ธงค่ายนับพันถูกหลัวซิวใช้ตัวสำนึกสามร้อยดวงฝืนแก่งแย่งไปสามร้อยผืน ถัดจากนั้นการดวลด้านวิกล หงหวู้ก็พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง และมีสูญเสียธงค่ายไปมากกว่าเดิม ถูกหลัวซิวแก่งแย่งสิทธิ์ในการควบคุมไป
นี่จะทำให้มีเหงื่อผุดออกมาจากหน้าผากหงหวู้ มีลายค่ายและยันต์ค่ายที่นับไม่ถ้วนผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่นภาเหนือภูเขาถูหลิง ราวกับแหตาข่ายที่ใหญ่โตมหึมาได้ผนึกอนัตตาแห่งนี้เอาไว้
ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ราวกับเวลาในเขตพื้นที่บริเวณโดยรอบภูเขาถูหลิงหยุดนิ่งไปแล้วยังไงอย่างนั้น ธงค่ายนับร้อยอยู่ภายใต้การควบคุมของหลัวซิว แล้วใช้กฎเวลาสลักจารึกลายค่าย
ลายค่ายทั้งหลายตัดสลับไปมา จนประกอบเป็นยันต์ค่ายที่ใหญ่โตมโหฬาร ถัดจากนั้นก็มีเพลาไหลรวยที่ไม่ดับสูญวิวัฒนาการออกมาจากยันต์ค่าย
วิถีค่ายกลทั้งปวงในโลกหล้าล้วนกำเนิดจากฎีกาค่าย วิชาฎีกาค่ายที่หลัวซิวยึดกุมแข็งแกร่งกว่าของหงหวู้มาก ๆ บวกกับวิถีไร้ลักษณ์ของเขาสามารถวิวัฒนาการกฎทั้งปวงออกมาได้ ด้านการเปลี่ยนแปลงของค่ายกล ก็ไม่ใช่สิ่งที่หงหวู้สามารถเทียบเคียงได้เช่นกัน
สาเหตุที่ตอนนี้หลัวซิวยังไม่สามารถจัดวางค่ายเทพระดับหกได้นั้น เป็นเพราะผลการฝึกตนของเขายังไม่เพียงพอ แต่ถ้าเกิดพูดถึงระดับฝีมือและมาตรฐานด้านค่ายกลแล้ว หงหวู้ที่กระจอกงอกง่อยก็ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติในการถือรองเท้าให้เขาเลย
ฟึ่บ!
ภายใต้ห้วงเวลาที่บิดเบี้ยว ทำให้หงหวู้สูญเสียการควบคุมธงค่ายไปเกือบครึ่ง ตัวเขาเองก็ถูกพลังแว้งกัดเช่นกัน กระอักเลือดออกมาจากปาก ร่างกายถอยหลังกลับไปรัว ๆ เลือดสีแดงสดย้อมเต็มส่วนบนของเสื้อคลุม
อีกฝั่งหนึ่ง บรรพอาจารย์แสงดาวทั้งสามคนก็ได้รับผลกระทบจากมหาค่ายเพลาไหลรวยเช่นกัน ลาร์และมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิลงมืออย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรพอาจารย์แสงดาวและบรรพอาจารย์จ้านเทียนบาดเจ็บสาหัส เมื่อบรรพอาจารย์มหาวาลเห็นว่าสถานการณ์ย่ำแย่ จึงผันร่างเป็นแสนกลดวงหนึ่งอย่างไม่ลังเลใจ ถึงขั้นหลุดพ้นจากพันธนาการและผลกระทบของมหาค่ายเพลาไหลรวย หายวับไปอย่างไร้ร่องรอยภายในเสี้ยววินาที
มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิตกตะลึงพรึงเพริดเล็กน้อย เดิมทีนึกว่าหลังจากร่องรอยถูกเปิดเผยแล้ว แผนการแก่งแย่งสมบัติในครั้งนี้ก็จะล้มเหลวโดยสิ้นเชิงแล้ว เนื่องจากเขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าตนจะสามารถหลุดพ้นออกไปจากค่ายกลของหงหวู้ได้โดยสมบูรณ์
แต่เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่ามาตรฐานด้านค่ายกลของหลัวซิวจะสูงส่งเช่นนี้ ถึงขั้นสยบหงหวู้ได้อย่างนั้นหรือ? เจ้าหมอนี่เป็นผู้ใดกลับชาติมาเกิดกันแน่?
เท่าที่เขาทราบมา ตัวหลัวซิวเองยังเป็นนักยาเซียนที่ปราดเปรื่องมาก ๆ อีกด้วย ครั้นเมื่อเขาสะสมต้นยาเซียนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ ก็เคยพูดเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่าจะกลั่นเม็ดยาเซียนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์
ผลการฝึกตนวิถียุทธ์แข็งแกร่งมากดุจปีศาจก็ทำให้ผู้คนจนปัญญามากแล้ว แต่ฝีมือด้านวิถีค่ายกลและวิถียาของเขาก็ยังแข็งแกร่งเช่นนี้อีก นี่มันน่าสยดสยองมากเกินไปแล้ว
จู่ ๆ มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิก็รู้สึกโชคดีเล็กน้อยที่ก่อนหน้านี้ตนได้แสดงจุดประสงค์ดีต่อหลัวซิวแล้ว อนาคตทันทีที่คนประเภทนี้เติบโตขึ้นมา มาตรแม้นว่าเติบโตแค่ถึงแดนจักรพรรดิเทพ หากจะรอจังหวะมาตามคิดบัญชีแก้แค้นกับตัวเองทีหลังละก็ แค่คิดก็ทำให้มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเล็กน้อยแล้ว
บรรพอาจารย์มหาวาลบินหนีไปแล้ว บรรพอาจารย์แสงดาวและบรรพอาจารย์จ้านเทียนหวาดหวั่นมากจนใบหน้าหม่นหมอง รู้ว่าภารกิจไม่สำเร็จ จึงต่างพากันปลดปล่อยอุบายของตัวเอง หลุดพ้นจากผลกระทบของมหาค่ายเพลาไหลรวย แล้วออกจากเขตพื้นที่ของภูเขาถูหลิงอย่างรวดเร็ว
หลัวซิวโบกมือหยุดยั้งลาร์ที่จะไล่ตามไป บัดเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการก็คือตามหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูเขาถูหลิงนี้ มิเช่นนั้นหากบรรพอาจารย์ทั้งสามคนที่หนีรอดออกไปได้ระดมกำลังคนมาถึง สถานการณ์ก็จะสูญเสียการควบคุมได้ง่ายมาก
ธงค่ายนับพันผืนล้วนเป็นสิ่งที่หงหวู้ทุ่มเทสร้างด้วยชีวิตจิตใจตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ทว่ากลับถูกหลัวซิวแก่งแย่งไปเกือบครึ่งภายในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เหลือธงค่ายไม่ถึงสองร้อยผืนที่ยังควบคุมอยู่ในกำมือตน
นี่จึงทำให้หงหวู้ที่มั่นใจในวิถีค่ายกลของตัวเองมาโดยตลอดหัวเสียมากจนแทบจะกระอักเลือด โดยเฉพาะพันธมิตรสามคนที่เขาเชื้อเชิญมาได้ทอดทิ้งตัวเองอย่างไม่ลังเลใจ นี่จึงทำให้จิตใจเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยวที่หาที่เปรียบไม่ได้