !”
“ถูกคนที่ชื่อหลัวซิวคนนั้นเอาไปแล้ว เขาเอารากเซียนน้ำไฟไป !”
สิ่งที่เกิดขึ้นกลางทะเลสาบมีหลายคนที่เห็น โดยเฉพาะบรรดาผู้แข็งแกร่งของเผ่ามังกรไท่ชูและสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง ต่างหน้าถอดสี
ตอนนี้เอง หอคอยเทพหลังหนึ่งลอยออกมาจากตัวต้องห้ามของพละเซียนน้ำไฟ หอคอยเทพไม่ได้ลอยออกมาเอง แต่ถูกพลังมหาศาลของพละเซียนน้ำไฟฟาดออกมา
“หอคอยฮวง !”
“ขวางเขาไว้ !”
มหาจักรพรรดิยุทธ์สองสามคนที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบพ่งตรงเข้าไปทันที พวกเขารู้จักหอคอยฮวงเป็นอย่างดี รู้ว่าสิ่งนี้เป็นอัญมณีดั้งเดิมของโลกร้าง เป็นอัญสมบัติเลิศล้ำของโลกร้าง มีค่าเทียบเท่ากับภัณฑ์เซียน !
ในหอคอยฮวง หลัวซิวรู้สึกโล่งใจ โชคดีที่การป้องกันของหอคอยฮวงไม่ทำให้เขาผิดหวัง มิเช่นนั้นหากไม่มีหอคอยฮวงคอยปกป้อง ต่อให้เขาไม่ตายภายใต้การโจมตีของรัศมีรุ้งน้ำไฟ ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน
ตอนที่เขาเดินออกมาจากหอคอยฮวง ตัวสำนึกก็รับรู้ถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้า ของเผ่ามังกรไท่ชูและสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงจำนวนหลายคน ที่พุ่งเข้ามาโจมตีตนเองได้ในทันที
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ หลัวซิวไม่รู้สึกแปลงใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าเป็นเพราะเขาเปิดเผยหอคอยฮวงออกมา หรือเป็นเพราะเขาได้รากเซียนน้ำไฟไป รวมไปถึงความจริงที่เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์วิถีเซียน เขาล้วนต้องถูกมองว่าเป็นหอกข้างแคร่อย่างแน่นอน และต้องกลายเป็นเป้าหมายของการสังหารอันดับแรก
“ตาย !”
ในเมื่อหอคอยฮวงถูกเปิดเผยออกมาแล้ว หลัวซิวก็ไม่คิดจะปิดบังอีก ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สูงส่งฮวงจวินอัมพรเทวคนก่อนก็ทรยศโลกร้าง คนของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไท่ชูก็รู้นานแล้วว่า หอคอยฮวงอยู่ในมือของเขา
ดังนั้นหลัวซิวจึงใช้พลังของหอคอยฮวง พุ่งเข้าโจมตีมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าเหล่านั้นโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงในทันที
เป็นที่รู้กันดีว่าพลังของอัญมณีดั้งเดิมน่ากลัวขนาดไหน ด้วยความแข็งแกร่งของหลัวซิวที่เทียบเท่ากับผู้สูงส่งปฐมภูมิ ต่อให้พลังของหอคอยฮวงที่เขาแสดงออกมาจะอ่อนแอ แต่ก็ใช่ว่าผู้สูงส่งธรรมดา ๆ จะรับมือได้ แล้วนับประสาอะไรกับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าตัวเล็ก ๆ ?
แค่ต่อสู้ตัวต่อตัว บรรดาจักรพรรดิยุทธ์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที ยิ่งไปกว่านั้น มีอีกสองคนที่ถูกหอคอยฮวงฟาดจนตาย ไม่หลงเหลือแม้แต่กระดูก
“ฆ่าเขา !”
“ใครฆ่าหลัวซิวได้ จะได้รับการชื่นชมจากมกุฎเต๋า !”
“ข้าสัญญาว่า ใครฆ่าหลัวซิวได้ จะตกรางวัลหินบรรพไท่ชูให้สิบล้าน !”
