The king of War – บทที่ 2168 ยาหลายร้อยเม็ด

The king of War - บทที่ 2168 ยาหลายร้อยเม็ด

The king of War บทที่ 2168 ยาหลายร้อยเม็ด

สิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว ถ้ายังปฏิเสธมือผีอีก ก็ไม่มีความหมายอะไร

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณก็เข้าร่วมทีมบูโดชั่วคราวก่อน เมื่อถึงเวลาอันควร ผมจะให้คุณมาช่วยเหลือ”

หลังจากที่หยางเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดขึ้น

มือผีรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว “ครับ!”

หลังจากครึ่งชั่วโมง หยางเฉินพามือผีกลับไปที่ศูนย์อำนวยการกองยุทธการจงโจว

เมื่อเย่จางกั๋วและผู้มีอิทธิพลกองยุทธการคนอื่นๆแห่งจงโจวรู้ว่ามือผีจะเข้าร่วมทีมบูโด ต่างก็ตกตะลึง

ยังไงมือผีเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นต้น และทีมบูโดในตอนนี้ พละกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด คือจู้ยิงซานที่พึ่งเข้าร่วมเมื่อหลายวันก่อน แต่ก็เป็นเพียงแดนนภาขั้นสองชั้นกลางเท่านั้น

“จู้ยิงซาน คุณพาผู้อาวุโสมือผีไปที่ทีมบูโดก่อน”

หลังจากแนะนำมือผีให้กับเย่จางกั๋วและคนอื่นๆแล้ว หยางเฉินก็ให้จู้ยิงซานพามือผีออกไป

และเย่จางกั๋วก็แยกย้ายกันไป ในห้องเหลือเพียงหยางเฉินและเมิ่งชิงหลัน

“ฉันก็รู้ว่า คุณต้องไม่เป็นไร!”

เมื่อไม่มีคนอื่นแล้ว เมิ่งชิงหลันจึงพูดด้วยอารมณ์ตื่นเต้น

ปากเธอบอกว่าหยางเฉินต้องไม่เป็นอะไร แต่ดูจากดวงตาที่แดงก่ำของเธอ ก็สามารถบอกได้ว่าก่อนหน้านี้เธอกังวลมากแค่ไหน

หยางเฉินยิ้มเล็กน้อย มองไปที่เมิ่งชิงหลันแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ช่วงเวลานี้ ลำบากคุณแล้วนะ!”

เขารู้ว่า ช่วงเวลาสิบวันที่เขาหายตัวไป เมิ่งชิงหลันลำบากแค่ไหน เธอตามหาเขาทุกวัน

ก่อนหน้านี้ ตอนที่เขายังอยู่ที่เขาหวังใต้ซากปรักหักพัง เขาก็รู้ว่าเมิ่งชิงหลันได้พาคนไปตามหาเขา แต่ในเวลานั้นสถานการณ์ฉุกเฉิน เขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่สามารถปรากฏตัวให้เห็นได้

ในวันนี้ ทันทีที่เขาฟื้นตัว ก็ถูกฉีเทียนเหอสัมผัสลมปราณของเขาได้

เย่จางกั๋วถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หยางเฉินนี่ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

หยางเฉินส่ายหัวเล็กน้อย โดยไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก แต่ถามว่า “ในช่วงเวลานี้ ไม่เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นใช่ไหม? ตระกูลบู๊โบราณมีท่าทีที่ละเมิดกฎใหม่หรือไม่?”

เขาหายตัวไปเป็นเวลาสิบวันเต็มๆ ดังนั้นตระกูลบู๊โบราณจะต้องรู้อย่างแน่นอน

อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นตัวแทนของสมาคมผู้อาวุโส และถ้าเขาตาย ต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก

เย่จางกั๋วรีบพูด ในจงโจว ณ.เวลานี้ไม่พบคนของตระกูลบู๊โบราณที่ละเมิดกฎใหม่ แต่กลับเป็นสี่โจวมีเหตุการณ์การละเมิดกฎใหม่เกิดขึ้นมากมาย”

“ยังไงทีมบูโดเพิ่งจะก่อตั้งขึ้น ตอนนี้ในจงโจวเป็นเพียงสถานที่ทดลอง เมืองอื่นไม่มีนักบูโดที่สามารถปราบปรามผู้แข็งแกร่งของโลกบู๊โบราณล่างได้ ดังนั้นจึงมีเหตุการณ์ที่ละเมิดกฎใหม่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ”

“แต่คุณวางใจเถอะ ในช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่ สมาคมผู้อาวุโสได้จัดให้ผู้คนไปยังเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งทีมบูโด รอแต่ละโจวจัดตั้งทีมบูโดเสร็จแล้ว เหตุการณ์การละเมิดกฎใหม่น่าจะลดน้อยลง”

หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อย “งั้นก็ดี!”

