ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1091
“ก็ได้ ตกลงค่ะ!”
แม้ว่าอีวอนน์จะลังเลเป็นอย่างมาก แต่เธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวของเธอเองเพื่อช่วยให้ฮาร์วีย์พ้นจากปัญหาครั้งนี้
เธอได้ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าคริสจะสามารถแต่งงานกับเธอได้ก็จริง แต่เขาก็จะไม่มีวันได้ใจของเธอ
และเธอก็พร้อมที่จะดึงคริสให้ตกต่ำลงไปพร้อม ๆ กับเธอด้วย!
ในขณะเดียวกัน ริต้า ลอว์สันพี่สะใภ้ของอีวอนน์ก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดขึ้นมาว่า “คุณปู่คะ แค่วาจาสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ของเธออาจจะยังไม่เพียงพอนะคะ บางทีพวกเราควรจะจัดการให้เธอทำการเซ็นสัญญาเสียก่อนดีไหมคะ”
เหล่าคนอื่น ๆ ที่เหลือของตระกูลซาเวียร์ต่างก็เห็นพ้องต้องกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้นของริต้า
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีการทำข้อตกลงระหว่างกัน ในสัญญาระบุว่า หากตระกูลซาเวียร์สามารถช่วยฮาร์วีย์ให้รอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ อีวอนน์จะต้องแต่งงานกับคริส
สีหน้าของอีวอนน์นั้นดูเคร่งเครียด เธอกัดฟันแน่นก่อนที่จะลงนามในสัญญานั้นในท้ายที่สุด
เหล่าตระกูลซาเวียร์ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าอันพึงพอใจและเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข
เมื่อตระกูลลีโอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขาแล้ว พวกเขาตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่งก็จะมีโอกาสเติบโตและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
สถานะทางสังคมและอำนาจของพวกเขานั้นก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
ด้วยข้อตกลงนี้ไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าจะถึงวันที่ตกลงกันเอาไว้ในสัญญาหรอก เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้วอีวอนน์ก็ถูกกำหนดให้ต้องแต่งงานกับคริสอยู่ดี
นี่เป็นเพราะตระกูลซาเวียร์มั่นใจมาก ๆ ว่าตระกูลซาเวียร์ที่โวลซิ่งจะยอมตกลงช่วยเหลือในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
และยิ่งถ้าเชลดอนตกลงที่จะให้ความร่วมมือไปไกล่เกลี่ยกับตระกูลลีโอจากฮ่องกงแล้ว นี่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่โตอะไรมากนัก
หลังจากนั้นไม่นาน เชลดอนก็โทรหาคริส
คริสได้ข่าวมาว่าร็อคโคนั้นบาดเจ็บสาหัสจนพิการไปแล้ว และเขาก็กำลังคิดหาวิธีที่จะจัดการกับฮาร์วีย์อยู่
เขารับสายและตอบด้วยน้ำเสียงสุดเคร่งขรึม “ผู้เฒ่าซาเวียร์ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
“คุณก็น่าจะรู้เรื่องดีอยู่แล้ว ใช่ไหม?” เชลดอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“แน่นอน ผมรู้ และพวกคุณตระกูลซาเวียร์จะต้องให้คำชี้แจงอย่างยุติธรรมกับผมในเรื่องนี้ด้วย!” คริสตอบกลับอย่างเย็นชา
เชลดอนครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า “ที่ฉันโทรมาเนี่ยก็เพื่อจะพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้แหละ”
“อีวอนน์บอกว่าถ้าคุณตกลงที่จะไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ เธอจะยอมตกลงแต่งงานกับคุณ”
คริสชะงักทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่คิดว่าความสุขของเขามันจะมาถึงปุบปับและกะทันหันเช่นนี้
แต่เขาก็กลับมารู้สึกตัวในเวลาไม่นานนักและตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุดเย็นชาว่า “ผมคิดว่าที่เธอยอมแต่งงานกับผม นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอต้องการที่จะช่วยคนรักของเธอน่ะสิ”
“ก็ประมาณนั้นแหละ คุณคริส!”
“ก็ได้ ผมตกลง!” คริสตอบอย่างเย็นชา
“แต่ว่า ผมมีข้อแม้สำหรับเรื่องนี้ เราจะต้องป่าวประกาศเรื่องงานแต่งงานระหว่างอีวอนน์กับผมอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ทุก ๆ คนได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมต้องการที่จะทำให้เธอไม่มีทางที่จะปฏิเสธเรื่องงานแต่งของเราได้อีก!”
เชลดอนขมวดคิ้ว
“คุณกำลังหมายถึง…”
“พิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์! ถ้าหากเราทุกคนเข้าร่วมในพิธี อีกทั้งผมยังต้องการให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์มาร่วมเป็นสักขีพยานในงานด้วย และด้วยวิธีนี้มันจะเป็นการทำให้เธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธหรือหนีไปไหนได้อีก!”
“เพราะว่าถ้าเธอทำเช่นนั้น มันก็จะเทียบเท่ากับการตบหน้าของทั้งสองคนไปด้วย!”
คริสวางสายทันทีหลังจากที่พูดจบ
เชลดอนถึงกับพูดอะไรไม่ออก
และเมื่อเขามองไปยังอีวอนน์ที่กำลังเศร้าโศกอย่างที่สุดอยู่ เขาไม่รู้เลยว่าเขาควรจะรู้สึกอย่างไรในขณะนี้
“คุณปู่คะ เขา… เขาตกลงทำตามเงื่อนไขไหมคะ?” อีวอนน์ถามขึ้นหลังจากที่เธอพยายามรวบรวมสติ
“เจ้าชายลีโอเขาตกลง แต่ทว่าเขามีข้อแม้ และข้อแม้นั่นก็คือการประกาศงานแต่งงานระหว่างหลานกับเจ้าชายอย่างเป็นทางการ”
“ส่วนเวลาและสถานที่ที่เขาเลือกนั้นก็คือระหว่างพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์!”
“เขายังต้องการให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธและผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานของหลานอีกด้วย!” เชลดอนพูดอย่างตะกุกตะกัก
ตุบ!
อีวอนน์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเชลดอน
คริสไม่ได้ตั้งใจทำสิ่งนี้หรือจงใจวางแผนเอาไว้จริง ๆ ใช่ไหม?!
เขาต้องการประกาศเรื่องงานแต่งงานของอีวอนน์กับเขาต่อหน้าชายที่เธอรักมากที่สุดอย่างนั้นหรือ?!