ผู้สูงส่งทั้งสามถูกศัตรูที่มีผลการฝึกตนใกล้เคียงกันล้มเอาไว้ ตอนนี้ไม่อาจแบ่งเวลาไปรับมือกับหลัวซิวได้ แต่พวกเขาก็ยังคงปลุกปั่นบรรดาสมุนมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าเหล่านั้น เพื่อต้องการให้กลยุทธ์รุมเข้าโจมตีสังหารหลัวซิว
ในสายตาของพวกเขา ต่อให้หลัวซิวจะเก่งกาจแค่ไหน อย่างไรเสียเขาก็เป็นแค่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าคนหนึ่ง พลังอมตะของเขาแข็งแกร่ง พลังของขวัญอาวุธเทพยากจะเทียบได้ แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องการการส่งเสริมจากผลการฝึกตน ภายใต้กลยุทธ์รุมเข้าโจมตี ขอเพียงผลการฝึกตนของเขาถูกใช้ไปจนหมด ก็ต้องตายอย่างแน่นอน !
ภายใต้ของรางวัลที่ล่อใจ ต้องมีผู้กล้าอย่างแน่นอน หลังจากเสียงของผู้สูงส่งทั้งสามดังขึ้น บรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไม่ชูเหล่านั้น แทบจะละทิ้งศัตรูที่อยู่ตรงหน้าของตนเอง และพุ่งตรงเข้าสังหารหลัวซิวอย่างบ้าคลั่งในทันที
“ตราสรรพสิทธิ์ ! สรรพวิถีล้วนว้าง !”
กงล้อเทพปรากฏขึ้นหลังศีรษะของหลัวซิว พลังอมตะจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกมาจากกงล้อเทพ ปริภูมิที่อยู่โดยรอบถูกปกคลุมและกวาดล้าง ด้วยการโจมตีที่ไม่เลือกปฏิบัติ
ตราสรรพสิทธิ์เหมาะสำหรับการโจมตีหมู่ ส่วนสรรพวิถีโลกว้างนั่นถนัดในการป้องกัน เมื่อพลังอมตะทั้งสองผสมผสานกัน เรียกได้ว่ามีแต่ได้ประโยชน์สำหรับการโจมตีหมู่
“เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง !……”
เสียงคำรามของพลังอมตะและของขลังดังก้องอย่างไม่สิ้นสุด ใช้จุดที่หลัวซิวอยู่เป็นจุดศูนย์กลาง ปริภูมิที่อยู่โดยรอบต่างพังพินาศสาบสูญไปทั้งหมด ปริภูมิจำนวนนับไม่ถ้วนแตกกระจัดกระจาย ตรีภพม้วนกลิ้งออกมา เป็นฉากแห่งการทำลายล้างขนาดมหึมา
ภายใต้การรุมโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงปลายกว่ายี่สิบคน ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งในระดับผู้สูงส่งสามารถต้านทานไว้ได้ แต่ก็ไม่มีทางไม่ได้รับบาดเจ็บ
ภายในปริภูมิที่ถูกทำลายล้าง คนที่อยู่โดยรอบค่อย ๆ มองเห็นร่างของหลัวซิวปรากฏชัดขึ้น ตอนที่เห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย บรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไม่ชูเหล่านั้น ต่างก็หน้าถอดสีไปอย่างสมบูรณ์โดยทันที
หลัวซิวไม่พูดอะไรสักคำ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาที่ดุดัน และพุ่งเข้าสังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าฝ่ายตรงข้าม จำนวนยี่สิบกว่าคนโดยไม่ลังเล
ดูเหมือนเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ นั่นเป็นเพราะพลังในการปกป้องของหอคอยฮวงแข็งแกร่งเพียงพอ แต่ระดับของอัญมณีอย่างหอคอยฮวงนั้นสูงเกินไป ทำให้เขาต้องใช้ผลการฝึกตนไปอย่างมหาศาลในการขับเคลื่อน
ดังนั้นครั้งนี้หลัวซิวจึงไม่ใช้หอคอยฮวงในการสังหารศัตรู แต่เพียงเสกหอคอยฮวงเอาไว้เหนือศีรษะเพื่อช่วยป้องกัน เช่นนี้ไม่ต้องสิ้นเปลืองผลการฝึกตนในปริมาณที่สูงมากนัก
ส่วนบรรดาศัตรูระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าเหล่านี้ หลัวซิวไม่จำเป็นต้องอาศัยพลังของหอคอยฮวง อาศัยเพียงพลังอมตะวิถีเซียนก็สามารถบุกเข้าสังหารได้แล้ว
คุณลักษณะของพลังวิถีเซียนแปลงเป็นปริภูมิ หลัวซิวเคลื่อนที่ไปปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงคนหนึ่งทันที แสงเซียนลุกโชนอยู่ในฝ่ามือของเขา ใช้วิชาทะยานเซียนสังหารศัตรูผู้นั้น
เขามองออกนานแล้วว่า มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงที่มาจากสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงผู้นี้ เป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในบรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าทั้งหมด ขอเพียงกำจัดคนผู้นี้ได้ มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าอีกยี่สิบกว่าคนที่เหลือ ก็ไม่มีค่าให้พูดถึงอีกต่อไป
ในขณะที่หลัวซิวลงมือ มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าฝ่ายตรงข้ามอีกยี่สิบกว่าคนก็ไม่อยู่เฉย ออร่าของพลังอมตะและของขลังฟาดฟันลงมาเส้นแล้วเส้นเล่า ฟาดลงมาบนหอคอยฮวงเหนือศีรษะของเขาจนเกิดเสียงดังสนั่น แต่กลับไม่อาจทำลายการป้องกันของหอคอยฮวงได้ และไม่อาจทำให้หลัวซิวได้รับบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ในขณะเดียวกันนี้ วิชาทะยานเซียนของหลัวซิวได้ระบุเป้ามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูง ที่อยู่ตรงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว
“เจ้า !……”
สีหน้าของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูง แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงผู้นั้นเปลี่ยนไปในทันที เขาคิดไม่ถึงว่าหลัวซิวจะเลือกสังหารตนเอง และที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เด็กหนุ่มผู้นี้ เพื่อที่จะโจมตีตนเอง กลับไม่สนใจการโจมตีของคนอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย ?
“น่ารังเกียจ !”
ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงผู้นี้ถอยร่นโดยไม่ลังเล เขาไม่ใช่หลัวซิว เขาไม่มีสมบัติอัศจรรย์อย่างหอคอยฮวงไว้คอยปกป้องตนเอง
“เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง !”
การโจมตีปะทะเข้ากับหอคอยฮวงอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่หอคอยฮวงป้องกันการโจมตี ก็จะทำให้หลัวซิวสูญเสียผลการฝึกตนไปส่วนหนึ่ง หลังจากการโจมตีที่ปะทะเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แสงออร่าของหอคอยฮวงค่อย ๆ อ่อนกำลังลง
เมื่อเห็นฉากนี้ แววตาของผู้แข็งแกร่งของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวง และเผ่ามังกรไท่ชูจำนวนไม่น้อยเปล่งประกายขึ้นมา เพราะภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ แสดงให้เห็นว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวถูกใช้ไปไม่น้อยแล้ว !
ทันทีที่ผลการฝึกตนของเขาถูกใช้จนเกินขีดจำกัด เขาจะจะไม่สามารถขับเคลื่อนพลังของหอคอยฮวงได้อีกต่อไป มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้ายี่สิบกว่าคนร่วมมือกันโจมตีเขาหนึ่งครั้ง จะต้องสังหารเขาอยู่ในวงล้อมได้อย่างแน่นอน !
“ฟึ่บ !”
