The king of War บทที่ 2224 เซี่ยเหอที่น่ากลัว
“ไปให้พ้น!”
เมื่อผู้แข็งแกร่งสกุลหวางมาอยู่ตรงหน้าเธอ ออร่าบู๊อันทรงพลังก็แผ่ออกมาจากตัวของเมิ่งชิงหลัน เธอเหวี่ยงดาบอาถรรพ์ในมือไปทางชายสกุลหวัง
“เพี๊ยะ!”
แต่ทว่าดาบที่แหลมคมในมือของเมิ่งชิงหลันยังไม่ได้ทันแตะชายผู้แข็งแกร่งสกุลหวัง ก็ถูกอีกฝ่ายจับมือไว้
แม้ว่าพลังของเมิ่งชิงหลันจะแข็งแกร่งมากในโลกมนุษย์แต่เธอก็ยังเด็กเกินไป ตอนนี้เธอมีพลังแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามชายผู้แข็งแกร่งนามสกุลหวังคือผู้แข็งแกร่งระดับแดนนภาขั้นสี่ แดนบูโดระหว่างทั้งสองนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเมิ่งชิงหลันจะสู้อย่างสุดชีวิตก็ทำอะไรเขาไม่ได้แม้แต่น้อย
“ฮ่าๆ แสบมาก! ฉันชอบ!”
ชายสกุลหวังหัวเราะเสียงดัง เขาไม่ได้หงุดหงิดกับการกระทำของเมิ่งชิงหลัน เลยแต่กลับรู้สึกตื่นเต้นมาก
ทันใดนั้นสีหน้าของเมิ่งชิงหลันก็เปลี่ยนไปทันที เธอรู้ว่าอีกฝ่ายมีพลังมาก แต่เธอไม่คิดว่าความต่างของตนกับอีกฝ่ายจะมากเช่นนี้
อีกด้านหนึ่งผู้แข็งแกร่งสกุลหลิวก็ปรากฏตัวต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซี่ยเหอผู้ที่สนใจวิถีบู๊อย่างกะทันหัน
ตอนนี้เซี่ยเหอแสดงความเย็นชาที่น่ากลัว มองชายผู้แข็งแกร่งสกุลหลิวซึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเธอและไม่พูดอะไร แค่มองเขาอย่างเย็นชาสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
ผู้แข็งแกร่งสกุลหลิวอยู่ใช้ยันต์บินอยู่ในอากาศ จึงเห็นเซี่ยเหอจากระยะไกลเท่านั้น เมื่อเขาเผชิญหน้าอย่างใกล้ชิดก็รู้สึกประหลาดใจมาก เขาเห็นว่าสตรีตรงหน้างดงามเพียงใด
แม้แต่ผู้หญิงที่ฝึกเสน่ห์ในโลกบู๊โบราณล่างแล้วก็ไม่มีเสน่ห์เท่ากับเซี่ยเหอ
ทันใดนั้นชายผู้แข็งแกร่งแซ่หลิวก็พูดว่า: “มาเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะให้ทรัพยากรการบำเพ็ญเพียรที่เธอไม่เคยเห็นในโลกมนุษย์”
“ไสหัวไป!”
