41.นอนเกด
กู้หรูเฟิงเพิ่งนึกออกว่าตนเองยังจูงมือหลัวเจินอยู่ ก็ให้รู้สึก กระอักกระอ่วน แล้วรีบปล่อยมือนางลงทันที เขาเอ่ยขึ้นมาอีกประโยค
“ขอ.ขออภัย
หลิวเจินมัวแต่จัดการธุระของตน จึงไม่ได้ยิน ก็เลยไม่ได้
โต้ตอบอีกฝ่าย
ดังนั้นกู้หรูเฟิงจึงจำต้องไปล้างหน้าบ้วนปาก แล้วมานั่งรอ หลิวเจินบนเตียง
“เหตุใดยังไม่นอนเล่า?” หลิ่วเจินถามเมื่อเห็นกู้หรูเฟิงยัง คงนั่งอยู่ ไม่รู้ว่าเหม่อลอยหรือเป็นอะไร แต่ก็นั่งอยู่ และนั่งหลัง ตรงแน่วด้วย
หลิ่วเจินพูดไม่ออกเล็กน้อย เกิดอะไรขึ้นกับชายผู้นี้อีก? ไม่ใช่ว่ายังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่นะ?
“ข้ารอเจ้าอยู่” กู้หรูเฟิงหันขวับมามองหลิ่วเจิน ดวงตาดำ ขลับสงบนึ่ง น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยยังคงทุ่มนุ่มน่าฟังอยู่
หลิวเจินรู้สึกฉงนในใจ หลังหญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ซึ่งอยู่ ตรงข้ามกับเตียงแล้ว จึงเอียงคอน้อย ๆ แล้วถามกู้หรูเฟิง “เหตุใดถึงคอยข้าเล่า?” ว่าแล้วหญิงสาวก็หันหลังกลับ เริ่มไป เก็บข้าวของบนโต๊ะ กะว่าจะทำความสะอาดโต๊ะแล้วค่อยเข้า นอน
กู้หรูเฟิงมองแผ่นหลังหลิ่วเจีย
ในใจเอาแต่คาดเดาว่าเจินกำลังคิดอะไรในใจอยู่
หลิ่วเจินสนใจอยู่แต่กับงานในมือของตนเอง ไม่รู้ว่ากู้หรู เฟิงกำลังคิดอะไร ในยามนี้สมองของกู้หรูคิดฟุ้งซ่านไปไกล สุดกู่แล้ว
“เจ้า..ตอนนี้เจ้าโกรธอยู่รี?” กู้หรูเฟิงถามขึ้นอย่างระแวง
หลิวเจินยักไหล่ “โกรธ? ก็มีบ้าง แค่รู้สึกว่ายายป้านี่ น่า รำคาญจริง ๆ แถมยังน่าเบื่อหน่ายเป็นที่สุด” หลิ่วเจินไม่อยาก สนใจมากนัก หญิงสาวเร่งมือโกยของบนโต๊ะใส่มือเร็ว สิ่งที่ คิดอยู่ในหัวตอนนี้ก็คือ นางเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว อยากรีบไป เอนหลังนอนบนเตียงแล้วหลับเป็นตายเร็ว ๆ ไม่คาดคิดเลยว่า จะเกิดเรื่องกระทันหันเช่นนี้ขึ้นมา
ขณะที่กู้หรูเฟิงกำลังจะยืนขึ้นเพื่อมองดูว่าหลิ่วเจินกำลัง ทำอะไรอยู่ ทว่าหลิ่วเจินก็เอ่ยต่อ “ท่านนอนไปก่อนเลย ประเดี๋ยวข้าจะไปนอนที่พื้นเอง จะได้ไม่กวนท่านด้วย”
ยามนี้หลิ่วเจินกำลังคิดว่าที่นี่มีอะไรที่จะเอามาพัฒนาได้ บ้าง นางจะได้เอามาสร้างความร่ำรวยให้พวกตน ครอบครัวยามนี้ ยังไม่ถือว่าลืมตาอ้าปากได้ ฐานะ
กู้หรูเฟิงหลิ่วเจินบอกจะนอนพื้น ก็ให้เดือดเนื้อร้อน ใจมาก “ไม่ เจ้าจะนอนบนพื้นได้อย่างไร บนพื้นเย็นเกินไปนะ
หลิ่วเจินตอบโดยไม่เงยหน้า “ก็แค่เย็นกว่านิดหน่อยเราซื้อข้าวของมาพอแน่นอน ซื้อผ้าฝ้ายมาหลายพับ ข้าไม่ได้ เย็บผ้านวมฝ้ายไว้ตั้งหลายผืนหรอกรี? มันมีเพียงพอจนเอามาปูนอนบนพื้นได้เลย และไอ้การที่นอนเบียดเสียดกันบนเตียง เล็ก ๆ แบบนั้นอยู่เรื่อย ๆ น่ะ มันไม่ดีหรอกนะ ซ้ำยังมีเรื่องชา ท่านอีก รวมทั้งแผลเป็นบนใบหน้าท่านคล้ายจะแย่ลงนะ ข้า ต้องรีบทำความสะอาดห้องให้ท่านเสียแล้ว”
กู้หรูเฟิงกำมือแน่น นี่หมายความว่านางต้องการรักษา ระยะห่างกับเขารี? ยอมนอนหนาวมากกว่านอนเบียดกับเขารี?
กู้หรูเฟิงไม่รู้ว่าเหตุใด จู่ ๆ ถึงได้รู้สึกเสียดแทงใจนัก เป็น รสชาติที่ไม่อาจบรรยายได้
หลิ่วเจินรอฟังคำตอบเป็นนาน ก็ไม่ได้เสียงกู้หรูเฟิงสัก
แอะ หญิงสาวจึงเหลียวหลังมามอง จึงเห็นกู้หรูเฟิงยืนนิ่งอยู่ ข้างหลังตน
“มีอะไรหรือเปล่า?”หลิ่วเจินให้รู้สึกงุนงง ชายคนนี้ไม่ยอม หลับยอมนอน จะมายื่นที่นี่เพื่ออะไรกัน?
พอโดนหลิ่วเจินร้องถาม กู้หรูเฟิงจึงตื่นจากภังค์ “หรือว่า เจ้าไปนอนบนเตียงกับข้าก่อน แล้วถึงพรุ่งนี้ค่อยคิดหาทาง ขยายเตียงให้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย”
หลิวเจินโบกมือปฏิเสธ”อย่าทำให้มันยากลำบากนักเลย ก็แค่เรื่องเล็ก ๆ เรื่องหนึ่ง นอนบนพื้นก็ดีเหมือนกัน ท่านไปนอน เถิด พอหลิ่วเจินกล่าวจบ ก็หันกลับไปโกยของในมือต่อ แล้ว กล่าวเสริมอีก “ท่านไปนอนก่อนเถิด ส่วนข้าอีกไม่นานก็เสร็จ แล้ว”
กู้หรูเฟิงเห็นว่าหล่วเจินไม่อยากสนใจเขาอีก จึงหมดทางเลือก จำต้องหันหลังเดินกลับไปที่เตียง ค่อย ๆ ล้มตัวลงนอน ขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปทางหลิวเจิน