มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2636
ดูดจิตบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพแล้ว หลัวซิวจัดแจงให้เขาออกเดินทางพร้อมกับลาร์ เพื่อมุ่งหน้ามายังโลกาบรรพมารพร้อมกัน
ตั้งแต่สิ้นสุดศึกสงครามระหว่างทั้งสามเผ่าพันธุ์เป็นต้นมา ถึงแม้เผ่าพันธุ์มารจะถูกกดขี่ไม่รุนแรงมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยมีผู้แข็งแกร่งที่สามารถเทียบทัดจักรพรรดิมารบุกเบิกอุบัติขึ้นมาในเผ่าพันธุ์ใหญ่ทั้งห้าที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดเช่นกัน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในห้าเผ่าพันธุ์ใหญ่ก็เป็นจักรพรรดิเทพขั้นสูง
ต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มารในยุคหลัง ต้องสืบสาวราวเรื่องกลับไปถึงอสูรโบราณดาราในยุคไท่ชู ซึ่งเผ่าพันธุ์ดูดจิตเป็นเผ่าพันธุ์อสูรโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคสมัยนั้น สามารถพูดได้เลยว่าเป็นผู้บุกเบิกสายเลือดของเผ่าพันธุ์มาร
เมื่อก่อนหลัวซิวก็เคยมีความคิดที่จะให้ดูดจิตบัญชาการเผ่าพันธุ์มารหลังจากดูดจิตเจริญเติบโตขึ้นมา แต่ทว่าแผนการนี้ของเขายังไม่ทันได้ลุล่วง เขาดึกดำบรรพ์ก็ร่วมมือกับกองกำลังทั้งหลายหวังจะปราบปรามเผ่าจี้แล้ว เผ่าพันธุ์มารก็ถูกดึงเข้าพวกเช่นกัน
ปัจจุบันลาร์ที่สามารถใช้ผลการฝึกตนและตัวสำนึกได้นิดหนึ่ง พอจะพูดได้เลยว่าสามารถทำเรื่องทุกอย่างโดยไร้ความพะวง เขาและดูดจิตมาถึงรังมังกรแท้อีกครั้ง
ดูดจิตกลายร่างเป็นร่างดั้งเดิมโดยตรง ปลดปล่อยพลังออร่าที่มากมายมหาศาลของสายเลือดชนเผ่าราชันย์อสูรกลืนจิตออกมา หลังจากเขาบรรลุถึงแดนจักรพรรดิเทพแล้ว ออร่าสายเลือดก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เผ่าพันธุ์มังกรทั้งหลายที่อยู่ในรังมังกรแท้จึงสัมผัสได้ภายในพริบตา
เผ่าพันธุ์มังกรนับไม่ถ้วนที่ฝึกตนปิดขังอยู่ในรังมังกรต่างพากันเดินออกมา มีบางส่วนผันร่างเป็นร่างดั้งเดิมแล้วบินขึ้นนภาสูง มังกรเฒ่าแต่ละตัวก็เดินออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจเช่นกัน ออร่าสายเลือดที่แข็งแกร่งนี้ทำให้พวกเขาราวกับมองเห็นผู้บุกเบิกที่เก่าแก่
เมื่อพวกเขาเห็นร่างดั้งเดิมของอสูรดูดจิตที่ลอยอยู่บนนภาเหนือรังมังกรแท้ สีหน้าของผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มังกรบางส่วนจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยกะทันหัน เนื่องจากพวกเขาต่างจำได้แล้วว่านั่นคือสัตว์ที่ใช้ขี่ของหลัวซิว
“ดูดจิตข้าคือเผ่าพันธุ์ดูดจิตแห่งอสูรโบราณดารา และต้นกำเนิดสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเจ้าก็มาจากเผ่าพันธุ์ดูดจิตของข้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าเป็นบรรพชนเผ่ามังกรของพวกเจ้า มีผู้ใดไม่พอใจหรือไม่?”
