ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1093
เจสซีแสดงความชื่นชมและเคารพอย่างออกหน้าออกตา
หัวหน้าผู้ฝึกสอนค่ายศัสตราวุธช่างเป็นตำนานในกองกำลังทหารอย่างแท้จริง เขาเป็นตำนานที่ยังมีชีวิต
คริสตัวสั่นเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามว่า “อะไรนะ? หัวหน้าผู้ฝึกสอนอาจจะสามารถเข้ารับตำแหน่งผู้อาวุโสในกองทัพได้อย่างนั้นหรือ? คุณจริงจังไหมเนี่ย?!”
“ไม่มีอะไรต้องน่าสงสัยเลยแม้สักนิด ใครจะมีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งนี้ได้อีกล่ะนอกจากเขา” เจสซีคร่ำครวญพรรณนา
คริสสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ถ้าเป็นในกรณีนี้ เราก็ควรจะพยายามสู้เพื่อการยอมรับจากเขา!”
“ถ้าเขายอมรับพวกเราและเต็มใจที่จะช่วยเราแล้ว คราวนี้จะไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งงานของผมเพียงเท่านั้น สิ่งสำคัญก็คือเราจะสามารถมีสายสัมพันธ์อันดีงามกับว่าที่ผู้อาวุโสของกองทัพในอนาคตอีกด้วย!”
“บางทีพวกเราอาจจะใช้สายสัมพันธ์ครั้งนี้เพื่อทำให้ตระกูลลีโอขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกของตระกูลแนวหน้าก็ได้นะ!”
คริสรู้สึกเหมือนยังปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว ถ้าเขาสามารถสนิทสนมกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้แล้วละก็…จะไม่มีใครหน้าไหนที่กล้าที่จะเข้ามาคุกคามตำแหน่งของเขาในฐานะเจ้าชายแห่งตระกูลลีโอได้อีก
เจสซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับว่า “เอาล่ะ ผมจะคิดหาวิธีก็แล้วกันนะ”
“ผมคิดว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนคงจะไม่ปฏิเสธเรื่องเล็กน้อยเช่นการประกาศเรื่องงานแต่งงานหรอกนะ”
“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย!”
คริสรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง
มองจากรูปลักษณ์สิ่งต่าง ๆ คร่าว ๆ แล้ว พิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์ครั้งนี้จะถือเป็นโอกาสอันดีของเขาที่จะยืนยันอำนาจและอิทธิพลของตัวเอง
ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถจัดการแต่งงานกับตระกูลซาเวียร์ได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเขาจะสามารถเข้าใกล้หัวหน้าผู้ฝึกสอนได้อีกด้วย!
“เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ทุกคนก็จะอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉัน! ไม่ว่าจะเป็นควินตัน ยอร์กหรือเจ้าชายยอร์กก็ตาม”
“ตระกูลลีโอถูกลิขิตให้อยู่ในกำมือของฉันแล้ว!”
คริสกอดอกด้วยความปิติยินดีราวกับว่าเขาได้เห็นอนาคตที่สดใสของตัวเองแล้ว
…
ณ เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นท์
ฮาร์วีย์กดวางสายโทรศัพท์ในมือ
อีธาน ฮันต์เพิ่งโทรมาหาเขา
เขาได้รับข่าวมาว่าเพื่อนของเจสซีหวังว่าเขาจะสามารถเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศเรื่องงานแต่งงานหลังจากพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์
ฮาร์วีย์จำได้ว่าเจสซีคือใคร เขาได้รับการฝึกฝนในค่ายศัสตราวุธมาก่อน ก่อนที่จะถูกย้ายไปที่ฟรอส เอจยังไม่ถึงหนึ่งปีเสียด้วยซ้ำ
เด็กฝึกคนนี้ยังเป็นคนที่เก่งมาก ๆ มีคุณสมบัติที่ดีของการเป็นทหารชั้นสูง อีกทั้งฮาร์วีย์ยังค่อนข้างผูกพันกับทหารที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขาอีกด้วย
แม้แต่อีธานเอง เขาก็รีบโทรมาในเวลานี้ เขาจึงตอบตกลงทันทีโดยไม่ขอรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมอีก
“ฮาร์วีย์ มีอะไรเหรอ?” แมนดี้ถามทันทีหลังจากที่เห็นสีหน้าที่ดูจริงจังมากของฮาร์วีย์
ฮาร์วีย์ตอบกลับว่า “คนที่ผมรู้จักมานานแล้ว เขาต้องการให้ผมร่วมเป็นสักขีพยานในงานประกาศเรื่องงานแต่งงานของเพื่อนเขาในอีกสามวันข้างหน้าน่ะ”
“ใครจะแต่งงานเหรอ? ฉันรู้จักพวกเขาไหมคะ?”
แมนดี้อยากรู้อยากเห็น
เพราะโดยปกติทั่วไปแล้ว เหล่าผู้คนจะเลือกคนใหญ่คนโตที่มีความโดดเด่นซึ่งมีสถานะอันสูงส่งทางสังคมและมีอำนาจมาก ๆ ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในงานเท่านั้น
แล้วทำไมคน ๆ นี้ถึงต้องงการขอให้ฮาร์วีย์ไปร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีงานแต่งงานของเขาล่ะ?
ฮาร์วีย์ยิ้ม
“เพื่อนของเบลลามี่เชิญผมไปน่ะ”
“โอ้ ผมลืมบอกคุณไป เบลลามี่มาที่เซาท์ไลท์เพื่อเตรียมตัวสำหรับเข้ารับตำแหน่งใหม่ของเขา งานแต่งงานจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากพิธีการในงานของเขาเสร็จสิ้น”
แมนดี้จึงถามด้วยความสงสัย “เขาเก่งมากขนาดนั้นจริง ๆ หรือเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย? อีกทั้งเขายังได้รับการจัดพิธีการเข้ารับยศอย่างยิ่งใหญ่ให้อีกด้วย จริง ๆ หรือเนี่ย?”
ฮาร์วีย์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วตอบกลับว่า “เขาก็ไม่เท่าไหร่หรอกน่า ไม่ดีเท่าสามีของคุณหรอกนะ”
แมนดี้หัวเราะคิกคักหลังจากที่ได้ยินสามีของเธอพูดปัดออกมาอย่างนั้น
“ใช่ ใช่ ใช่ สามีของฉันเก่งที่สุดในโลกเลยยยย”
“ถ้าวันนั้นฉันว่าง ฉันจะไปกับคุณด้วยนะคะ”
ฮาร์วีย์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง แล้วก็พยักหน้าเบา ๆ
พิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในค่าย แต่อยู่ในสถานที่จัดงานของทางรัฐบาลเซาท์ไลท์
ว่ากันว่าเหล่าคนใหญ่คนโตที่มีสถานะและยศสูงในเซาท์ไลท์ก็จะมาเข้าร่วมพิธีครั้งนี้ด้วย
คงจะดีถ้าแมนดี้ได้ไปด้วย การพบปะผู้คนใหม่ ๆ จะช่วยเธอในเรื่องการทำธุรกิจ