เซี่ยเหอตอบเพียงคำเดียว
สีหน้าของทุกคนซับซ้อนมาก ทั้งตลก หยอกเย้าและกังวล
ชายผู้แข็งแกร่งสกุลหลิวขมวดคิ้ว หรี่ตามองเซี่ยเหอและแนะนำตัวเองว่าโดยไม่สนใจ: “ฉันชื่อหลิวชิ่ง มาจากสำนักชั้นนำในโลกบู๊โบราณล่าง”
“หากเธอยินดี ฉันสามารถตามฉันไปสำนักเทียนไห่ และกลายเป็นศิษย์ภายในของสำนักเทียนไห่ตั้งแต่นี้ มีฉันอยู่ฉันจะให้เธอได้รับทรัพยากรบำเพ็ญเพียรที่มีเฉพาะบูโดอัจฉริยะแนวหน้าเท่านั้นที่จะได้รับ”
หลิวชิ่งดูเหมือนจะอายุประมาณสี่สิบปี อายุเท่านี้สามารถฝึกฝนไปถึงแดนนภาขั้นสี่ชั้นกลางได้ ถือได้ว่าเป็นบูโดอัจฉริยะระดับแนวหน้าจริงๆ
ผู้แข็งแกร่งที่ติดตามหลิวชิ่งก็อายุไม่มากนัก โดยมีอายุระหว่างสามสิบห้าถึงสี่สิบห้าปี
ในหมู่พวกเขาส่วนใหญ่แดนบูโดอยู่ระดับแดนนภาขั้นสี่ชั้นต้น มีเพียงหลิวชิ่งและอีกคนหนึ่งเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นสี่ชั้นกลาง
หลังจากได้ยินการแนะนำตัวเองของอีกฝ่าย เซี่ยเหอไม่เพียงแต่ไม่สนใจแม้แต่น้อย แต่มีความรังเกียจในสายตามากขึ้นด้วย
เธอมองหลิวชิ่งอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ทันใดนั้นออร่าบู๊ในตัวของเธอก็เริ่มเพิ่มขึ้น
ตอนแรกพลังของเธอยังอยู่ระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นเท่านั้น แต่ไม่นานพลังของเธอก็ไปเพิ่งขึ้นถึงระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
จากนั้นปราณบูโดของเซี่ยเหอก็ไต่ระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ก้าวเข้าสู่แดนนภาขั้นสองและตามแดนนภาขั้นสามจนไปถึงแดนนภาขั้นสามชั้นยอด
ทุกคนที่อยู่ในนั้นตะลึงอย่างสุดขีด
เย่จางกั๋วและคนอื่นๆก็ว่าเธอคือเซี่ยเหอ แค่คิดว่าเซี่ยเหอเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่เพิ่งเข้ามาบำเพ็ญเพ็ญเพียร แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าเซี่ยเหอจะมีพลังแดนนภาขั้นสามชั้นยอด
ตอนนี้หลิวชิ่งและคนอื่นๆจากสำนักเทียนไห่โลกบู๊โบราณกลางต่างตกตะลึงนี่เป็นนักบูโดโลกมนุษย์จริงๆเหรอ?
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือเซี่ยเหอดูอายุน้อยมาก เหมือนยังไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ แต่กลับมีพลังแดนนภาขั้นสามชั้นยอด
พรสวรรค์ด้านบูโดเช่นนี้แม้ว่าจะอยู่ในสำนักเทียนไห่ก็เป็นบูโดอัจฉริยะชั้นยอดที่ได้รับการฝึกฝนจากสำนักเป็นพิเศษ
ประเด็นสำคัญคือบูโดอัจฉริยะอย่างพวกเขาที่มาจากสำนักเทียนไห่ ล้วนฝึกฝนในโลกบู๊โบราณล่างที่ชี่ทิพย์เข้มข้นกว่าโลกมนุษย์ และพวกเขายังดื่มด่ำกับทรัพยากรบำเพ็ญเพียรของสำนักที่นับไม่ถ้วนจนมีแดนบูโดอย่างทุกวันนี้
แต่เซี่ยเหอสามารถบำเพ็ญเพียรได้ถึงระดับนี้ในโลกมนุษย์ที่เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่าและขาดแคลนทรัพยากรบำเพ็ญเพียรมากที่สุด ซึ่งเห็นได้ว่าพรสวรรค์การบำเพ็ญเพียรของเซี่ยเหอนั้นน่ากลัวเพียงใด
รูม่านตาของตู้อวี้ซานหดลงทันที ก่อนหน้านี้เขากำลังจะเปิดศึกกับสมาคมผู้อาวุโส เขาคิดว่านอกจากกำจัดหยางเฉินแล้ว คนอื่นๆไม่จำเป็นต้องพูดถึง เขาไม่คิดว่าจะมีผู้แข็งแกร่งอายุน้อยแดนนภาขั้นสามชั้นยอดคนนี้ด้วย
“นักบูโดโลกบู๊โบราณที่หยิ่งผยองอย่างพวกนาย บำเพ็ญเพียรในในสภาพแวดล้อมที่ชี่ทิพย์มีความเข้มข้นกว่าโลกมนุษย์มากและยังดื่มด่ำกับทรัพยากรการบำเพ็ญเพียรขนาดใหญ่ของสำนักแต่ก็ได้แค่แดนนภาขั้นสี่ชั้นต้นและชั้นกลางแต่ยังมีหน้ามาอวดดีที่โลกมนุษย์?”