ร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬารของดูดจิตลอยอยู่กลางนภา ถึงแม้พวกมังกรเฒ่าระดับจักรพรรดิเทพจะกลายร่างเป็นร่างดั้งเดิม ขนาดของพวกเขาก็เล็กกว่าดูดจิตเป็นหนึ่งวงใหญ่เลย แตกต่างราวกับมังกรงูและปลาไหล
ลาร์ลงมือบุก ทุกคนที่ไม่พอใจล้วนถูกสังหารโดยตรง ดูดจิตปลดปล่อยเคล็ดวิชาด้วยพลังสายเลือด สายเลือดของทุกคนในเผ่าพันธุ์มังกรล้วนจะถูกเขาควบคุม เพียงเสี้ยวความคิดเดียว ดูดจิตก็สามารถกระตุ้นพลังสายเลือด ทำให้สายเลือดของพวกเขาถูกเผาผลาญจนตาย!
……
เวลาล่วงเลยไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว สายตาที่นับไม่ถ้วนล้วนจับจ้องมาทางดารายอดอัมพร
วันนี้ มีพลังออร่าที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจคาดเดาได้เชี่ยวกรากอยู่นอกดารายอดอัมพร เรือรบขนาดใหญ่หลายลำบินลอยมาถึง มีภูเขาสูงใหญ่ที่มีรัศมีเทวลอยเป็นเกลียวขึ้นไปตั้งตระหง่านอยู่กลางเรือรบจำนวนมาก บนยอดเขามีพระราชวังตั้งอยู่หนึ่งหลัง พลังออร่าที่แข็งแกร่งทั้งหลายพุ่งทะยานขึ้นฟ้า เลือดปราณดั่งมังกร
“เขาดึกดำบรรพ์มาแล้ว!”
ภายในแดนปริศนาเผ่าจี้ กลุ่มผู้อาวุโสที่มีจีเสวียนคงเป็นผู้นำต่างพากันแผ่ตัวสำนึกออกไปสำรวจ สีหน้าของแต่ละคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความยากลำบาก
“ช่างเป็นศักยภาพที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เหล่าผู้อาวุโสสบตากันและกัน เนื่องจากแค่กองกำลังเขาดึกดำบรรพ์ ก็มีผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์สามคนแล้ว ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพก็มีสิบกว่าคนเช่นกัน เขาเซียนที่ถูกเรือรบที่นับไม่ถ้วนโอบล้อมยิ่งเป็นสมบัติที่เขาดึกดำบรรพ์ใช้กดอัดดวงชะตา ซึ่งมีนามว่าภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์เล่ากันว่ามันคือสมบัติแห่งกฎที่อยู่เหนือระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์!
ภายในพระราชวังบนภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์มีลำแสงดวงหนึ่งบินออกมาจากด้านใน ก่อนจะกลายเป็นราชรถคันหนึ่งที่มีอ่อร่าอห่งฟ้าดินไหลเวียน และประมุขเขาดึกดำบรรพ์ซือถูเซิ่งเจี๋ยก็นั่งอยู่บนราชรถนี่แหละ
นอกจากผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงกลางอย่างซือถูเซิ่งเจี๋ยแล้ว ภายในพระราชวังบนภูเขาเซียนดึกดำบรรพ์นั่นยังมีมหาจักรพรรดิยุทธ์อำพรางอยู่อีกสองคน หนึ่งในพลังออร่าทำให้หลัวซิวรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขาคือหรงเทาที่มาจากตำหนักเฉินหยู
“กรรมาปะ เผ่าพันธุ์ทั้งห้าแห่งบรรพมาร สำนักจักรพรรดิแสงดาวและสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนยังไม่มาเลย แค่เขาดึกดำบรรพ์ก็แข็งแกร่งเช่นนี้แล้ว เผ่าจี้ของเราจักต้านทานไหวได้อย่างไร?”จีเสวียนคงพูดกระแทกเสียงต่ำ