จู่ ๆ หอคอยฮวงก็แปลงเป็นลำแสงสีทองลอยกลับเข้าสู่ห้วงจักรหยั่งรู้ของหลัวซิว เหมือนกับที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ ถึงแม้จะเป็นการขับเคลื่อนการป้องกันของหอคอยฮวง แต่การตั้งรับการโจมตีของมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าจำนวนยี่สิบกว่าคนพร้อมกันนั้น สำหรับหลัวซิวแล้ว เป็นการสูญเสียผลการฝึกตนที่มหาศาลเกินไป
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ การป้องกันของหอคอยฮวงก็ทำให้เขาได้รับเวลาที่มากเพียงพอ เพราะวิชาทะยานเซียนของเขาได้แปลงเป็นกระบี่แสงเซียนเรียบร้อยแล้ว
“พรวด !”
ในเวลาเพียงชั่วพริบตา ห้วงจักรของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงผู้นั้น ถูกกระบี่แสงเซียนแทงทะลุ ตัวหยั่งรู้ดับสูญ วิญญาณช่องจิตเดิมแตกสลาย จบชีวิตลงในทันที !
ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นสูงผู้นี้ดวงตาเบิกโพลง เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เด็กหนุ่มคนนี้เมื่อสูญเสียการป้องกันจากหอคอยฮวงแล้ว กลับยังไม่ทิ้งความคิดที่จะสังหารตนเอง ?
“เปรี้ยง ๆ ๆ !”
เมื่อไม่มีหอคอยฮวงคอยป้องกัน พลังอมตะและของขลังของผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าจำนวนยี่สิบกว่าคน ก็ปกคลุมร่างกายของหลัวซิวจนมิดในทันที
เลือดสาดกระเซ็น ร่างกายของหลัวซิวถูกฟาดฟันจนเลือดไหลโชกในทันที เป็นภาพที่น่าเวทนายิ่ง เลือดสีแดงสดไหลอาบไปทั่วตัว ดูราวกับมนุษย์เลือด บนตัวไม่หลงเหลือเนื้อหนังที่ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่เลย
แต่หลัวซิวกลับไม่ได้ล้มลง ถึงขั้นว่า ร่างกายของเขาไม่ได้ถูกโจมตีจนแหลกละเอียด ต่อให้ร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผลโชกเลือด แต่ยังคงมีพลังของจิตสังหารที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมารอบตัวอยู่ตลอดเวลา
“ตรามหาหัตถ์ราชาเซียน !”
มือทั้งสองข้างของหลัวซิวเคลื่อนไหว มือแสงเซียนใหญ่สองข้างฟาดลงไป สังหารผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าอีกสองคนในทันที
การโจมตีที่เกิดจากการขับเคลื่อนพลังวิถีเซียนของเขา เทียบเท่ากับผู้สูงส่งลงมือ ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงปลาย น้อยคนนักที่จะต้านทานได้
ภายใต้การสังหารเช่นนี้ บรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าจำนวนมากของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไท่ชู ต่างรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เพราะพวกเขาค้นพบว่า ถึงแม้การโจมตีของตนเองจะโจมตีหลัวซิวได้อย่างตรงจุด แต่ก็ไม่อาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ ยิ่งไปกว่านั้น แสงเซียนที่ส่องประกายอยู่บนตัวของหลัวซิว ก็แฝงไปด้วยออร่าคุณลักษณะชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้บาดแผลของเขาฟื้นฟูได้ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ความเร็วในการฟื้นฟูนั้น ถึงขั้นเร็วกว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการรุมโจมตีของทุกคน !
“เจ้าหมอนี่ฝึกตนอย่างไรกันแน่ ?”
ในสนามรบบนอนัตตาที่อยู่ไกลออกไป ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงส่งทั้งสามของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไท่ชู หรือแม้แต่ผู้สูงส่งทั้งสามของชนเผ่าฮวง ต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
เพราะดูจากคุณลักษณะพลังเต๋าในพลังวิถีเซียนของหลัวซิวตอนนี้ ก่อนหน้านี้เขาเคยใช้คุณลักษณะปริภูมิและความเร็ว ตอนนี้กลับใช้คุณลักษณะชีวิต คนคนเดียวฝึกฝนยุทธ์อย่างไรกันแน่ ที่ทำให้แรงเต๋าสามารถครอบครองคุณลักษณะทั้งสามประการนี้ได้ ?