เซี่ยเหอมองหลิวชิ่งอย่างเย็นชาและพูดจากนั้นกวาดสายตาไปยังผู้แข็งแกร่งของสำนักเทียนไห่และพูดอย่างเย็นชา: “หากนายยังมีหน้าต่อสู้กับพวกเราก็สู้ให้เต็มที่”
“แต่ว่าหากพวกนายคิดว่าคนของโลกมนุษย์อย่างพวกเราต่างอ่อนแอ พวกนายจะเสียใจ!”
“บูม!”
เมื่อสิ้นเสียงของเธอ อ่อร่าบู๊ที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากภายในตัวของเธอ
“บูม!”
ทันใดนั้น สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็แลบบนท้องฟ้า ราวกับว่าพวกมันกำลังจะทำลายโลกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
ผู้แข็งแกร่งของสำนักเทียนไห่แต่ละคนเต็มไปด้วยประหลาดใจ
พวกเขาคิดว่าแดนนภาขั้นสามชั้นยอดคือจุดสูงสุดของเซี่ยเหอ ไม่คิดว่าพลังของเขาจะพัฒนาได้อีกและนำมาซึ่งภัยพิบัติสวรรค์
ยังกล้าฝ่าภัยพิบัติสวรรค์ในสถานการณ์เช่นนี้?
สายของหลิวชิ่งเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ในสำนักเทียนไห่เขาเป็นบูโดอัจฉริยะที่สำนักฝึกฝนเป็นพิเศษและมีผู้หญิงที่คู่ควรกับเขามีไม่มากนัก
ตอนนี้เมื่อได้เห็นพรสวรรค์ด้านบูโดของเซี่ยเหอแล้ว เขารู้สึกว่าผู้หญิงแบบนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับเขา
แม้ว่าเซี่ยเหอกำลังจะฝ่าภัยพิบัติสวรรค์แล้วยังไง?
หลังจากฝ่าภัยพิบัติสวรรค์ เธอก็เข้าสู่แดนนภาขั้นสี่ชั้นต้นเท่านั้น แต่เขาอยู่ระดับแดนนภาขั้นสี่ชั้นยอดแล้ว
เย่จางกั๋วและผู้แข็งแกร่งกองยุทธการจงโจวรวมถึงทีมบูโดต่างก็ตกตะลึงในขณะนี้ โดยเฉพาะทีมบูโดยิ่งประหลาดใจมาก พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในหมู่พวกเขาก็จะมีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ซ่อนอยู่
ขณะนี้หลิวชิ่งมองเซี่ยเหอและกล่าวว่า “ภัยพิบัติสวรรค์ไม่ได้เอาชนะง่ายขนาดนั้น โดยเฉพาะภัยพิบัติสวรรค์ของนักบูโดแดนนภาขั้นสามชั้นยอด มันน่ากลัวมากถ้าเธอไม่ระวังภายในของเธอจะถูกทำลาย”
“ถ้าเธอยอมเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะให้ยาคุ้มกันร่างกายแก่เธอ เมื่อเธอกินมันเข้าไปจะสามารถเพิ่มโอกาสการก้าวหน้าได้10%”
พูดจบก็ขวดสีขาวปรากฏขึ้นในมือของหลิวชิ่งซึ่งบรรจุยาคุ้มกันร่างกายไว้ในขวดนี้