ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1146
หลังจากนั้นไม่นาน แมนดี้กัดฟันแน่นและถอนหายใจออกมาในที่สุด เธอไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
เธอเป็นคนจิตใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ เธอจะมองเหล่าตระกูลเยตส์ไม่ออกได้อย่างไร?
แต่เธอเพียงแค่ไม่สามารถก้าวผ่านความรู้สึกที่มันติดค้างอยู่ภายในหัวใจของเธอได้ก็เท่านั้นเอง
เมื่อฮาร์วีย์พูดเรื่องนี้ออกมาตรง ๆ มันก็ทำให้แมนดี้รู้สึกโล่งใจได้บ้าง
“ที่รัก ขอบคุณนะ ฉันเข้าใจดีว่าพวกเขาปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นเครื่องมือ และฉันจะไม่ฟังพวกเขาอีกแล้ว”
“ตระกูลเยตส์สมควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง”
แม้ว่าแมนดี้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่หัวใจของเธอก็ยังคงเจ็บปวดรวดร้าวด้วยคำว่าครอบครัว
แต่ฮาร์วีย์นั้นเขาไม่คิดจะให้โอกาสกับตระกูลเยตส์อีกเลยแม้สักครั้งเดียว
เขาส่งซีนเธียร์ไปสำรวจมหาวิทยาลัยที่ต่างเมืองเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้ทั้งไซม่อนและลิเลียนออกจากบัควู้ดไปก่อน อีกทั้งเขายังเสนอให้ทั้งสองใช้เวลาเที่ยวเล่นพักผ่อนหย่อนใจในมอร์ดูและโวลซิ่งก่อนกลับมา
และด้วยเหตุนี้ เหล่าตระกูลเยตส์ก็จะไม่มีทางติดต่อกับไซม่อนและลิเลียนได้
…
ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์
ทุกคนพยายามโทรหาครอบครัวของแมนดี้ด้วยท่าทางอันสิ้นหวัง แต่ทว่ามันก็ไม่เป็นผลเลย
ฟินน์กลับมาใจจดใจจ่ออีกครั้ง
“คุณย่าครับ ผมจะให้คนตรวจสอบเรื่องนี้ให้นะครับ”
“ไซม่อน, ลิเลียน, และซีนเธียร์ พวกเขาทั้งหมดขึ้นเครื่องบินและออกจากบัควู้ดไปเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเพื่อไปสำรวจมหาวิทยาลัย ผมได้ยินมาว่าพวกเขาจะเดินทางไปยังเมืองใหญ่ ๆ สองสามเมือง พวกเขาจะไม่มีทางกลับมาเร็ว ๆ นี้แน่อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็น่าจะไปสักสิบถึงสิบห้าวันอย่างต่ำ!”
“และพวกเราก็ไม่รู้ด้วยว่าฮาร์วีย์กับแมนดี้ไปไหน หาตัวพวกเขายากมาก!”
“ไปกดกริ่งที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นท์ก็แล้ว แต่ก็ไม่มีใครอยู่เลย!”
ตระกูลเยตส์ต่างก็รู้สึกเป็นกังวลเมื่อได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในตอนนี้
ความหวังทั้งหมดของพวกเขามันถูกเอาไปวางไว้บนบ่าของแมนดี้ และเหล่าตระกูลเยตส์ต่างก็ยังคงคิดว่าพวกเขาจะยังมีโอกาสหากว่าแมนดี้กลับมาช่วยพลิกผันสถานการณ์ของบริษัทครั้งนี้
มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?
คุณย่าเยตส์ร่ำไห้จนไม่เหลือน้ำตาให้ไหล อีกทั้งเธอยังไอหนักมาก
“มันเป็นความผิดของเจ้าฮาร์วีย์! ยัยแมนดี้เองก็หลงมันหัวปักหัวปำ!”
“ฉันไม่คิดเลยว่าเจ้าลูกเขยตัวดีนั่นมันจะทำกับพวกเราได้ถึงขนาดนี้! มันหยามกันมากไปแล้ว!”
“ฉันล่ะอยากจะบีบคอเจ้าฮาร์วีย์ให้ตายเสียเดี๋ยวนี้เลยจริง ๆ !”
เหล่าตระกูลเยตส์โกรธจนแทบจะคลั่ง
ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีรถสองสามคันเข้ามาจอดในบริเวรคฤหาสน์ของตระกูลเยตส์
“ก่อนอื่นพวกเราขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน พวกเราเราทุกคนเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากกังนัม พวกเรายังคงรอให้บริษัทของคุณดำเนินการสร้างวิลล่าให้เสร็จ เพื่อที่พวกเราจะได้จัดการในด้านธุรกิจต่อไป!”
“นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีทีมก่อสร้างหลงเหลืออยู่ที่ไซต์งานเลย แม้กระทั่งสุนัขเฝ้ายามก็ยังหายไปด้วย พวกคุณกำลังจะยกเลิกโครงการทั้ง ๆ ที่มันยังสร้างไม่เสร็จหรือไง?”
ผู้คนจากกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างก็โกรธจัดและต้องการคำอธิบายจากตระกูลเยตส์
พวกเขาหวังพึ่งพาโครงการนี้เพื่อหารายได้และผลกำไร หากซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ตมาหยุดการก่อสร้าง พวกเขาก็จะสูญเสียรายได้ไปอย่างมหาศาล
“ไม่เลย พวกเราจะยังคงดำเนินการโครงการนี้ต่อไป เราอาจจะเลื่อนการก่อสร้างออกไปก็จริง แต่วิลล่าจะเสร็จเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน”
แม้ว่าเบ็นจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก ๆ ก็ตาม แต่เขาก็ต้องลุกขึ้นและจัดการกับสถานการณ์ที่อยู่ในมือตอนนี้
“คุณกำลังจะบอกว่าจะเลื่อนเวลาส่งมอบโครงการเหรอ? ตามสัญญาที่ลงนามเอาไว้แล้ว พวกคุณจะต้องจ่ายในราคาสามเท่าของจำนวนเงินมัดจำนะ!”
“เนื่องจากคุณไม่มีทางสร้างวิลล่าให้เสร็จภายในระยะเวลาที่ระบุในสัญญาของโครงการแล้ว ถ้างั้นพวกเราก็ไม่ต้องการวิลล่าอีกต่อไปแล้ว คืนเงินของพวกเรามา!”
“ถ้าไม่ ก็รู้เอาไว้ด้วยว่าพวกเรามีทีมทนายเก่ง ๆ คุณก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน!”
ตามปกติแล้ว บริษัทอื่น ๆ เมื่อต้องพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็จะเลือกที่จะคืนเงินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เบ็นได้พยายามอ้อนวอนขอร้องด้วยท่าทางสุดขมขื่น
“ทุก ๆ คน ในตอนนี้บริษัทของพวกเราอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยจะดีนัก แต่เราไม่ได้มีเจตนาที่จะยกเลิกโครงการทั้งที่ยังสร้างไม่เสร็จหรอกนะ เราจะสร้างวิลล่าให้เสร็จแน่นอนครับ ขอให้พวกคุณทุกคนได้โปรดไว้วางใจเถอะ!”
ผัวะ!
ชายร่างกำยำที่ดูเหมือนนักมวยเดินออกมาข้างหน้าและได้ตบเข้าที่หน้าของเบ็นจนเกือบที่จะทำให้ใบหน้าของเขาดูผิดรูป
เบ็นเอามือปิดหน้าของเขาเอาไว้และตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด “แกกล้าดียังไงถึงได้มาตบหน้าฉัน?!’
“แกไม่รู้เหรอว่าครอบครัวเยตส์เป็นครอบครัวของข้าราชการ? ไม่อยากอยู่ต่อแล้วเหรอ!”