ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1209
แขกยังคงหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้างานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อแขกในงานนั่งประจำที่กันจนหมดแล้วก็เห็นว่าที่นั่งของเจ้าภาพยังคงว่างอยู่
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มแล้ว ตระกูลเยตส์ทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่หน้าห้องโถงและพูดออกมาเสียงดังอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ยินดีต้อนรับ นายใหญ่ที่สามแห่งตระกูลเยตส์!”
ท่ามกลางความสนอกสนใจของฝูงชนในงาน นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ก็เดินออกมาจากห้องโถงด้านหลัง
เขาสวมชุดสูทสีเขียวมันดูเรียบ ๆ แต่บนสูทนั้นใช้ไหมสีทองในการปักลวดลายมังกรดูน่าเกรงขาม
นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์มีราศีของชายผู้ยิ่งใหญ่อยู่อย่างเต็มเปี่ยม เขาเป็นผู้มีอำนาจอิทธิพลอีกทั้งยังมีสถานะทางสังคมอันสูงส่งมาเป็นเวลานาน เพียงแค่การมองของเขามันก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าฝูงชนลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพต่อเขาทันที
เหล่าคนใหญ่คนโตบางคนถึงกับหายใจหายคอไม่สะดวกเมื่อพวกเขามองไปที่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์
‘ตามที่คาดเอาไว้เลย นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ ออร่าและกิริยาท่าทางแบบนั้นใครจะเทียบกับเขาได้อีกล่ะ?’
บางคนถึงขั้นคิดว่าตลาดธุรกิจทั้งหมดของบัควู้ดและเซาท์ไลท์จะตกไปอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น
ไม่มีใครคู่ควรที่จะไปแข่งขันกับเขาได้เลย
นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์สำรวจรอบ ๆ บริเวณห้องโถงทั้งหมด เขาครุ่นคิดสักพักจากนั้นเขาก็ได้พูดขึ้นพร้อมท่าทางสุดเย็นชาว่า “เจ้าชายยอร์กจากสกาย คอร์ปอเรชั่นอยู่ที่ไหนเหรอ? แสดงตัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
ทุกคนต่างก็ตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
เขาต้องการพบเจ้าชายยอร์กทันทีที่เขามาถึงเลยหรือ?!
เจ้าชายยอร์กถือได้ว่าเป็นชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเซาท์ไลท์!
นี่มันคงเป็นการต่อสู้ระหว่างสองมหาอำนาจที่แท้จริง นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์กำลังท้าทายเจ้าชายยอร์ก!
ทุกคนเข้าใจไปทางเดียวกันว่าถ้าเขาสามารถล้มเจ้าชายยอร์กได้ นั่นมันก็หมายความว่าเขาจะสามารถเข้ายึดครองเซาท์ไลท์ทั้งหมดได้
ไม่มีใครกล้าที่จะทำตัวโดดเด่นในช่วงเวลาอันน่าอึดอัดใจเช่นนี้ ฝูงคนในงานต่างสบตากันแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
“เขาอยู่ที่ไหน? เขามาหรือยัง?” นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ยังคงตามหาเจ้าชายยอร์กต่อไป
“นายใหญ่ที่สาม คนจากสกาย คอร์ปอเรชั่นคงจะไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าเข้ามาที่นี่!”
“พวกเขาคงกลัวท่านแน่ ๆ เลย!”
“ใช่ ใช่ ใช่! มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอนอยู่แล้ว!”
เหล่าตระกูลเยตส์จากบัควู้ดใช้โอกาสนี้พูดเพื่อเอาใจเขา
แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่านายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์จะมีสายตาที่เย็นชามากยิ่งขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของพวกเขา
เขาส่งคำเชิญแกมบังคับให้เจ้าชายยอร์กมาปรากฏตัวในงานนี้
แต่เขากลับไม่กล้ามาเหรอ?
กล้าดียังไงถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา!
หยามกันเกินไปแล้ว!
“ใครบอกว่าไม่มีคนจากสกาย คอร์ปอเรชั่นมาที่นี่เหรอ?”
เสียงอันเย็นยะเยียบได้ดังขึ้นในบรรยากาศอันอึมครึม
ชายคนหนึ่งค่อย ๆ เดินออกมาข้างหน้าอย่างช้า ๆ
การเคลื่อนไหวของเขามันเป็นท่าทีในแบบสบาย ๆ แต่มันกลับทำให้เหล่าฝูงชนในงานหายใจหายคอไม่สะดวก
“ฮาร์วีย์ ยอร์ก?!”
เหล่าตระกูลเยตส์เรียกชื่อเขาขึ้นมาทันทีโดยไม่รูตัว
ไม่มีใครคิดว่าเขาจะมาที่นี่ด้วย
วินาทีถัดมา สายตาของทุกคนก็เพ่งความสนใจไปยังฮาร์วีย์
มีเพียงไม่กี่คนเช่นโยเอล เกรฮัมและเชน ไนส์เวลล์ที่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ นอกเหนือจากพวกเขาทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง
เรื่องคืนนี้คงจะไม่คลี่คลายง่าย ๆ เพราะการมาของเขาอย่างแน่นอน
สายตาเหยียดหยามของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์มุ่งไปทางฮาร์วีย์
เขาไม่คาดคิดว่าตัวแทนของสกาย คอร์ปอเรชั่นจะเป็นคน ๆ เดียวกับที่ทำให้ลูกชายของเขานอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลขณะนี้
‘มันเป็นตัวแทนของสกาย คอร์ปอเรชั่นจริง ๆ เหรอ?
‘ดูเหมือนว่าเจ้าชายยอร์กค่อนข้างที่จะไว้ใจมันอยู่มากพอสมควร!’
สถานะของฮาร์วีย์ในสายตาของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์เปลี่ยนไปเล็กน้อย
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขายังไม่เข้าไปจัดการกับฮาร์วีย์อย่างบุ่มบ่าม เขาเพียงแค่จ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาสุดแสนที่จะเย็นชา
ฮาร์วีย์เดินไปตรงกลางของห้องโถง จากนั้นก็มองไปที่เหล่าตระกูลเยตส์จากบัควู้ดและระเบิดหัวเราะออกมาทันที
“คุณย่าเยตส์ คุณเลือกที่จะรับใช้คนอื่นอย่างกับสุนัขมากกว่าเลือกที่จะเป็นมนุษย์จริง ๆ เหรอ? พอใจกับตัวเองในแบบนี้จริง ๆ เหรอ?”