เขาเปลี่ยนคำพูด “เพียงแต่ว่า ทีมบูโดได้ดูดซับผู้ฝึกตนในโลกบู๊โบราณล่างจำนวนมาก ตระกูลบู๊โบราณไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยเลยเหรอ?”

“ผมรู้สึกว่า มีบางอย่างผิดปกติ ตระกูลบู๊โบราณไม่น่าจะไม่แก้ไขใดๆ”

พูดถึงตรงนี้ หยางเฉินก็ขมวดคิ้ว

เดิมทีในโลกบู๊โบราณล่าง ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลบู๊โบราณกับผู้ฝึกตนนั้นก็ตึงเครียดมาก ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ผู้ฝึกตนถูกตระกูลบู๊โบราณกดขี่อย่างหนัก และไม่ได้ทรัพยากรชั้นเลิศในการบำเพ็ญเลย

ตอนนี้ทั้งสองโลกได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ตระกูลบู๊โบราณพยายามที่จะหยั่งรากในโลกมนุษย์ ก็ถูกจำกัดเช่นกัน อาจกล่าวได้ว่า ไม่ได้ราบรื่นเลย

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สมาคมผู้อาวุโสที่ควบคุมตระกูลบู๊โบราณ ใช้ทีมบูโดที่ใจกล้าในการดึงดูดผู้ฝึกตน ซึ่งเดิมทีผู้ฝึกตนกฌมีความแค้นต่อโลกบู๊โบราณล่างกับตระกูลบู๊โบราณ แล้วตระกูลบู๊โบราณไม่กังวลสักนิดเลยเหรอ?

หยางเฉินไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมคนของตระกูลบู๊โบราณถึงอดกลั้นได้

เย่จางกั๋วพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “บางที ตระกูลบู๊โบราณอาจยอมรับความจริงนี้ได้แล้ว?”

หยางเฉินส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้!”

เขารู้ดีว่า คนในตระกูลบู๊โบราณหยิ่งยโสเพียงใด อย่างน้อยที่สุดคนของตระกูลบู๊โบราณที่เขาติดต่อด้วย แทบจะดูถูกเหยียดหยามคนของโลกมนุษย์ทั้งนั้น

บางทีในสายตาของพวกเขา คนของโลกมนุษย์ เป็นแค่มดที่พวกเขาสามารถเหยียบย่ำให้ตายได้อย่างง่ายดาย

สำหรับสมาคมผู้อาวุโส พวกเขาย่อมหวาดกลัวอยู่แล้ว แน่นอน สิ่งที่พวกเขากลัวจริงๆคือกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังของสมาคมผู้อาวุโส ซึ่งเป็นกองกำลังที่แม้แต่หยางเฉินก็ไม่อาจรู้

แน่นอนว่า พวกเขาแค่หวาดกลัวต่อกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังสมาคมผู้อาวุโสเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆในโลกมนุษย์ พวกเขาแทบไม่อยู่ในสายตาเลย

ต้องรู้ว่า เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในโลกบู๊โบราณล่าง พวกเขาต่างก็ดูถูกผู้ฝึกตนมาก และโลกมนุษย์ในปัจจุบัน มีนักบูโดผู้แข็งแกร่งที่ทะลวงเข้าสู่แดนนภาอย่างแท้จริง มีไม่กี่คน

“บางที พวกเขาอาจไม่เห็นคนของโลกมนุษย์อยู่ในสายตาเลย”

ในเวลานี้ จู่ๆเมิ่งชิงหลันก็พูดขึ้น

หยางเฉินพยักหน้า แม้ว่าเย่จางกั๋วไม่ต้องการที่จะยอมรับ แต่ก็รู้ดีว่า นี่คือความจริง

“เอาล่ะ อย่าพึ่งไปสนใจเรื่องของตระกูลบู๊โบราณเลย”

เย่จางกั๋วไม่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับตระกูลบู๊โบราณอีก แต่มองไปที่หยางเฉิน และพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล “มือผีเป็นคนของในโลกบู๊โบราณตระกูลฉี แต่คุณให้เขาเข้าร่วมทีมบูโด ไม่เหมาะสมมั้ง?”

