ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1205
ในเวลาเดียวกัน
ฮาร์วีย์ได้พาผู้อาวุโสออสการ์มาที่กองกำลังทหารของเซาท์ไลท์
เบลลามี่ เบลคได้จัดเครื่องบินทหารเอาไว้และส่งออสการ์ไปยังเซ็นทรัลเพลนส์ทันที
เมื่อออสการ์จากไป เบลลามี่ขมวดคิ้วและแสดงสีหน้าเป็นกังวล
“หัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ เรื่องนี้ผมจะต้องรับผิดชอบ!”
“คนเหล่านี้ทำตัวโอหังมากจนเกินงามในประเทศ H ผมต้องหาโอกาสที่จะทำให้พวกเขาได้เข้าใจว่าอะไรที่ควรไม่ควรเสียบ้าง!”
ฮาร์วีย์ชำเลืองมองเขาและตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “คุณไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยตำแหน่งปัจจุบันของคุณหรอก เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศหากเราไม่ดำเนินการอย่างระมัดระวัง”
“แม้ว่าประเทศ H จะไม่ได้เกรงกลัวประเทศใด ๆ เลยก็ตาม แต่ถ้าเราทำสงครามผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ต่าง ๆ มักจะเป็นเหล่าพลเมืองที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”
“นั่นเป็นเหตุผลที่เราควรป้องกันไม่ให้สิ่งใดบานปลายไปมากกว่านี้ตราบเท่าที่เราสามารถจะทำได้…”
เบลลามี่จึงตอบกลับว่า “แต่คนอเมริกันเหล่านี้ทำเกินไปจริง ๆ นะครับท่าน!”
“ไม่ใช่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นนี่สิ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน, เผ่านักสู้, ประเทศหมู่เกาะ, ประเทศ J, อินเดีย, และประเทศอื่น ๆ ล้วนมีตระกูลใหญ่และกลุ่มนักธุรกิจทุนหนาที่พยายามจะเข้ามาแทรกแซงหาผลประโยชน์ในบัควู้ด!”
“พวกเขามองหาโอกาสที่จะบุกตลาดของบัควู้ดอยู่!”
“แต่ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนครับ พวกเราไม่สามารถที่จะนั่งดูเฉย ๆ และไม่ทำอะไรเลยได้นะครับ”
ฮาร์วีย์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ครู่หนึ่งและตอบกลับว่า “ฉันจำได้ว่านายใหญ่บอกว่าถ้าประเทศ H ต้องการที่จะเป็นประเทศชั้นนำของโลก เราต้องต่อสู้อย่างสันติวิธี”
“สงครามยูโร-อเมริกาเพิ่งสิ้นสุดเมื่อสามปีที่แล้ว ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะทำให้เกิดเปลวไฟแห่งสงครามขึ้นอีกครั้ง”
“ไปแจ้งโยเอล เกรฮัมที ไม่ว่าหน่วยงานในต่างประเทศไหนก็ตามที่เข้ามาในประเทศเรา ถ้าหากพวกเขาปฏิบัติตามกฎของธุรกิจประเทศ H และเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน พวกเราก็จะยินดีต้อนรับพวกเขา”
“แต่ถ้ามีใครก็ตามพยายามที่จะขโมยเงินและที่ดินในประเทศของเราไป หรือแม้แต่ความคิดชั่วร้ายอื่น ๆ ฉันจะจัดการพวกเขาด้วยตัวของฉันเอง”
“ในตอนนี้ฉันก็ไม่ได้มีตำแหน่งทางการทหารแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดถ้าฉันจะเป็นคนที่จัดการสถานการณ์นี้ด้วยตัวเอง”
“ครับท่าน! ผมเข้าใจแล้ว!”
เบลลามี่โค้งคำนับแสดงความเคารพหลังจากที่เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างแล้ว
แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะเกษียณตัวเองไปแล้ว แต่หัวใจของเขานั้นยังคงรักและหวงแหนประเทศเฉกเช่นชายชาติทหาร
ประเทศ H เสมือนได้รับพรจากสรวงสวรรค์ในการมีหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างเช่นเขาคอยอยู่เคียงข้าง พลเมืองที่นี่ช่างโชคดีเหลือเกิน!
“อีกเรื่องหนึ่ง บอกรัฐบาลและกองกำลังตำรวจว่าอย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตระกูลเยตส์จากอเมริกาเด็ดขาด”
“ไม่ว่าเขาจะเข้ามาในประเทศ H ในรูปแบบไหน พวกเขาจะต้องกลับไป แม้ว่าพวกเขาจะใหญ่โตมาจากไหนก็ตาม”
“พวกเขาจะมีสิทธิ์ไปเสียใจและสำนึกผิดในนรกเท่านั้น ถ้าหากว่าพวกเขาวางแผนหรือคิดร้ายกับครอบครัวของฉันหรือคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง”
คำพูดของฮาร์วีย์ดูสงบและเยือกเย็น
แต่เบลลามี่นั้นได้เริ่มสวดภาวนาให้กับตระกูลเยตส์จากอเมริกาแล้ว
พวกเขาเข้ามายั่วยุชายคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าของเขาขณะนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการเปิดประตูเข้าสู่นรกเสียแล้ว
…
ณ คฤหาสน์ของบรรพบุรุษตระกูลเยตส์
นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์กำลังจิบชาอย่างเงียบ ๆ ขณะรอฟังข่าวจากพ่อบ้าน
ในระหว่างที่รอนั้น บางครั้งเขาก็เอื้อมมือซ้ายออกเพื่อแสดงท่าทางต่าง ๆ
ทุกคนที่รู้จักนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์จะรู้กันเป็นอย่างดีว่าเขากำลังฝึกสามกระบวนท่าหลักที่เรียกว่า “ศิลปะแห่งการแปรผัน”
ว่ากันว่าสามกระบวนท่านี้ไม่เพียงแต่มีพลังมหาศาลเท่านั้น แต่การฝึกฝนกระบวนท่าในทุก ๆ วันมันจะส่งผลทำให้ผู้ฝึกมีสมาธิที่แน่วแน่
นั่นคือเหตุผลที่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์มีความแน่วแน่ในความคิดของตัวเองมาก ๆ
ทุกคนรอบ ๆ ตัวเขาแอบถอนหายใจออกมาอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้นจู่ ๆ พ่อบ้านเยตส์ก็วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา
“นายท่าน แย่แล้ว! ท่าไม่ดีแล้ว!”
นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ขมวดคิ้ว
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้จัดการกับสิ่งต่าง ๆ อย่างใจเย็น? ตั้งสติ แล้วบอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น”
พ่อบ้านเยตส์สูดหายใจเข้าลึกพยายามสงบสติอารมณ์
“แย่แล้ว นายใหญ่ที่สามตาแก่ออสการ์ถูกส่งตัวกลับไปยังที่เซ็นทรัลเพลนส์แล้ว!”
พรวดดดด!
น้ำชาถูกพ่นออกมาจากปากของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์
เขาโกรธจัดเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ใครกัน? ใครหน้าไหนที่กล้าทำแบบนี้?!”
“นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
“นี่มันไม่เคารพไม่เห็นหัวฉันบ้างเลยหรือไง?!”