เมิ่งชิงหลันก็มองไปที่หยางเฉินเช่นกัน ขมวดคิ้วและพูดว่า “มือผีเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นกลาง อยู่ในโลกมนุษย์แล้ว การดำรงอยู่อย่างสูงส่ง ให้เขาเข้าร่วมทีมบูโด อาศัยพวกเรา แทบควบคุมเขาไม่ได้เลย”

หยางเฉินส่ายหัวเล็กน้อย “ชิงหลัน คุณไม่จำเป็นต้องควบคุมเขา คุณแค่เข้าใจไว้ การที่เขาเข้าร่วมทีมบูโด จะช่วยพวกเราได้มาก”

“สำหรับการทรยศ พวกคุณสามารถวางใจได้ เขาไม่ทรยศหรอก”

มีคำพูดหนึ่งที่หยางเฉินไม่ได้พูด นั่นคือ อย่างน้อยก่อนที่หยางเฉินจะไปจากโลกมนุษย์ มือผีจะไม่ทรยศอย่างแน่นอน

หยางเฉินไม่ค่อยได้ติดต่อกับมือผี สำหรับมือผีเป็นคนแบบไหนกันแน่ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ

เขารู้เพียงว่า ตราบใดที่ตนเองยังไม่ได้ไปที่โลกบู๊โบราณกลาง มือผีก็จะเชื่อฟังโดยดี

ในเมื่อ ยาที่เขาจะให้มือผีนั้นคนในตระกูลบู๊โบราณไม่มีใครที่สามารถให้ได้

“ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้ งั้นผมก็วางใจ”

เมิ่งชิงหลันพยักหน้าแล้วถามอีกครั้ง “เพียงแต่ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นต้น อยู่ในทีมบูโด ควรมีตำแหน่งอะไร?”

หยางเฉินส่ายหัว “ไม่จำเป็นต้องมอบหมายอำนาจตำแหน่งใดๆให้เขา”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดอีกครั้ง “เอาอย่างนี้ ให้ตำแหน่งครูฝึกที่ไม่มีอำนาจแก่เขา ต่อไป ก็ให้เขาสอนนักบูโดในทีมบูโดของเรา”

เมิ่งชิงหลันพยักหน้า “ตกลง!”

เย่จางกั๋วก็เปิดปากพูด “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คิดว่าคุณคงมีวิธีควบคุมมือผี งั้นผมก็วางใจแล้ว”

พูดจบ เขาก็ทำท่าลังเลที่จะพูดอีกครั้ง

หยางเฉินยิ้มและถามว่า “ผู้บัญชาการเย่ คุณมีอะไรจะพูด ก็พูดมาตรงๆเลย คนกันเองทั้งนั้น”

จากนั้นเย่จางกั๋วก็ถามด้วยความเกรงใจ “หยางเฉิน คุณช่วยกลั่นยาเสือมังกรสักเม็ดให้ผมได้ไหม?”

หยางเฉินนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยิ้มและพูดว่า “ผู้บัญชาการเย่ ตอนนี้คุณน่าจะอยู่แดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางนะ? ถ้าจะกินยาเสือมังกร อย่างน้อยต้องรอให้คุณไปถึงให้แดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด ถ้ากินตอนนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณไม่อาจทะลุแดน แต่อาจสร้างความเสียหายต่อรากฐานบูโดของคุณนะจนไม่อาจแก้ไขได้”

เย่จางกั๋วยิ้มอย่างขมขื่น และพูดว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด อีกไม่นาน คุณก็จะไปจากจงโจวแล้วใช่ไหม? หลังคุณจากไปแล้ว หากจะพบคุณอีก เกรงว่าคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะจากไป ผมจึงหน้าด้านขอร้องให้คุณช่วยกลั่นยาเสือมังกรให้ผมสักเม็ด รอให้แดนบูโดของผมถึงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด ถึงตอนนั้นค่อยกิน”

ตามด้วย เขาก็รีบอธิบาย “แน่นอน สำหรับวัสดุยาที่จะกลั่นยาเสือมังกร ผมจะเตรียมไว้ให้ท่าน”

ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง หยางเฉินยิ้ม และหยิบขวดหยกกองใหญ่ออกมาจากแหวนเก็บของมองจำนวนแล้ว น่าจะมีหลายร้อยชิ้น

ภายใต้การจ้องมองที่ตกตะลึงของเย่จางกั๋วกับเมิ่งชิงหลัน หยางเฉินพูดว่า “นี่คือยาที่ก่อนหน้านี้ผมได้เตรียมไว้สำหรับกองยุทธการในจงโจว มีตั้งแต่ระดับที่หนึ่งถึงระดับที่สาม ประสิทธิภาพของยาแต่ละชนิดและวิธีกินยาอยู่ในหนังสือคู่มือนี้”

“ต่อไป ผมจะอาศัยสมาคมผู้อาวุโส เพื่อส่งมอบยาแต่ละระดับให้กับกองยุทธการในแต่ละที่เรื่อยๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่จางกั๋วกับเมิ่งชิงหลันตกตะลึงสุดๆ

ในขวดหยกหลายร้อยขวดนี้ เต็มไปด้วยยา

ยาที่มีจำนวนมากขนาดนั้น แม้ว่าตระกูลบู๊โบราณชั้นนำเหล่านั้น ก็คงไม่มีมั้ง?

หยางเฉินอาศัยพลังของตัวเอง แล้วทำได้อย่างไร?

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท